อาจารย์อู เอา จี่ มิด จะจัดงานแสดงสินค้าและขายสินค้าไทยในมะริด ระหว่าง 26 เมษายน-1 พฤษภาคม 2561 ที่เมืองมะริด ภาคตะนาวศรีของเมียนมา ท่านใดสนใจเชิญที่ Line ID @TNL9809X

อาทิตย์ 18 มีนาคม 2561 มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย คราวนี้มีผู้สมัคร 8 คน วลาดิเมียร์ ปูติน สมัครในนามอิสระ แต่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคยูไนเต็ดรัสเซียของนายกรัฐมนตรีดมิทรี เมียดแวเดียฟ และกลุ่มการเมืองแนวร่วมประชาชนรัสเซียทั้งมวลขณะที่กดแป้นพิมพ์รับใช้ผู้อ่านท่านอยู่ในขณะนี้ แม้ผลการเลือกตั้งยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผมก็เชื่อว่า นายปูตินจะชนะได้เป็นผู้นำรัสเซียสมัยที่ 4 อย่างแน่นอน

เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทีมงานเปิดเลนส์ส่องโลกได้รับอนุญาตพิเศษให้ไปถ่ายทำการหย่อนบัตรเลือกตั้งที่โรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา ผมถามคนรัสเซียหลายท่านว่าคุณจะเลือกใคร ได้รับคำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ปูติน” เมื่อถามว่า ทำไมหลายคนทำท่าทางยักไหล่ เหมือนกับจะบอกว่า ไม่มีคนอื่นให้เลือก คนหนึ่งตอบตรงไปตรงมาว่า ทั้งประเทศ มีนักการเมืองอย่างปูตินเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถพารัสเซียซัดกับประเทศตะวันตกได้

ประวัติศาสตร์รัสเซีย นายอิออซิฟ วิสซารีโอโนวิช ดจูกัชวีลี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต เป็นนักการเมืองที่ปกครองประเทศได้นานที่สุด แกเป็นเลขาธิการพรรคตั้งแต่ ค.ศ. 2470-2496 และเป็นผู้นำโซเวียตระหว่าง ค.ศ.2471-2496 ที่เป็นผู้นำได้นาน 26 ปี เพราะเป็นคนที่มีบุคลิกภาพแข็ง สร้างภาพลักษณ์ด้วยระบอบสังคมนิยมโซเวียตภายใต้แนวความคิดสังคมนิยมภายในประเทศเดียว จนประสบความสำเร็จ ทำให้สหภาพโซเวียตเปลี่ยนจากประเทศเกษตรกรรมล้าหลังเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง

ผมลืมบอกไปว่านายอิออซิฟ วิสซารีโอโนวิช ดจูกัชวีลี ก็คือ นายโจเซฟ วิสซารีโอโนวิช สตาลิน นั่นเองครับ

...

สตาลินร่วมมือกับประเทศพันธมิตรตะวันตกทำสงครามกับเยอรมนีจนมีชัยชนะ พอสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง สหภาพโซเวียตก็กลายเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ สามารถขยายอำนาจและอิทธิพลเข้าไปครอบครองประเทศยุโรปตะวันออก นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสงครามเย็นเป็นเวลาหลายสิบปี

พ้นจากสตาลิน โซเวียตไม่มีผู้นำที่เข้มแข็งอีกเลย ยุคของนายมีฮาอิล เซรเกเยวิช กอร์บาชอฟ ยิ่งอ่อนปวกเปียก ถึงขนาดทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลาย จากนั้นก็เป็นยุคของนายบอริส นีโคลาเยวิช เยลต์ซิน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่าง พ.ศ.2534-2542 ประเทศก็ยิ่งอ่อนปวกเปียก ยากจน มีปัญหาเงินเฟ้อ คนรัสเซียในสมัยนั้นเหงาเศร้าใจมาก จนถึง พ.ศ.2543 เมื่อได้นายวลาดิเมียร์ วลาดีมีโรวิช ปูติน เป็น ผู้นำประเทศ รัสเซียก็ค่อยๆผงาดขึ้นกลายมาเป็นมหาอำนาจโลกเหมือนยุคของสตาลิน

แค่สมัยที่ 2 ของการบริหารประเทศ พ.ศ.2547-2551 ปูตินก็ทำให้เศรษฐกิจรัสเซียขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง จนกลายเป็นประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจ จากประเทศที่ยากจนขัดสนเงินทองในยุคของเยลต์ซิน รัสเซียใน พ.ศ.2551 มีเงินตราสำรองต่างประเทศมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯมากถึง 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้แต่คนรัสเซียเองก็ยังงงว่า เฮ้ย พวกเรารวยขึ้นมาได้อย่างไร

ปูตินมีจีนเป็นพันธมิตรที่ดี รัสเซีย จีน บราซิล อินเดีย รวมกันเป็นประเทศกลุ่ม BRIC เป็นกลุ่มที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจรวดเร็วมาก โดยส่วนตัว ปูตินเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ เป็นคนระมัดระวังในเรื่องการใช้งบประมาณ เคยเป็นรองหัวหน้าสำนักงานบริหารทรัพย์สินประธานาธิบดี ทำหน้าที่ดูแลบริหารงานกฎหมายและทรัพย์สินในต่างประเทศของรัสเซีย ปูตินมองภาพรวมรายรับ-รายจ่ายของประเทศออก ขายน้ำมันได้เงินเท่าใด ปูตินเอาไปใช้หนี้ต่างประเทศก่อน

หมดหนี้แล้ว จึงนำเงินไปส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของรัสเซียเผลอแว้บแป๊บเดียวเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ตอนที่ปูตินเป็นประธานาธิบดีใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของรัสเซียอยู่อันดับที่ 22 ของโลก สมัยที่ 2 ของปูตินนี่ล่ะครับ ไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 10 การทำงานอย่างมัธยัสถ์ แต่เก็บเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจของจริง ทำให้รายได้แท้จริงของประชาชนเพิ่มขึ้น 2 เท่า และรายได้ต่อเดือนของประชาชนเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า

พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com