ศุลกากรเข้ม สกัดขบวนค้ายาเสพติดข้ามชาติส่งเฮโรอีน-ยาไอซ์ไปยังประเทศออสเตรเลีย และไต้หวันรวม 4 คดี มูลค่ารวมเกือบ 100 ล้านบาท ใช้วิธีซุกซ่อนไปกับสินค้าส่งออก ทั้งเครื่องบดเนื้อ ปิ่นโต และเสื้อผ้าชาวเขา ส่งตำรวจ บช.ปส.ขยายผล และตำรวจประเทศปลายทางสกัดจับกุม ด้านแนวชายแดน จ.ตาก ทหารกองกำลังผาเมืองปะทะเดือดคาราวานยานรกกลางดึก ทิ้งเป้ซุกยาบ้า 6 แสนเม็ด และเฮโรอีนเกือบ 10 กก. ไว้ให้ดูต่างหน้า

กรมศุลกากรยึดยาเสพติดเตรียมลักลอบส่งออกทางเรือและทางอากาศมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท เปิดเผยขึ้นที่กรมศุลกากร เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ส.ค. นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นาย นิติ วิทยาเต็ม รองอธิบดีกรมศุลกากร นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี พร้อมด้วยนายวรพัฒน์ เชาว์วิศิษฐ ผอ.กองสืบสวนและปราบปราม นายภาคภูมิ เลิศวัฒนารักษ์ ผอ.สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กรมศุลกากร พ.ต.อ.วรัตม์ เจตตานนท์ ผกก.3 บก.ปส.1 บช.ปส. นายไมเคิล ซิมบาลิสตา เจ้าหน้าที่สถานทูตออสเตรเลีย และนายโคดี้ ต่ง เลขานุการฝ่ายกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดยาเสพติดเตรียมลักลอบส่งออกทางเรือและทางอากาศ 4 คดี มูลค่ากว่า 98.29 ล้านบาท

นายธีรัชย์ อัตนวานิช กล่าวว่า ตามนโยบายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากรบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปราบปรามยาเสพติด กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดทุกช่องทางต่อเนื่อง สามารถจับกุมตรวจยึดยาเสพติดได้ 4 คดี มูลค่า 98.29 ล้านบาท กรมศุลกากรบูรณาการด้านการข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Inter diction Task Force หรือ SITF) Australian Federal Police (AFP) Australian Border Force (ABF) และ Ministry of Justice Investigation Bureau (MJIB) ต่อเนื่องมาตลอด

...

คดีแรกสกัดกั้นการลักลอบส่งออกยาเสพติดทางเรือ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. เจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร วิเคราะห์ใบขนสินค้าขาออกที่มีความเสี่ยงลักลอบส่งออกยาเสพติดทางท่าเรือกรุงเทพ พบใบขนสินค้าต้องสงสัยระบุปลายทางประเทศไต้หวัน สำแดงชนิดสินค้าเป็นเครื่องบดเนื้อและเครื่องทำลูกชิ้นรวม 3 เครื่อง ประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ และหน่วย SITF ตรวจสอบ พบเฮโรอีนซุกซ่อนในมอเตอร์เครื่องบดเนื้อ 2 เครื่อง เครื่องละ 16 ก้อน รวม 32 ก้อนน้ำหนัก 11.8 กก.มูลค่า 35.52 ล้านบาท นำของกลางทั้งหมดส่ง บช.ปส.และรวบรวมข้อมูลเพื่อขยายผลร่วมกับ SITF เบื้องต้นพบว่าผู้กระทำความผิดเป็นกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญทาง จ.เพชรบูรณ์ อยู่ระหว่างขยายผลติดตามตัวมาดำเนินคดีโดย ป.ป.ส.และ บช.ปส.

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ส.ค. เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ใบขนสินค้าขาออกที่มีความเสี่ยงลักลอบส่งออกยาเสพติดทางท่าเรือกรุงเทพ ปลายทางประเทศออสเตรเลีย ตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์และสุนัขดมกลิ่นของกรมศุลกากร (K-9) พบเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ในชายเสื้อชาวเขาจำนวน 600 ชิ้น น้ำหนักรวม 20.25 กก. มูลค่าประมาณ 60.75 ล้านบาท นำของกลางส่ง บช.ปส.ขยายผลต่อไป

คดีที่ 3 เป็นการสกัดกั้นการขนส่งสินค้าทางอากาศ กรมศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาและส่งออกนอกราชอาณาจักร บูรณาการด้านการข่าวอย่างต่อเนื่องกับหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force หรีือ AITF) มาโดยตลอด เมื่อวันที่ 7 ส.ค. กรมศุลกากรร่วมกับ ป.ป.ส.และ บช.ปส.สืบทราบเบาะแส ร่วมกันตรวจสอบพัสดุไปรษณีย์ขาออกระหว่างประเทศที่ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิจำนวน 1 หีบ ปลายทางประเทศออสเตรเลีย ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน (Heroin) ลักษณะเป็นผงสีขาวขุ่นห่อหุ้มด้วยเทป บรรจุในซองพลาสติกปิดทับด้วยเทปสีเหลือง ซุกซ่อนในผนังด้านข้างกล่องพัสดุไปรษณีย์ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 320 กรัม มูลค่าประมาณ 960,000 บาท

และคดีที่ 4 ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ (Methamphetamine) ปลายทางประเทศออสเตรเลียอีก 1 หีบห่อ มีลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่นห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์ พลาสติกใสพิมพ์ลาย และกระดาษคาร์บอนซุกซ่อนอยู่ในปิ่นโต น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 440 กรัม มูลค่าประมาณ 1.056 ล้านบาท กรมศุลกากรตรวจยึดของกลางทั้ง 2 คดี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วย AITF ดำเนินการประสานกับศุลกากรประเทศออสเตรเลีย เพื่อดำเนินการสืบสวนและขยายผลที่ประเทศปลายทางต่อไป

นายธีรัชย์กล่าวด้วยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานพยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และความผิดตามมาตรา 244 และ 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร 2560 ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567 (1 ต.ค.2566-9 ส.ค.2567) กรมศุลกากรมีสถิติการจับกุมยาเสพติดทั้งสิ้น 123 คดี มูลค่ารวม 970.70 ล้านบาท

ด้านการป้องกันปราบปรามการขนส่งยาเสพติดข้ามชาติ ตามแนวชายแดนที่ จ.ตาก เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.กองกำลังผาเมือง สั่งการให้ พ.อ.กิดากร จันทรา รอง ผบ.กกล.ผาเมือง พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก เข้าตรวจที่เกิดเหตุ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 9 ส.ค. ขณะกำลังทหารร้อย ม.2 ทัพเจ้าตาก ออกลาดตระเวนสกัดกั้นยาเสพติดถึงบริเวณตะเข็บแนวชายแดน บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบกลุ่มชายฉกรรจ์ต้องสงสัยประมาณ 6-8 คน เดินแบกเป้สัมภาระเข้ามาใกล้พื้นที่เฝ้าตรวจ จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่กลุ่มชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเปิดทางเพื่อหลบหนี จนเกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที

...

แต่เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนจึงขอกำลังทหารสนับสนุนเพิ่มอีก 2 ชุดเข้าปฏิบัติการตีวงล้อมเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุเอาไว้ก่อน รอจนกระทั่งเวลาเช้าเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณร่องระบายน้ำพบกระสอบเป้ดัดแปลงจำนวน 3 ใบ ภายในบรรจุยาบ้าเป้ละ 200,000 เม็ด รวมทั้งสิ้น 600,000 เม็ด และเฮโรอีนอีก 2 เป้ เป้ละ 12 ถุง น้ำหนักถุงละประมาณ 400 กรัม รวมน้ำหนักเฮโรอีนทั้งสิ้นประมาณ 9.6 กก. ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ทั้งหมด อยู่ระหว่างขยายติดตามตัวมาดำเนินคดี เหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มคนร้ายไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่