"เมีย-ลูกสาว” หมอบุญ ควงทนายมอบตัว คดีร่วมกันฉ้อโกง ทนายเผย อ้างถูกปลอมลายเซ็นเช็คค้ำประกัน-กู้เงิน ยันเอาผิดสามี-ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ความคืบหน้าคดีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี กับพวกในคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงชักชวนให้ลงทุน
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์บุญ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ ทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาในหมายจับข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เดินทางมาพร้อมนายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ที่ห้องประชุม บก.น.1 ชั้น 3 อาคาร บช.น.
โดยนางจารุวรรณฯ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพูอ่อน สวมแว่นตาดำ ถือกระเป๋าสีน้ำตาล และน.ส.นลิน สวมเสื้อยืดสีเขียว สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน เดินมามีทนายและลูกช่วยกันพยุงนางจารุวรรณฯ ขึ้นมาพบตำรวจ
...
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่นางจารุวรรณ และน.ส.นลิน ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ
นายชำนาญ ทนายความ กล่าวว่า ลูกความตนทั้งนางจารุวรรณ และน.ส.นลิน บอกว่า ถูกปลอมแปลงลายเซ็น โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำ แต่มีการปลอมแล้วนำเอกสารพวกนี้ไปใช้กู้ยืมเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร แต่มาทราบตอนที่มีหมายศาลฟ้องมาเป็นระยะ ที่ตัวนางจารุวรรณเมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่า กรณีที่มีการกู้ยืมเงิน และค้ำประกันต่างๆ เป็นลายเซ็นปลอมทั้งหมด นางจารุวรรณ ไม่เคยไปกู้ยืมเงินแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้เซ็นค้ำประกัน
ต้องเรียนสื่อมวลชนว่าในช่วงที่มีการกู้ยืมเงินค้ำประกันตามที่ปรากฏเป็นข่าวตัวนางจารุวรรณเอง ส่วนใหญ่เดินทางอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่ในคำฟ้องนั้นจะเซ็นแบบเป็นสำเนาไม่ใช่ลายเซ็นจริง โดยต้นฉบับอยู่กับฝั่งผู้ให้กู้ และความต่างของลายเซ็นค่อนข้างเยอะ เรื่องการปลอมลายเซ็นนั้น ไม่ใช่จะเพิ่งมาพูดแต่มีการต่อสู้คดีทางแพ่งเรื่องนี้มานานแล้ว รวมถึงมีการแจ้งความไว้ที่ บก.ปอศ.ไว้เมื่อช่วงประมาณเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ในทางคดีแพ่งได้ต่อสู้คดีว่าเป็นลายเซ็นปลอม และขอให้ศาลตรวจพิสูจน์ รวมถึงคดีอาญา ศาลมีการนัดพร้อมเพื่อให้นางจารุวรรณ ไปเซ็นเปรียบเทียบต้นฉบับที่อ้างว่ามีการค้ำประกัน และเซ็นเช็ค โดยให้คู่ความส่งต้นฉบับ และให้นางจารุวรรณเซ็นใหม่ พร้อมกับมีการนำตัวสัญญาในช่วงที่อ้างว่ามีการเซ็นกู้หรือค้ำ อยู่ระหว่างรอศาลนัด
เมื่อถามว่าอาจจะเป็นลายเซ็นหมอบุญหรือไม่ ทนายความ ตอบว่า อาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่กู้ที่มีชื่ออยู่ในสัญญา ก็เป็นแพทย์หมอบุญ รวมถึงนางจารุวรรณ และหมอบุญ ก็มีการจดทะเบียนหย่ากันไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าตั้งแต่ปีไหน
เมื่อถามถึงสาเหตุว่า ทำไมถึงต้องมีการปลอมแปลงลายเซ็นคนในครอบครัว ทนายความ ตอบว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ส่วนในช่วงที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นเป็นช่วงที่หย่าร้างกันไปแล้ว
ส่วนกรณีที่นางจารุวรรณ เดินทางไปต่างประเทศ เป็นช่วงๆ ระหว่าง ปี 61-67 มีการเดินทางอยู่ตลอด และเกิดอ้างว่ามีการกู้และค้ำ จนถูกฟ้อง และตรวจสอบว่ามีสัญญาฉบับไหนบ้าง มองเห็นชัดเจนเลยว่าเป็นลายเซ็นปลอม ก่อนตรวจสอบในเรื่องเวลาที่อ้างว่ามีการเซ็น และทั้ง 200 กว่าฉบับนั้นถูกปลอมทั้งหมด
ทนายความ กล่าวอีกว่า นางจารุวรรณ จะมีการเอาผิดทั้งหมอบุญ และทุกคนที่เกี่ยวข้องส่วนเรื่องการประกันตัวต้องอยู่ที่พนักงานสอบสวน จะอนุญาตหรือไม่.