พบแล้วศพสาวจีน ดาวติ๊กต่อก ที่หายตัวโดนอุ้มเรียกค่าไถ่ ถูกฆ่าฝังดินอยู่ในป่าหญ้า บางพระ เมืองแปดริ้ว ในสภาพชิ้นส่วนเน่าเปื่อย เนื่องจากถูกฝังนานนับ 10 วัน ขณะที่ "รองนพ" เผยไทม์ไลน์การฆาตกรรม หลังสืบจนพบหลักฐาน ที่คนร้ายทิ้งร่องรอยคราบเลือดหลายจุด ทั้งที่พักฝ่ายชาย และรถเช่า เผากระเป๋าทำลายหลักฐานก่อนบินหลบหนีออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ก.ค. 67 ที่ สภ.แสนภูดาษ จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ Mrs.Yan Ruimin หรือ น.ส.เหยียน รุ่ยหมิน ดาวติ๊กต่อกชาวจีนวัย 38 ปี หลังเจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจค้น 12 จุด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ Mr.Qingyan Ma นายชิงเหยียน หม่า จอดรถระหว่างทางจากซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งเป็นที่ที่พบทั้งสองคนพักอาศัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนฝ่ายหญิงหายตัวไปในวันที่ 1 ก.ค.


พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้สูญหายเดินทางจากประเทศมาเลเซีย เข้ามายังประเทศไทยคนเดียวในวันที่ 26 มิถุนายน ส่วนฝ่ายชายเดินทางจากประเทศสิงคโปร์เข้าไทยวันที่ 30 มิถุนายน โดยฝ่ายผู้สูญหายเคยเข้าไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว 10 ครั้ง ส่วนฝ่ายชายเคยเข้ามาแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 คนเคยรู้จักกันมาก่อน จากนั้นวันที่ 28-29 มิถุนายน ฝ่ายหญิงเดินทางไปพักที่พัทยา โดยเกิดอุบัติเหตุ มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.พัทยา ก่อนจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 30 มิถุนายน และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งชั่วคราว ก่อนจะไปค้างกับเพื่อนที่บ้านย่านพระราม 9 จากนั้นวันที่ 1 กรกฎาคม พบว่าฝ่ายหญิงเรียกแกร็บไปส่งที่ซอยสุขุมวิท 12 โดยฝ่ายชายขับรถมารับที่จุดนัดพบ และพบว่าทั้งคู่มีการไปพักในซอยสุขุมวิท 16 ด้วยกัน 

...


จากนั้นเวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน เพื่อนของผู้สูญหายที่เป็นคนมาแจ้งความ ก็ไม่สามารถติดต่อกับฝ่ายหญิงผ่านวีแชตได้ แต่พบว่าโทรศัพท์ยังเปิดเครื่องอยู่ โดยในคืนวันที่ 1 กรกฎาคม จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่าฝ่ายชายขับรถออกมาคนเดียวจากที่พักในซอยสุขุมวิท 16 มาที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยระหว่างทางมีการชะลอรถจอดเป็นระยะ โดยบางจุดก็จอดนิ่ง แต่ยังอยู่ในรถ และบางจุดก็ลงจากรถ รวม 12 จุด จนกระทั่งมาถึงจุดสุดท้ายที่เป็นจุดเผากระเป๋า ลักษณะเป็นที่รกร้าง และมีบ่อน้ำบริเวณใกล้เคียง พบว่าผู้ต้องสงสัยลงจากรถและหายไป ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 5 นาที ก่อนจะกลับมาที่รถ และขับออกจากจุดสุดท้าย ในวันที่ 2 กรกฎาคม เวลาประมาณเกือบ 05.00 น. ไปเช่าห้องพักย่านศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ก่อนจะนำรถไปคืน 


โดยจากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน บริเวณที่พักย่านศรีนครินทร์ พบคราบเลือดที่อ่างล้างหน้า และจากการตรวจสอบรถเช่า พบคราบเลือดภายในรถ ทั้งบริเวณพื้นที่นั่งคนขับ เบาะหลัง ข้างประตู และบริเวณกระโปรงรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมเตรียมนำไปตรวจเทียบดีเอ็นเอกับพ่อของผู้สูญหายที่ตำรวจได้เก็บไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ญาติของผู้สูญหายยังมีความหวังว่ายังมีชีวิต ตราบใดที่ยังไม่พบร่างของผู้สูญหาย ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเสียชีวิต


โดยในวันนี้ตำรวจได้ขอความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบเบาะแสชิ้นส่วนมนุษย์ รวมถึงศพที่ไม่มีญาติ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือ สภ.ใกล้เคียง และจากการสอบถามญาติ ไม่ทราบความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คน ส่วนญาติที่รับโทรศัพท์จากการเรียกค่าไถ่เป็นพี่เขยของผู้สูญหาย มีการเรียกเงิน 1 ล้านหยวน หรือราวๆ 5 ล้านบาท พี่เขยจึงบอกญาติของฝ่ายหญิงให้รับรู้ ทำให้ญาติๆ พากันบินมาติดตามคดีที่เมืองไทย ซึ่งเบื้องต้นตำรวจได้ประสานทั้งสถานทูต และ ตม. ตรวจสอบประวัติของทั้งสองคน รวมถึงกรณีที่ฝ่ายชายเคยเดินทางเข้ามาไทยก่อนหน้านี้ มีการเข้ามาประกอบอาชีพอะไรด้วยหรือไม่ โดยตัวของผู้ต้องสงสัย หลังเกิดเหตุพบข้อมูลว่ามีการเดินออกนอกประเทศไปยังฮ่องกงก่อน จากนั้นก็ไปต่อที่มาเก๊า โดยพบข้อมูลการใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้สูญหาย ตั้งแต่วันที่ 4-6 กรกฎาคม ซึ่งจะประสานกับ ตม. และสถานทูต เพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำ

จากนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้ไปตรวจสอบพื้นที่ป่าหญ้า หมู่ 2 ต.บางพระ  อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่ผู้ต้องสงสัยขับรถมาจอด และเปิดฝากระโปรงท้ายหยิบกระเป๋าท้ายรถออกไป โดยใช้เวลาในจุดนี้ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งในจุดนี้ได้มีการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยค้นหากระเป๋า หรือสิ่งของต้องสงสัยที่ผู้ต้องสงสัยอาจนำมาทิ้ง ซึ่งมีการนำเครื่องตัดหญ้าเข้ามาตัดหญ้าบริเวณดังกล่าว หลังทางชุดสืบสวนนครบาลตรวจพบถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 2 ถุง ถูกทิ้งอยู่ข้างทางฝั่งตรงข้ามกับป่ารกตรงข้ามหมู่บ้านท่าอิฐ ภายในบรรจุเศษดินและเศษกระเบื้องจนแน่นถุงและถูกแพ็กอย่างดี แต่ยังได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบริเวณกองเศษกระเบื้อง จนเวลา 12.30 น. ทางหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้ลงมือขุดกองเศษกระเบื้องบริเวณดังกล่าว ซึ่งด้านล่างมีน้ำท่วมขัง โดยขุดไปประมาณ 20 เซนติเมตร ก็พบผ้าใบสีฟ้า ก่อนจะเปิดผ้าใบออกซึ่งจมอยู่ในน้ำ ก็พบร่างของ น.ส.เหยียน รุ่ยหมิน ดาวติ๊กต่อกชาวจีนวัย 38 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย แต่ทุกชิ้นส่วนยังคงอยู่ในสภาพติดกัน ไม่ได้ถูกหั่นแต่อย่างใด และพบก้อนซิลิโคน 1 ก้อน อยู่ภายในน้ำ ส่วนซิลิโคนอีกก้อนยังคงติดอยู่กับหน้าอกฝั่งซ้าย ซึ่งทางตำรวจได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธโสธร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่จะเก็บชิ้นเนื้อไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของพ่อผู้ตายอีกครั้ง เนื่องจากสภาพศพถูกฝังไว้นานมากกว่า 10 วัน ทำให้เน่าเปื่อยเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งจุดที่พบศพเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุจอดรถนานเกือบ 40 นาที ซึ่งเป็นจุดที่ 4 ห่างจากจุดที่เผากระเป๋าและเอกสารประมาณ 1 กม. โดยทางตำรวจเองจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด แม้จะบินออกนอกประเทศไปแล้วก็ตาม.

...