เหตุสะเทือนขวัญ เด็กหญิงวัย 14 ปี ก่อเหตุสลด ใช้มีดแทงคอยายวัย 48 ปี เสียชีวิตคาบ้านพัก ก่อนวิ่งหนีไปตั้งหลัก เพื่อสงบสติอารมณ์แล้วเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.แสมดำ พร้อมประสานสหวิชาชีพเพื่อมาร่วมสอบปากคำ เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2567 ร.ต.อ.พิเชษฐ์ รอดยัง รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกมีดแทงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 180/35 ซอยเอกชัย 119 (วัดบางบอน) ถนนเอกชัย แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.แสมดำ ฝ่ายสืบสวน สน.แสมดำ แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าปลูกในรั้วรอบขอบชิด สูง 2 ชั้น บริเวณทางเดินหน้าห้องชั้นล่าง พบศพนางรัตนาภรณ์ โรจนอานนท์ อายุ 48 ปี พักห้องที่ 7 สภาพนอนตะแคงจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีเขียว นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น มีบาดแผลถูกมีดแทงเข้าที่ลำคอ 3 แผล, หลัง 1 แผล และเอว 4 แผล ใกล้กันพบมีดปลายแหลม 1 เล่ม ยาวประมาณ 30 ซม. และค้อนไม้ 1 ด้าม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

...

สำหรับผู้ก่อเหตุ คือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เป็นหลานสาวของผู้ตาย หลังก่อเหตุวิ่งหลบหนีไปตั้งหลัก เพื่อสงบสติอารมณ์ จากนั้นราว 1 ชั่วโมง ด.ญ.เอ ได้เดินเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุแทงยาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบสวนตามกฎหมายเด็กและเยาวชนที่ สน.แสมดำ

นายเจนวุฒิ โรจนอานนท์ อายุ 67 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนอยู่กินกับผู้ตายมากกว่า 30 ปี ผู้ตายมีลูกสาวติดมา 1 คน คือ แม่ของ ด.ญ.เอ ตามปกติผู้ตายเป็นคนดื่มสุราทุกวัน มีเรื่องทะเลาะกับ ด.ญ.เอ อยู่บ้าง แต่ไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกาย เวลาเมาสุรามักด่าทอหลานอยู่เป็นประจำ แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้ ด.ญ.เอ หลานสาวจะก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต ส่วนพ่อแม่ของ ด.ญ.เอ ไม่เคยมาเยี่ยมนานหลายปีแล้ว ปล่อย ด.ญ.เอ กับน้องชายวัย 9 ขวบ ให้ตนกับผู้ตายเลี้ยง ไม่เคยมาส่งเสียเลี้ยงดูแต่อย่างใด

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจึงต้องประสานสหวิชาชีพเพื่อมาร่วมสอบปากคำ เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน ส่วนร่างผู้ตายส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการตายตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

มีรายงานแจ้งว่า สาเหตุที่ ด.ญ.เอ ก่อเหตุมาจากความกดดันที่ถูกยายต่อว่าด่าทออยู่เป็นประจำ ผู้ตายเคยต่อว่าน้องชายว่าเป็นลูกกำพร้าไม่มีแม่ อาจทำให้ ด.ญ.เอ โมโหก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดย ด.ญ.เอ เรียนจบเพียงชั้น ป.6 ไม่ได้เรียนต่อ เนื่องจากตายายไม่มีเงินส่งเสียให้เรียนหนังสือ