รวบแล้วฆาตกรโหดสังหาร “น้องครีม” สาวร้านนวดแผนโบราณ จ.ภูเก็ต ทิ้งศพอืดสยองในพงหญ้าริมถนน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เป็นหนุ่มคู่กิ๊กที่เพิ่งรู้จักกันผ่านแอปหาคู่ อ้างไปหาผู้ตายเพื่อช่วยขับรถกระบะจะเอาไปส่งคืนแฟนเก่าที่กรุงเทพฯ ระหว่างทางแฟนสาวของตัวเองโทร.มาหา ทำให้ผู้ตายแกล้งพูดเสียงดังให้ปลายสายได้ยินจนมีปากเสียงกัน ถูกผู้ตายตบหน้าทำเอาฉุนฟิวส์ขาดบีบคอสิ้นใจคามือแล้วเอาศพไปทิ้งก่อนเอารถกระบะไปขาย แต่สุดท้ายหนีไม่รอดถูกตำรวจตามตะครุบตัวขณะพาสาวอีกคนไปนั่งกินข้าวร้านริมทะเลบ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แม่เหยื่อสุดแค้นตะโกนลั่นฆ่าลูกกูทำไม ปรี่จะเอาเรื่องจนเกิดชุลมุนบนโรงพัก

กรณี น.ส.เบญจรัตน์ หรือน้องครีม เชยจันทร์ อายุ 21 ปี ชาว จ.หนองคาย พนักงานร้านนวดแผนโบราณใน จ.ภูเก็ต ขับรถกระบะโตโยต้ารีโว่ สีเทาดำ ทะเบียน 3 ฒษ 5699 กรุงเทพมหานคร ออกจาก จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 2 มิ.ย. เพื่อจะนำรถไปคืนแฟนเก่าที่กรุงเทพฯ มีชายคนหนึ่งนั่งรถไปด้วยกัน แล้วหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งวันที่ 7 มิ.ย. พบศพน้องครีมอยู่ในสภาพขึ้นอืดเน่าเปื่อย ถูกทิ้งอยู่ในพงหญ้าริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ กม.ที่ 144 ใกล้โรงงานแอมคอร์ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ส่วนรถกระบะกับชายที่นั่งมาด้วยกันหายไป

หลังจากตำรวจไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางแล้วในที่สุดก็สามารถติดตามจับกุมฆาตกรโหดที่ก่อเหตุได้แล้วคือชายหนุ่มที่นั่งรถมากับผู้ตาย โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มิ.ย. พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี สั่งการฝ่ายสืบสวน สภ.เขาย้อย ร่วมกับ กก.สส.ภ.จ.เพชรบุรี นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายอนุวัฒน์ พิมมาศ อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 232/2 หมู่ 5 ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี เลขที่ 221/67 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือสาเหตุแห่งการตาย จับกุมได้ที่ ต.บ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ คุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เขาย้อย

...

จากการสอบสวนนายอนุวัฒน์ พิมมาศ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับผู้ตายผ่านทางแอปหาคู่ พูดคุยกันมาได้ประมาณ 3 เดือน และเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายบอกว่าจะเอารถกระบะไปคืนแฟนเก่าที่กรุงเทพฯ ตนนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯไปหาที่ภูเก็ตเพื่อช่วยขับรถให้ เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นผู้ตายก็ขับรถกระบะมารับพากันเดินทางขึ้นกรุงเทพฯเพื่อนำรถไปคืนแฟนเก่า

ผู้ต้องหาให้การต่อไปว่า กระทั่งเดินทางเข้าเขตพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ แฟนสาวของตนโทรศัพท์มาหา ผู้ตายพยายามพูดจาส่งเสียงดังเพื่อให้แฟนตนทราบว่าอยู่ด้วยกัน หลังวางสายผู้ตายยังตบหน้าตนทำให้เกิดความโมโห จอดรถแล้วมีปากเสียงกัน ก่อนจะใช้มือบีบคอน้องครีมจนเสียชีวิตในรถ จากนั้นขับรถไปเรื่อยๆจนเข้าเขต จ.สมุทรสาคร เลี้ยวกลับรถย้อนกลับมาฝั่งขาล่องใต้ นำศพไปทิ้งในพงหญ้าริมถนนเพชรเกษม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ก่อนจะเลี้ยวกลับรถไปฝั่งขาขึ้น ขับมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ นำรถกระบะของผู้ตายไปลงประกาศขายผ่านทางออนไลน์ เอารถไปส่งให้ลูกค้าย่านรังสิต จ.ปทุมธานี แล้วกลับเข้าพื้นที่บ้านเกิด จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวขณะพาหญิงสาวอีกคนไปนั่งกินอาหารที่ร้านริมทะเลบ้านกรูด

ด้าน น.ส.พรพรรณ นาสมสี อายุ 42 ปี แม่น้องครีมเผยว่า ไม่รู้จักกับนายอนุวัฒน์ผู้ก่อเหตุ และไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่พอจะทราบว่าน้องครีมเล่นแอปหาคู่อยู่ ก่อนหน้านี้น้องครีมเคยมาปรึกษาแม่เรื่องเลิกกับแฟน ก็แนะนำไปว่าอยู่ที่การตัดสินใจของลูก เชื่อว่านายอนุวัฒน์ตั้งใจที่จะให้น้องครีมเสียชีวิต เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจะต้องให้การช่วยเหลือหรือพาไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด อยากจะให้ได้รับโทษประหารให้ตายตกตามกันไป

ต่อมาเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหาฆ่าน้องครีมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ออกจากโรงพัก น.ส.พรพรรณ แม่ผู้ตายอยู่ในอารมณ์โกรธแค้น ตะโกนด่าทอว่าฆ่าลูกกูทำไม พร้อมปรี่เข้าไปจะเอาเรื่อง ผู้ต้องหาจนเกิดความชุลมุนขึ้นเล็กน้อย

จากนั้นนำตัวไปทำแผนฯจุดแรกที่ทิ้งศพริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ กม.ที่ 144 จำลองเหตุการณ์ตั้งแต่ขับรถกระบะเข้าไปในพงหญ้า ลากศพน้องครีมออกมาทิ้ง แล้วใช้น้ำยาล้างห้องน้ำราดใบหน้าศพ จุดต่อมาแวะซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน ส่วนอีกจุดที่ลงมือบีบคอผู้ตายเสียชีวิตในรถแล้วนำศพไปไว้ที่แค็บหลัง เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้น กม.ที่ 255 อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังทำแผนฯนำตัวกลับมาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กับอีก 2 ข้อหาตามหมายจับคือลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่วนรถกระบะที่ผู้ต้องหานำไปขาย ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามคืนมาเป็นของกลางประกอบสำนวนคดี

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่