"สืบนครบาล" บุกล็อก "ติ๊ก นาวา" หลังวางแผนฉกสมบัติตระกูลดังภาพถ่ายโบราณ อายุ 120 ปี แทรกซึมเข้าเป็นคนขับรถ "CEO เจ้าพ่อสื่อโฆษณาชื่อดัง" แผนการสุดแยบยล เลียนแบบภาพยนตร์ จอมโจรลูแปง "ผู้การจ๋อ" พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งทีม "สารวัตรแจ๊ะ" "ผู้กองโชแปง" ซ้อนแผนรวบกลางถนนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะถูกจับกุมคนร้ายยังคงทำงานเป็นคนขับรถให้กับ CEO หนุ่มอยู่ เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก. สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว. กก.4 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.สส.2 ฯปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ บก.สส.บช.น. ร.ต.ท.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา รอง สว.ฯปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อ้นชูฤทธิ์ รอง สว.สอบสวน สน.ดินแดง ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2ฯปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. (สืบนครบาล) ร่วมกันจับกุม
นายนาวา หงษ์สกุล หรือ “ไดรเวอร์ติ๊ก” อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2158 ม.6 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร
สืบเนื่องจาก “พระบรมฉายาลักษณ์” พร้อมลายพระปรมาภิไธยโบราณ อายุ 120 ปีจำนวน 4 ภาพ อันเป็นมรดกตกทอดของ ตระกูลดัง "ถนอมทรัพย์" ของเก่าสุดล้ำค่าชนิดที่ไม่อาจประเมินมูลค่าได้ ถูกเก็บเอาไว้อย่างดีภายในบ้านเลขที่ 138 ซอยอุดมสุข 31 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. เป็นบ้านใหญ่หรูเหมือนคฤหาสน์ของ นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ หรือเอก อายุ 38 ปี CEO หนุ่มสื่อโฆษณาชื่อดัง เจ้าของบริษัทบีลิงค์ จำกัด
...
แม้ว่าสมบัติล้ำค่าดังกล่าวจะถูกเก็บในที่ที่มีระบบความปลอดภัยที่หนาแน่นเพียงใด แต่ก็ยังเป็นที่หมายปองของ “นาวาติ๊ก” โจรที่แฝงตัวเขามาในตระกูลพร้อมด้วยแผนปฏิบัติการสุดแยบยล
โดยเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปลายปี 2565 นายนาวา หรือติ๊ก สมัครงานเข้ามาเป็นพนักงานขับรถให้กับ นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ CEO หนุ่มชื่อดัง แรกเริ่มเป็นเพียงคนขับรถธรรมดาไม่ได้มีสิทธิพิเศษเข้านอกออกในบ้านได้ แต่ด้วยทักษะความสามารถพิเศษ ใช้เวลาเพียงปีเศษ ทลายกำแพงความไว้ใจจากคนในบ้าน สามารถเข้านอกออกในบ้านได้ทุกพื้นที่ภายในบ้าน ทำให้สอดส่องสิ่งของมีค่าในคฤหาสน์หรู กระทั่งคนร้ายได้พบกับสมบัติล้ำค่าดังกล่าวที่ถูกเก็บไว้อย่างดีภายในบ้าน
ต่อมาวันที่ 4 พ.ค.67 เวลาประมาณ 14.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ในบ้านอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ต้นเพลิงมาจากห้องควบคุมไฟฟ้า ทำให้ระบบไฟฟ้าและกล้องวงจรปิดไม่ทำงาน ผู้คนภายในบ้านชุลมุนวุ่นวายหนีเอาชีวิตรอดออก ผู้ต้องหาเข้าช่วยเหลือเจ้านาย ทำทีห่วงใยก่อนจะพาออกจากบ้านจนหมด ก่อนอาศัยสถานการณ์อลหม่าน ฉกเอาสมบัติล้ำค่า 4 ภาพ ยกขึ้นรถตรงดิ่งไปยังตลาดมืดทันที และกลับมาทำงานอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังเพลิงสงบลง CEO หนุ่ม ตรวจสอบทรัพย์สินในบ้าน พบว่าสมบัติอันล้ำค่าหายไปทำเอาหน้าถอดสี เข้าแจ้งความ สน.บางนา แรกเริ่มเหมือนจะจับมือใครดมไม่ได้ คดีมีท่าทีจะจบลงแบบ “ไม่รู้ตัว” กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พบเบาะแสจากตลาดมืดว่ามีพ่อค้าของสะสมในพื้นที่ จ.ชลบุรี นครปฐม และนนทบุรี รับซื้อของล้ำค่าดังกล่าวไว้ในราคาทั้งหมด 100,000 บาท
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางนา ออกหมายจับคนร้ายรายนี้ และวันที่ 8 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังชุดสืบนครบาล บุกไปจับกุมนายนาวา หรือติ๊ก บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลางถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ขณะจับกุมคนร้าย ยังคงทำงานเป็นคนขับรถให้ CEO หนุ่มอยู่เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สร้างความตกใจกับ CEO หนุ่มเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลักทรัพย์ของผู้เสียหาย เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมลายพระปรมาภิไธยโบราณ อายุกว่า 100 ปี ของผู้เสียหายไปจริง โดยนำภาพถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ไปจำหน่ายยังร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง 4 รูป มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท แต่ที่แท้จริงแล้ว ทรัพย์ดังกล่าวของผู้เสียหายเป็นทรัพย์ที่ได้รับการตกทอดมรดกจากรุ่นสู่รุ่น กว่า 100 ปี มูลค่าความเสียหายนั้น ไม่สามารถประเมินราคาได้ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่หายากและมีมูลค่าแก่ทางจิตใจของครอบครัวและตระกูลของผู้เสียหายเป็นอย่างมาก
...
จากการตรวจสอบ พบประวัติต้องโทษคดีอาญา 2 คดี ข้อหาเป็นเจ้ามือ หรือ จัดให้มีการเล่นพนัน สภ.สำโรงเหนือ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 58 และข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนด ห้ามออกจากเคหสถานในเวลาที่กำหนด ข้อหาขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น สภ.สำโรงเหนือ 18 ก.ย.64
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ถือเป็นการเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไป ผู้ซึ่งกำลังมองหาบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานใกล้ตัวหรือในบ้านของตนเอง การคัดเลือกบุคลากรที่มีประสบการณ์นั้นถือเป็นเรื่องต้องมีพิถีพิถันมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วนั้น การเลือกบุคลากรที่มีความน่าไว้ใจและ “ซื่อสัตย์สุจริต” นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า เช่นนั้นอาจเป็นเช่นคดีนี้ นายนาวา ประกอบอาชีพขับรถผู้บริหารมาโดยตลอดแต่มักจะเปลี่ยนที่ทำงานบ่อย และเลือกสมัครงานในบริษัทที่ตนจะได้เป็นที่ไว้ใจเนื้อเชื่อใจของเจ้านาย น่าเชื่อได้ว่าไม่ได้ทำหรือก่อเหตุเช่นนี้แค่เพียงคดีนี้คดีเดียว แต่อาจมีผู้เสียหายรายอื่นที่เคยตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก ตนขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าหากมีผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อของ “ไดรเวอร์ติ๊ก” รายนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB”
ก่อนนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.