สกลนคร - ตำรวจควบคุมตัว “ไอ้ตั้ม” ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายชาวบ้านหน้าฮ่านรถแห่ ตรวจเช็คอาการทางจิตเพื่อประกอบสำนวนคดีก่อนนำตัวฝากขังต่อศาลภายในวันนี้ ล่าสุดเตรียมแจ้งเพิ่ม 1 ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ด้าน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.พรรณานิคม ที่เคยโดนต่อย ยืนยัน “ไอ้ตั้มหมัดหนักพอสมควร” หลังไประงับเหตุเมื่อปี 66 ต้อง ว.7 ขอกำลังเสริมประมาณ 7-8 คน
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ดอกสะแบง คืนถิ่น” โพสต์สาธารณะคลิปเหตุการณ์ที่มีชายเสื้อดำรูปร่างสูงใหญ่เดินบวกหมัดชกแหลกคนที่มาร่วมงานรถแห่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อปพร. และ ชรบ. จนร่วงลงกับพื้นบาดเจ็บหลายราย จนกระทั่งชาวบ้านทนไม่ไหวเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ผู้ก่อเหตุจนวิ่งหลบหนีไป และต่อมาตำรวจ สภ.พรรณานิคม ตามไปจับกุมตัวไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลไร่ อำเภอพรรณา จังหวัดสกลนคร ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย หนึ่งรายบาดเจ็บสาหัส อยู่ใน “ภาวะสมองตาย” รักษาตัวที่ห้องไอซียู รายละเอียดตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 3 มกราคม 2567 ที่ สภ.พรรณานิคม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายวัชราวุธ ไชยเพชร หรือตั้ม อายุ 34 ปี ขึ้นรถตำรวจไปพบแพทย์ที่ รพ.พระอาจารย์ฝั้น อ.พรรณานิคม เพื่อตรวจและประเมินสุขภาพจิตให้แพทย์วินิจฉัยประกอบสำนวนคดี
ซึ่งจากการสอบถามพนักงานสอบสวนดูแลคดีให้ข้อมูลว่า ภายหลังได้รับการยืนยันจากทางอำเภอพรรณานิคมแล้วว่า นายสมชาย ฟองอ่อน อายุ 44 ปี นั้นเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ขณะนี้อาการสาหัส ตรวจสอบเมื่อเช้านี้ยังมีชีวิตอยู่ จึงเตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเพิ่มอีก 1 ข้อหา และจะต้องนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดสกลนครภายในวันนี้เนื่องจากจะครบอำนาจควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง
...
โดย พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร (ผบก.ภ.จว.สกลนคร) ได้ติดตามและกำชับเรื่องนี้ต้องดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สังคมสนใจ โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เป็นผู้ควบคุมคดีนี้อย่างใกล้ชิด และได้ลงพื้นที่ติดตามคดีนี้และให้พนักงานรวบรวมหลักฐานสำนวนดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เบื้องต้นคดีแยกเป็นการทำร้ายประชาชนทั่วไป กับต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งก็คือ ชรบ. ที่ถูกทำร้ายขณะพยายามระงับเหตุ รวมถึงคดีเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย และถ้าหาก ชรบ. ผู้บาดเจ็บสาหัสถึงแก่ชีวิต ก็จะต้องมีการแจ้งข้อหาที่มีอัตราโทษสูงกว่าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ ส.ต.ท.องครักษ์ จุดศรี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.พรรณานิคม ซึ่งเคยถูกนายตั้มต่อยในขณะเข้าระงับเหตุ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อปี 2566 รับแจ้งว่านายตั้มขับขี่รถจักรยานยนต์ก่อกวนชาวบ้าน จึงออกไประงับเหตุ พอไปถึงก็พยายามเรียกให้นายตั้มหยุดรถ ก็ปรากฏว่าพอรถหยุด นายตั้มก็ต่อยเข้าที่ใบหน้าตนทันที ซึ่งบัดดี้ที่ไปด้วยก็พยายามจับกุมตัว แต่สู้แรงนายตั้มไม่ได้ จึงต้อง ว.7 ขอกำลังเสริมประมาณ 7-8 คน จึงสามารถจับกุมตัวได้ ซึ่งน่าจะเพราะคลั่งเพราะฤทธิ์ยา ซึ่งหมัดที่นายตั้มต่อยคนนั้น ถือว่าหมัดหนักพอสมควร