คลี่ปมแรก ตำรวจบุกจับ “เจ๊มด” เมีย “เสี่ยต้น” จ้างฆ่าผัวคาที่พักย่านรามคำแหง พร้อมทีมฆ่าอีก 2 คน คือคนขี่ จยย.และคนจัดหาปืน ที่พัก ส่วนมือสังหารเผ่นหนีเข้าพม่า ทางชายแดนแม่สอดตั้งแต่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา “รองนพศิลป์” เผย “เจ๊มด” ขอให้การชั้นศาล ขณะที่ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับให้การเป็นประโยชน์ พบข้อมูลจ้างฆ่ากว่า 3 แสน ชนวนเหตุจูงใจมี 2 ส่วน คือความขัดแย้งในครอบครัวที่ผู้ตายนอกใจทำร้ายร่างกาย และหวังผลประโยชน์ทรัพย์สิน ส่วนคดีที่ไปตายปริศนาที่มหาสารคาม ตำรวจภาค 4 จะใช้คดีนี้เป็นสารตั้งต้นคลายปมเปลาะต่อไป ด้านเรื่องสั่งซื้อไซยาไนด์ ที่ “เจ๊มด” หาข้อมูลในโซเชียลมีอยู่ใน สำนวนแล้ว

คลี่คลายแล้ว 1 เปราะ ตำรวจรวบ “เจ๊มด” เมียเสี่ยต้นจ้างฆ่าผัว เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 3 มิ.ย. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.

...

กก.สส.บก.น.4 สน.วังทองหลาง และตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมแถลงผลปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุจ้างวานและลอบยิงนายพิชิต หรือเสี่ยต้น กลีบจินดา เจ้าของธุรกิจโรงเรียนสอนสปาและนวดแผนไทย เมื่อดึกวันที่ 8 เม.ย.67 พื้นที่ สน.วังทองหลาง ก่อนจะไปเสียชีวิตปริศนาที่บ้านภรรยาใน อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม วันที่ 16 เม.ย.

ผลปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหา 3 รายคือ น.ส.วรรณิภา หรือมด หะมาลา อายุ 37 ปี ภรรยานายพิชิต ที่อยู่ 214/44 ซอยพัฒนาการ 20 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2562/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย.67 ฐาน“เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” จับได้ที่ห้องเลขที่ 298/989 อาคารศุภาลัยเวอเรนด้า รามคำแหง ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯพร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง แท็บเล็ต 2 เครื่อง สมุดบัญชี 8 เล่ม เอกสารสำคัญประจำตัวจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังจับกุมนายสาโรจน์ หรือแป๊ะ เสือสุวรรณ อายุ 25 ปี และนายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2560-61/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย.67 ฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้อนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ส่วนนายสาโรจน์ จับได้ที่บ้านเลขที่ 24 เขตคันนายาว กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง ปืน 9 มม. 2 กระบอก กระสุนปืน 5 นัด โดยปืน 1 ใน 2 กระบอกที่ใช้ก่อเหตุถูกทิ้งในบ่อน้ำหลังบ้าน จับนายวีรภัทร ได้ที่หมู่บ้านเคหะนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.พร้อมของกลาง จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น MSX 125SF สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียนที่ใช่้ก่อเหตุ ยึดได้ที่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.35 น.วันที่ 8 เม.ย.67 มีคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.แบบผู้ชายสีขาว ประกบยิงนายพิชิต หรือเสี่ยต้น กลีบจินดา เจ้าของธุรกิจโรงเรียนสอนสปาและนวดแผนไทย ขณะขับรถในพื้นที่ สน.วังทองหลาง แล้วขี่รถ จยย.หลบหนีไป นายพิชิตบาดเจ็บเล็กน้อยจากกระจกที่แตกเข้าลำตัว เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.วังทองหลาง ก่อนจะไปเสียชีวิตปริศนาที่บ้าน น.ส.วรรณิภาที่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ช่วงเช้าวันที่ 16 เม.ย. ญาตินายพิชิตสงสัยสาเหตุการตายเพราะก่อนหน้าเพิ่งถูกลอบยิงเชื่อว่าเหตุการณ์น่าจะเกี่ยวพันกัน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

แนวทางการสืบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุนายพิชิตผู้ตายแอบไปมีกิ๊กและแยกกันอยู่กับภรรยาได้ประมาณ 2 เดือน เกิดทะเลาะวิวาทกับ น.ส.วรรณิภา และทำร้ายร่างกายกันหลายครั้งคาด เป็นมูลเหตุที่ทำให้เกิดการก่อเหตุครั้งนี้ ช่วงปลายเดือน มี.ค.67 น.ส.วรรณิภาเริ่มติดต่อกับนายณัฐพล ศิริโนนรัง มือปืนที่ยังหลบหนี วันที่ 1 เม.ย.นายณัฐพล เดินทางเข้า กทม.นัดพบกับ น.ส.วรรณิภา ฝ่ายหญิงโอนเงินให้นายณัฐพล ตั้งแต่วันที่ 1-7 เม.ย.เป็นเงิน 45,500 บาท และรับเป็นเงินสดอีกภายหลังรวมกว่า 300,000 บาท ส่วนนายสาโรจน์ มีหน้าที่ช่วยเหลือจัดหาที่พัก ปืน และรถ จยย.ที่ใช้ น.ส.วรรณิภาได้โอนเงิน 33,000 บาท ให้นายสาโรจน์ เป็นค่าจ้างด้วย

ขณะเดียวกัน น.ส.วรรณิภาจะคอยแจ้งความเคลื่อนไหวนายพิชิตให้นายณัฐพลทราบต่อเนื่อง วางแผนลงมือก่อเหตุ 2 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ ก่อนที่นายณัฐพลกับ น.ส.วรรณิภาได้วางแผนให้นายพิชิตมาที่โรงเหล้าแสงจันทร์ในวันที่ 8 เม.ย. เมื่อนายพิชิตไปถึง น.ส.วรรณิภา ยกเลิกนัดทำให้นายพิชิตเดินทางกลับบ้าน และถูกลอบยิงดังกล่าว ตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางก่อเหตุคนร้ายพบด้วยว่า ก่อนและหลังการก่อเหตุคนร้ายขี่รถ จยย.เข้าและออกจากซอยรามอินทรา 62 เจือสมได้กับนายสาโรจน์ มีบ้านอยู่ในซอยรามอินทรา 62 แยก 4

...

หลังก่อเหตุไม่สำเร็จ น.ส.วรรณิภานัดให้นายพิชิตผู้ตายมาหาที่บ้านที่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ช่วงวันหยุดสงกรานต์เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาครอบครัว น.ส.วรรณิภาเป็นผู้จองตั๋วเครื่องบินให้และบอกด้วยว่าหากไม่มาจะตัดขาดความสัมพันธ์และจะขายทุกอย่างทั้งหมด กระทั่งวันที่ 15 เม.ย. หลังนายพิชิต มาถึงบ้าน น.ส.วรรณิภา ได้ล้อมวงดื่มสุรา มีพยานยืนยันคืนนั้นนายพิชิตอยู่กับ น.ส.วรรณิภา เป็นคนสุดท้าย ก่อนพบนายพิชิตเสียชีวิตในเช้าวันรุ่งขึ้น จากนั้น น.ส.วรรณิภาพูดหว่านล้อมญาติทุกคนไม่ให้ผ่าชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตทั้งที่ญาติทักท้วงว่าตายผิดธรรมชาติ แต่ น.ส.วรรณิภากลับเร่งให้เผาศพทันทีเป็นการพยายามทำลายหลักฐานไม่ให้ตำรวจสืบสวนถึงสาเหตุเสียชีวิตที่แท้จริงได้ พร้อมทั้งเสนอผลประโยชน์และทรัพย์สินต่างๆตอบแทนให้กับญาตินายพิชิตด้วย

จากการสอบสวน น.ส.วรรณิภาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายสาโรจน์ เสือสุวรรณ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.วรรณณิภาติดต่อและจ้างวานให้เป็นธุระจัดหาปืน ยานพาหนะ ติดต่อหามือปืน ได้เงินจาก น.ส.วรรณวิภา 70,000 บาทและโอนต่อให้กับมือปืนในคดีนี้ ส่วนนายวีรภัทรรับว่า ขี่รถ จยย.พามือปืนไปก่อเหตุ ได้ค่าจ้างจากมือปืน 4,000 บาท ตรวจสอบประวัติพบว่านายวีรภัทรเคยถูกดำเนินคดีฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย” ที่ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก เมื่อปี 59

มีรายงานว่า ในส่วนนายณัฐพล ศิริโนนรัง มือปืนที่ยังหลบหนี จากการสืบสวนพบว่าใช้บัตรผ่านแดนเดินทางออกไปประเทศเมียนมา ตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 23 พ.ค.ช่องทางสะพานไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่จะได้ประสานเจ้าหน้าที่เมียนมาตามจับกุมส่งตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป

...

ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในส่วนของนายวีรภัทร และนายสาโรจน์ ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างให้ไปซื้อปืนในราคา 12,000 บาท นายสาโรจน์เป็นผู้จัดหา ส่วนนายวีรภัทรยอมรับรู้จักนายณัฐพลที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 62 นายณัฐพลอ้างว่าให้ไปช่วยติดตามเมียเพราะว่าทะเลาะกัน ให้ช่วยขี่รถให้ถ้าเกิดเจอเมียและหากพบว่าไปมีคนอื่นขอให้ช่วยลงมือยิง นายวีรภัทรตอบตกลงได้รับค่าจ้าง 4,000 บาท อ้างว่าตอนนั้นไม่มีเงิน

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า จากนั้นช่วงคืนวันที่ 8 เม.ย. ช่วงแรกนายณัฐพลเป็นคนขี่ จยย. ส่วนนายวีรภัทรซ้อนท้าย นายณัฐพลส่งปืนให้นายวีรภัทรลงมือยิง แต่นายวีรภัทรตกใจไม่คิดว่าจะทำขนาดนี้ประกอบกับกล้องวงจรปิดจับภาพได้ตอนที่หยุดรถและนายวีรภัทรลงจากรถอยากจะเอาปืนไปซุกไว้ที่กอหญ้า นายณัฐพลไม่ยอมบอกว่า “เดี๋ยวกูทำเอง” ให้นายวีรภัทรเป็นคนขี่ จยย. คำให้การนายวีรภัทรอ้างว่า ตั้งใจขี่รถมาทางด้านซ้ายรถเสี่ยต้น เพราะคิดว่าหากยิงวิถีนี้น่าจะแค่เฉียดเป้าหมาย แต่หากขี่เอียงไปทางด้านขวา จะยิงเป้าหมายเข้าถูกจุดแน่นอน พยายามขี่รถชะลอไม่ให้ตามรถเสี่ยต้นทันเพราะรู้สึกว่างานนี้ไม่ธรรมดาแล้ว

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำผู้จ้างวานยังคงให้การภาคเสธ แต่รับว่ามีปัญหาขัดแย้งภายในครอบครัว ส่วนเรื่องอื่นๆขอไปต่อสู้ในชั้นศาล ถือว่าเป็นสิทธิ์ผู้ต้องหา ยืนยันว่าหลักฐานทั้งหมดสามารถเชื่อมโยงไปถึง ทั้งนี้ภรรยาเสี่ยต้นจ้างมือปืนยิงเสี่ยต้นหวังเอาชีวิตเพื่อประโยชน์เรื่องทรัพย์สินและเงินประกันชีวิต

แต่มือปืนทำไม่สำเร็จนอกจากนี้ ยังพบว่า ภรรยาเสี่ยต้น ไม่ได้รู้จักกับกลุ่มจ้างวานเป็นการส่วนตัว สำหรับความเชื่อมโยงคดีที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม เชื่อว่าคดีที่ สน.วังทองหลางจะเป็นสารตั้งต้น ส่วนพยานหลักฐานจะเชื่อมโยงไปถึงหรือไม่ ตำรวจภูธรภาค 4 เป็นคนดำเนินการและขยายผลต่อ หลังจากนี้หากสอบปากคำแล้วพบใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการให้ถึงที่สุด สำหรับประเด็นทางโทรศัพท์ที่ภรรยาหาข้อมูลซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์นั้นอยู่ในสำนวนแล้ว

...

ต่อมาเวลา 15.45 น. ตำรวจคุมตัว น.ส.วรรณิภา ภรรยาเสี่ยต้น ออกจาก บก.สส.บช.น.ไปสอบสวนดำเนินคดีต่อ ที่ สน.วังทองหลาง ผู้สื่อข่าวสอบถามได้ก่อเหตุจ้างวานฆ่าสามีตัวเองหรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่ยอมตอบ

วันเดียวกัน ที่บ้านโพธิ์งาม ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม บ้าน น.ส.วรรณิภา บรรยากาศปิดบ้านเงียบ เพื่อนบ้านเล่าว่า เมื่อเช้าแม่ของมดนั่งทานข้าวอยู่ด้วยกันพอทราบข่าวว่ามดโดนจับก็ไม่เป็นอันกินข้าว ได้ให้กำลังใจปลอบใจกัน เพราะไม่เชื่อว่ามดจะเป็นคนทำเพราะปกติเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

ขณะที่นายถนอม คำหล้าแก้ว อายุ 65 ปี ญาติ น.ส.วรรณิภา และเป็นคนขับรถที่รับเสี่ยต้นมาจากสนามบินไปที่บ้าน น.ส.วรรณิภา ก่อนเสียชีวิตปริศนา กล่าวว่า ให้ว่าตามพยานหลักฐาน เท่าที่สัมผัสเสี่ยต้น ก็ตอนไปรับจากสนามบิน และเป็นครั้งแรกที่ไปรับ ระหว่างทางเสี่ยต้นบ่นเรื่องโดนลอบยิงมาตลอด บอกว่าลุงอย่าห่างจากเขานะ มาที่นี่ก็กลัวเหมือนกันและไม่อยากจะนอนที่บ้านมดด้วย เรื่องเหตุการณ์ในวันนั้นที่นั่งกินข้าวกัน ตนอยู่กับมดตลอดจนพาเสี่ยต้นเข้านอน พอเสี่ยต้นนอนกรนถึงได้กลับบ้าน ตนอยู่ใกล้ที่สุดจะไปโดนยาโดนอะไรตอนไหนยังงงอยู่ ส่วนเรื่องคดี สภ.ยางสีสุราช จะเรียกไปสอบเพิ่มอีกในวันที่ 4 มิ.ย.นี้

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่