รวบ "เชฟอ้อย" เจ้าของแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง ยักยอกทรัพย์ กว่า 2 ล้าน หลังเสนอตัวเป็นนายหน้า นำทอง เพชร ผู้เสียหายไปขายให้ แต่สุดท้ายไม่ได้ขาย

วันที่ 8 ต.ค. 67 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.2 บก.สอท.1 พ.ต.ท.รุ่งเรือง แสนโคตร สว.กก.2 บก.สอท.1 นำกำลังพร้อมหมายจับศาลแขวงบางบอน ลงวันที่ 2 กันยายน 2567 เข้าจับกุม นางยุวดี ชัยศิริพาณิชย์ หรือ เชฟอ้อย อายุ 54 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ในความผิดฐาน "ยักยอก"

สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงต้นปี 2567 ผู้เสียหายรู้จักกับนางยุวดีผ่านทางทีวี เห็นว่านางยุวดีเป็นเชฟชื่อดัง จึงติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหาร จึงได้พูดคุยจนเกิดความสนิทสนม โดยนางยุวดีเห็นว่า ผู้เสียหายต้องการจะขายทองคำ เพชร และพระเครื่อง มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เพื่อมาซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหาร จึงเสนอตัวเป็นนายหน้านำทรัพย์สินดังกล่าวไปขายให้ ซึ่งทางผู้เสียหายเห็นว่าเป็นเชฟชื่อดังและเป็นที่รู้จักในวงการ จึงเชื่อใจยอมให้นำทรัพย์สินไปขาย

กระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือน ทางผู้เสียหายทราบภายหลังว่า นางยุวดี ได้นำทรัพย์สินของตัวเองไปวางมัดจำลงทุนธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง จึงได้ทวงถามขอทรัพย์สินคืนแต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางบอน เพื่อดำเนินคดี

ต่อมา ทางพนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกให้นางยุวดีมาพบเพื่อให้ปากคำแต่หลบเลี่ยงไม่มาตามนัด ทางพนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยติดตามจับกุมได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับนางยุวดี หรือ เชฟอ้อย เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง หลังเข้าร่วมรายการ เชฟกระทะเหล็ก หรือ Top Chef Thailand มีฝีมือทำอาหารสไตล์ Asian Modern Cuisine ที่เน้นการนำเสนออาหารเอเชียนในรูปแบบใหม่ ที่โดดเด่นทั้งฝีมือในการทำอาหารและฝีปากที่จัดจ้านไม่แพ้ใคร ทำให้ชื่อเสียงของเชฟอ้อยยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น

...

ปัจจุบัน เชฟอ้อย เป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง และมีธุรกิจลูกชิ้นทำเองขายออกงานตามบูธต่าง ๆ รวมไปถึงโปรเจ็กต์ใหม่อย่างก๋วยเตี๋ยวแซ่บแห้งจงอางหวงไข่ ที่ทำให้มีลูกค้าต่อคิวซื้อยาวเหยียดทุกวัน จากนั้นได้เริ่มขยายธุรกิจไปสู่แฟรนไชส์ ก่อนจะมาเกิดคดีความกันขึ้น