Photo : Wikimedia Commons
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้กำลังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความเป็นอยู่ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่งทางด้านมหาสมุทรและชายฝั่งทะเลก็เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก การเกิดพายุบ่อยครั้งทำให้แนวชายฝั่งเกิดความเสียหาย สิ่งที่ตามมาก็คือภาวะน้ำท่วมตามอ่าว หรือคาบสมุทรต่างๆในโลก
เมื่อเร็วๆนี้นักวิทยาศาสตร์จากองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตา ครูซ ได้รายงานลงวารสารพลอส วัน (PLOS ONE) ถึงแนวทางการฟื้นฟูโขดหินหอยนางรมตามชายฝั่งและแอ่งน้ำหรือพื้นที่ชุ่มน้ำ เพื่อลดพลังงานของคลื่นกระแทกพร้อมทั้งดักตะกอนและตัดคลื่นพายุ ซึ่งหลังจากวิจัยมาตรการฟื้นฟูแนวหอยนางรมและการฟื้นฟูแอ่งน้ำบริเวณอ่าวเม็กซิโก พบว่าพื้นที่แห่งนี้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในอ่าว ดังนั้นน่าจะเป็นแม่แบบให้กับชายฝั่งอื่นๆ ได้เช่นกัน
นักวิจัยเผยว่าพายุใหญ่และภัยพิบัติทางธรรมชาติมักก่อเกิดความเสียหายมูลค่าราวๆ 3,200,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในอนาคต ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการฟื้นฟูดังกล่าวอาจช่วยลดความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมตามพื้นที่เสี่ยงทั่วโลกในอีก 20 ปีข้างหน้า ทั้งยังเป็นการเสริมความแข็งแรงที่ดีกว่าการปิดกั้นชายฝั่ง โดยคาดว่าหากมาตรการนี้ประสบความสำเร็จก็จะหยุดการสูญเสียมูลค่ากว่า 1,600,000 ล้านบาทเลยทีเดียว.