สตม.แถลงผลจับอีก 1 ราย อดีตรองหัวหน้ายากูซ่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้าเมืองไทยตั้งฐานแก๊งคอลฯ ที่บ้านพักพูลวิลล่าหรู ตุ๋นเหยื่อชาติเดียวกัน มีเป้าหมายผู้สูงอายุ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะคืนค่ารักษาพยาบาล ความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท แล้วนำเงินมาฟอกใช้นอมินีคนไทย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2568 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รองผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงผลการจับกุม Mr.YU HAMAJI อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น รองหัวหน้าขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยากูซ่า ที่ลักลอบตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์ หลอกเพื่อนร่วมชาติ
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า สำหรับในคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2567 ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.สตม. นำกำลังเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งอดีตยากูซ่าชาวญี่ปุ่น แอบตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์หลอกเพื่อนร่วมชาติในไทย ตรวจค้นเป้าหมายพูลวิลล่าหรู 2 จุดในพื้นที่ จ.ชลบุรี
...
โดยทางตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ว่ามีกลุ่มคนร้ายชาวญี่ปุ่น แอบลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงชาวญี่ปุ่น มีเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ใช้อุบายหลอกลวงว่าจะได้รับเงินประกันสุขภาพคืน การขอคืนเงินค่ารักษาพยาบาล โดยใช้โทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ผู้รับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐโทรศัพท์ไปอธิบายกับเหยื่อที่ประเทศญี่ปุ่นว่าจะมีการคืนค่ารักษาพยาบาลสะสมจำนวนหลายล้านเยน โดยให้เหยื่อเตรียมเงินไว้ในบัญชี ตั้งแต่จำนวน 500,000 เยน ขึ้นไป จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อไปทำรายการโอนเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็มไปยังบัญชีของคนร้าย เมื่อเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว หัวหน้าแก๊งจะสั่งการให้ลูกน้องในขบวนการไปถอนเงินออกจากบัญชีทันที โดยพบความเสียหายแล้วกว่าวันละหลายสิบล้านเยน
ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ของ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายค้น เพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด
จุดแรกค้นบ้านโครงการพูลวิลล่าหรูในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ จับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 ราย ประกอบด้วย MR.KENJIRO KIMURA อายุ 37 ปี สัญชาติญี่ปุ่น MR.TAKAHIRO INOUE อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น และMR.KATSUHITO YAMAGUCHI อายุ 28 ปี สัญชาติญี่ปุ่น
ส่วนในจุดที่สอง ค้นพูลวิลล่าหรู จับกุมผู้กระทำผิดได้ 2 ราย ประกอบด้วย Mr.Ukai Takayuki อายุ 42 ปี สัญชาติญี่ปุ่น และMr.Hatakana Hajime อายุ 40 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผลการตรวจค้นทั้ง 2 จุดสามารถตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตและสมุดบัญชีธนาคาร รวม 62 รายการ นอกจากนี้ยังพบรายชื่อข้อมูลของผู้เสียหาย รวมจำนวน 37 รายชื่อ และพบพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาทิ ภาพสคริปต์การสนทนากับเหยื่อ ซึ่งเป็นข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวงกว่า 5 หมื่นรายชื่อ จึงยึดไว้เป็นหลักฐานในคดี
โดยตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นที่ถูกขบวนการนี้หลอกลวง มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 24,000,000 เยนต่อวัน หรือราว 5 ล้านบาทต่อวัน ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์รวมความเสียหายเกิดขึ้นกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดนำเงินหลอกมาได้ ขนกลับมาลงทุนในไทยในลักษณะฟอกเงิน โดยการเปิดธุรกิจหลายอย่าง โดยการใช้คนไทยเป็นนอมินี นอกจากนี้พบว่ายังมีตัวการสำคัญคือ Mr.YU HAMAJI อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น เป็นรองหัวหน้าขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อดีตยากูซ่ากับพวกอีก 2 คน ที่ไหวตัวหลบหนี ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่ตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุม Mr.YU HAMAJI อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น รองหัวหน้าขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยากูซ่า ได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ขณะเตรียมเดินทางหลบหนีออกจากประเทศไทย กลับไปญี่ปุ่น ซึ่งได้ประสานทางการญี่ปุ่น เดินทางมาร่วมทำการสืบสวนสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสอบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องชาวญี่ปุ่นอีก 2 รายที่ยังหลบหนี
...