"เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ" ที่หลบหนีจากสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ ล่าสุดตำรวจน้ำตามเจอแล้ว พบลอยลำอยู่ในน่านน้ำทับซ้อนระหว่างประเทศกัมพูชา มาเลเซีย และไทย ห่างจากชายฝั่ง จ.สงขลา ประมาณ 90 ไมล์ทะเล กำลังควบคุมกลับเข้าฝั่ง จ.สงขลา คาดถึงประมาณเที่ยงวันนี้
จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ประกอบด้วยเรือ เจ.พี.บรรทุกน้ำมันเถื่อน 80,000 ลิตร เรือซีฮอต บรรทุกน้ำมันเถื่อน 150,000 ลิตร และเรือดาวรุ่ง บรรทุกน้ำมันเถื่อน 100,000 ลิตร รวมน้ำมันเถื่อน 330,000 ลิตร หายไประหว่างจอดเทียบท่ารอการดำเนินคดีบริเวณท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เบื้องต้นเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ร่วมกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนแอบมาขับเรือหลบหนีไป
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 มิ.ย.) พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. เปิดเผยว่า ตำรวจน้ำเจอเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว พบลอยลำอยู่ในน่านน้ำทับซ้อนระหว่างประเทศกัมพูชา มาเลเซีย และไทย ห่างจากชายฝั่ง จ.สงขลา ประมาณ 90 ไมล์ทะเล เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำนำเรือตรวจการณ์เข้าประกบเพื่อนำเรือทั้ง 3 ลำ กลับเข้ายังท่าเทียบเรือจังหวัดสงขลา
จากการตรวจสอบบนเรือทั้ง 3 ลำ เบื้องต้นพบว่าเหลือลูกเรืออยู่บนเรือมีไม่ถึง 10 คน หายไปหลายคน ส่วนน้ำมันก็อยู่ไม่ครบเช่นกัน เหลืออยู่พอประมาณ ยังไม่ได้ตรวจนับ ส่วนรายละเอียดชัดเจนว่าน้ำมันเหลือเท่าไรนั้น ต้องรอนำเรือทั้ง 3 ลำกลับเข้าจอดเทียบฝั่งก่อนถึงจะตรวจนับได้ ซึ่งคาดว่าจะมีความล่าช้า เนื่องจากเมื่อคืนนี้คลื่นลมในทะเลมีความรุนแรง และเรือ 1 ลำ เครื่องเสียขับเองไม่ได้ ต้องใช้วิธีลากจูง ส่วนบรรยากาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสงขลาเข้าเตรียมสถานที่เพื่อรอเรือทั้ง 3 ลำมาเทียบท่า ซึ่งคาดว่าจะถึงท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลาประมาณช่วงเที่ยงวันนี้
...
มีรายงานข่าวด้วยว่า จากแนวทางการสืบสวนเส้นทางเรือทั้ง 3 ลำ หลังจากหลบหนีออกจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบแล้ว น่าจะสร้างความสับสนให้กับเจ้าหน้าที่ว่าโผล่ไปตรงนั้นตรงนี้ ก่อนย้อนเส้นทางกลับลงมาในภาคใต้ สำหรับน้ำมันที่เหลืออยู่ในเรือน้อยลง คาดว่ามีการขายไปบ้างแล้วบางส่วน ระหว่างหลบหนีอยู่บริเวณน่านน้ำพื้นที่ทับซ้อน แต่จะเป็นเรืออะไรมารับซื้อไปนั้น ต้องรอการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับขบวนการนำเรือน้ำมันเถื่อนของกลางทั้ง 3 ลำ หลบหนีออกจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบนั้น เชื่อว่าต้องมีผู้สั่งการ หรือนายทุน เพราะความต้องการของผู้สั่งการไม่ได้อยู่ที่น้ำมันเถื่อน 3 แสนกว่าลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันเถื่อนที่ไม่ต่างจากน้ำมันเขียว อยู่ที่ลิตรละ 10-12 บาท รวมมูลค่าน้ำมันทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านบาทเท่านั้น แต่แท้จริงกลุ่มที่นำเรือหนีไปนั้นต้องการนำเรือทั้ง 3 ลำที่ถูกดัดแปลงแล้วไปใช้งานต่อ ส่วนรายละเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นทางตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันแถลงข่าวต่อไป.