มีนาคม 2561 เป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นการต่อสู้บนโลกใบนี้ที่เข้มข้นกว่าสงครามเย็น สงครามเย็นเป็นแค่การต่อสู้ของ 2 มหาอำนาจ และใช้สงครามตัวแทนยุแยงตะแคงรั่วให้ประเทศที่ถูกแบ่งว่าอยู่ในค่ายเสรีประชาธิปไตยและค่ายคอมมิวนิสต์รบกัน มีการส่งกองกำลังเข้าไปเปลี่ยนรัฐบาลของประเทศทั่วโลก

สงครามใหม่ที่เกิดขึ้น สหรัฐฯ อังกฤษ และพันธมิตร ต้องการสร้างความแขยงแขงขนให้กับประเทศที่กำลังทะยานขึ้นเป็นมหาอำนาจอย่างจีนและรัสเซีย

ขณะที่กำลังรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย คนรัสเซียที่ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศหลายคนถูกฆ่า เพื่อตะวันตกจะใช้กระพือโรคเกลียดปูตินและกลัวรัสเซีย

การที่ปูตินชนะเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561 ทำให้ตะวันตกหวั่นไหว เพราะในอดีตเคยมีนายโจเซฟ สตาลิน ผู้นำสหภาพโซเวียต อยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 28 ปี และเปลี่ยนโซเวียตจากประเทศเกษตรกรรมล้าหลังไปเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งและทะยานขึ้นมาเป็นอภิมหาอำนาจได้ในที่สุด

ส่วนปูตินก็มีแววทำให้สหพันธรัฐรัสเซียพุ่ง รัสเซียสมัยเยลต์ซินเป็นหนี้เยอะ เยลต์ซินเป็นผู้นำที่หาเงินไม่เป็น มีแต่กู้เอามาใช้จ่าย ทำงบประมาณขาดดุลทุกปี สถานะของรัสเซียในสายตาของนานาประเทศในยุคเยลต์ซินเป็นประเทศเอาตัวไม่รอด

ปูตินไม่ใช่นักธุรกิจ หาเงินไม่เก่งมาก แต่เป็นคนประหยัด เป็นผู้นำไม่กี่ปีก็เก็บสตางค์ใช้หนี้ได้จนหมด แถมยังมีเงินตราสำรองต่างประเทศเป็นอันดับ 3 ของโลก ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯมากถึง 1.4 แสนล้านดอลลาร์ รายได้แท้จริงของประชาชนเพิ่มขึ้น 2 เท่า ส่วนรายได้ต่อเดือนนั้น เพิ่มสูงขึ้นมากถึง 7 เท่า

...

ตอนปูตินเป็นผู้นำสมัยที่ 1 (พ.ศ.2543-2547) รัสเซียมีประชากรที่มีรายได้ต่ำกว่าระดับยากจนมากถึงร้อยละ 30 เมื่อสิ้นสุดสมัยที่ 2 ของการบริหารงานของปูติน (พ.ศ.2547-2551) ประชากรรัสเซียที่มีรายได้ต่ำกว่าระดับยากจนลดลงเหลือเพียงร้อยละ 14

ช่วงการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของปูติน รัสเซียเหลือเงินไปพัฒนานโยบายพลังงานและฟื้นฟูอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ ไปสร้างท่อส่งออกพลังงานหลายแห่ง

คนที่ไม่ได้ลงลึกศึกษางานของปูตินอย่างละเอียด มักจะเขียนจะพูดเอามันว่า ปูตินสนใจเอเชีย ชอบเอเชีย และยึดเอเชียเป็นสรณะ นักวิชาการบางท่านดราม่าถึงขนาดว่า ปูตินหันมานับถือศาสนาพุทธ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลยครับ

แม้ว่าจะเกิดและเติบโตในช่วงที่รัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตและเป็นคอมมิวนิสต์ แต่เนื้อแท้ของปูตินเป็นคนเชื่อในพลังอำนาจของพระเจ้าตามหลักของคริสตจักรรัสเซียออร์ทอดอกซ์ และเป็นราชวงศ์โรมานอฟนิยม

ถึงขนาดที่พอชนะเลือกตั้งสมัยแรกเมื่อ 7 พฤษภาคม 2543 ปูตินร่วมมือกับคริสตจักรรัสเซียออร์ทอดอกซ์ สถาปนาซาร์นิโคลัสที่ 2 ซารีนาอเล็กซานดรา เฟโอโดรอฟนา ซาเรวิชอเล็กเซย์ นีโคลาเยวิช และพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์ ที่ถูกพวกคอมมิวนิสต์ปลงพระชนม์เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว เป็นนักบุญเมื่อเดือนสิงหาคม 2543

ปูตินชอบยุโรป ตอนที่เป็นจารชนดีเด่นและได้รับการคัดเลือกให้ไปเรียนต่อที่สถาบันเคจีบี ยูรี อันโดรปอฟ ธงแดง เมื่อเจ้าหน้าที่สถาบันถามว่า พวกสหายจะเลือกเรียนภาษาอะไรกันบ้าง หลายคนเลือกภาษาไทย พม่า เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี จีน แต่ปูตินเลือกภาษาเยอรมัน ปูตินเรียนประวัติศาสตร์เยอรมันและวัฒนธรรมเยอรมันจนเป็นนักเยอรมันนิยมตัวจริง นอกจากเยอรมนีแล้ว ปูตินยังชอบฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศในทวีปยุโรป

ผมติดตามข้อเขียนของนักเขียนต่างประเทศหลายคน เกือบจะร้อยละร้อยเขียนว่า ปูตินเกลียดสหภาพยุโรป แต่ถ้าเราเอางานของปูตินในสองสมัยแรกของการเป็นประธานาธิบดีมานั่งอ่านโดยละเอียด จะพบว่า ปูตินสนับสนุนการขยายสมาชิกของสหภาพยุโรปและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เสียด้วยซ้ำไป

ใครได้อ่านงานและการบรรยายปราศรัยของปูตินในสองสมัยแรกของการเป็นประธานาธิบดี ปูตินจะพูดเสมอว่า รัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป ปูตินต้องการให้รัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป

แต่ยุโรปไม่เอาปูติน ไม่ต้องการให้รัสเซียเข้ามาร่วมวงไพบูลย์

ปูตินจึงอกหัก และหันไปหาจีนและอินเดีย เพื่อสร้างแนวร่วมใหม่

พรุ่งนี้มารับใช้กันต่อครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com