ตำรวจจับแล้ว “ฆาตกรฮู้ดดำ” ฆ่าปาดคอแทงร่างพรุนพ่อค้าออนไลน์รูดทรัพย์หมกศพคอนโด ตามแกะรอยหนีกบดานบ้านญาติอดีตผู้นำท้องถิ่น จ.ชุมพร หลักฐานมัดเจอทองคำแท่ง น้ำหนัก 21 บาท และบัตรประชาชนเหยื่อ เค้นสอบยืนยันไม่ได้เป็นคู่ขา อ้างถูกโกงเงินลงทุนขายเสื้อผ้า 5 ล้านบาท ทวงถามแต่เหยื่อบ่ายเบี่ยงมีปากเสียงอย่างรุนแรง บันดาลโทสะใช้มีดกระหน่ำแทงดับ เปิดประวัติครอบครัวฐานะร่ำรวยเรียนจบนิติศาสตร์มหาลัยดัง ขณะที่แม่เหยื่อไม่ อโหสิกรรม จี้ให้ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพ
จากคดีอุกฉกรรจ์คนร้ายใช้มีดปาดคอนายไพศาล ทองอ่อน อายุ 54 ปี พ่อค้าออนไลน์ แทงร่างพรุนกว่า 10 แผล หมกศพขึ้นอืดในห้องพักเลขที่ 107/129 ชั้น 6 ไอ คอนโด ซอยงามวงศ์วาน 6 แยก 21 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี นานกว่า 5 วัน ก่อนลูกบ้านทนกลิ่นเหม็นเน่าไม่ไหวแจ้งนิติบุคคลเปิดห้องตรวจสอบเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจคาดว่าเป็นฝีมือหนุ่มคนสนิทก่อเหตุแล้วหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สิน ชุดสืบสวนแกะรอยพบว่าคนร้ายหลบหนีไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนเหมารถแท็กซี่ไปตลาดโต้รุ่งหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จ.นนทบุรี สั่งการให้ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.ภ.จ.สิงห์บุรี พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.1 พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี นำกำลังชุดสืบสวนภาค 1 ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี และชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จับกุมนายภูริณัฐ กาญจนบรรยงค์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/9 ซอยเพิ่มสิน 62 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.490/2567 โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 59/1 หมู่ 4 ต.วังใหม่ อ.เมืองชุมพร พร้อมของกลางทองคำแท่ง น้ำหนัก 21 บาท และบัตรประชาชนผู้ตาย
...
ตำรวจชุดสืบสวนเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจหลายหน่วยระดมกำลังไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้าย กระทั่งพบว่าคนร้ายนำโทรศัพท์มือถือผู้ตายไปสแกน QR Code ซื้อทองคำที่ร้านทองย่านลาดพร้าว เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา จำนวนกว่า 800,000 บาท จากนั้นวันที่ 27 พ.ค. นำโทรศัพท์ผู้ตาย 2 เครื่องไปขายที่ห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน คนร้ายสวมบัตรประชาชนผู้ตายอ้างกับร้านค้าว่าเพิ่งทำศัลยกรรมมาทำให้ใบหน้าไม่เหมือนในบัตร
ต่อมาคนร้ายนั่งรถหลบหนีมาเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ชุดสืบสวนออกหาตามจุดต่างๆ พบกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายเดินลากประเป๋าอยู่บริเวณชายหาดพัทยาเดินผ่านซอย 11 ถนนเลียบชายหาด เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ติดตามไปโรงแรมดังกล่าวปรากฏว่าคนร้ายเช็กเอาต์ออกไปตอนเที่ยงวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายแต่งกายสวมเสื้อฮู้ด ผ้าบางสีขาว นุ่งกางเกงขายาว สวมแมสก์ ไม่สวมแว่นตา เดินมาเรียกรถแท็กซี่ เวลา 13.40 น. พูดภาษาอังกฤษอ้างว่าเป็นชาวฮ่องกงว่าจ้างไปส่งตลาดโต้รุ่งหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในราคา 4,000 บาท ถึงจุดหมายเวลา 18.00 น. ตำรวจเดินทางติดตามคนร้ายอย่างกระชั้นชิด ทราบว่าคนร้ายเมื่อถึงจุดหมายเปลี่ยนการแต่งกายสวมเสื้อผ้าให้ดูเหมือนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
จากนั้นคนร้ายซื้อตั๋วรถทัวร์โดยสารปลายทาง จ.สุราษฎร์ธานี แต่คนร้ายลงรถบริเวณสี่แยกปฐมพร อ.เมืองชุมพร โทรศัพท์หาญาติมีรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว มารับพาไปยังบ้านลุงเป็นอดีตกำนัน เลขที่ 59/1 หมู่ 4 ต.วังใหม่ อ.เมืองชุมพร เป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกในสวนทุเรียนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ตำรวจชุดสืบสวนมั่นใจว่าคนร้ายอยู่ในบ้านดังกล่าว นำหมายจับเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง นำตัวไปสอบสวนและลงบันทึกการจับกุม สภ.เมืองชุมพร
สอบสวนนายภูริณัฐผู้ต้องหาอ้างว่า รู้จักกับผู้ตายประมาณ 1 ปี ไม่ได้เป็นเกย์หรือคู่ขากับผู้ตาย ร่วมทำธุรกิจซื้อขายเสื้อผ้าจากประเทศจีนด้วยเงินลงทุน 5 ล้านบาท ต่อมาพยายามถามเรื่องเงินลงทุนแต่ไม่ได้รับคำตอบ ผู้ตายพยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด วันเกิดเหตุนัดพูดคุยกับผู้ตายพร้อมแวะซื้อมีดปลายแหลมที่ร้านมาร์เก็ตวิลล่า ย่านรัชโยธิน เพื่อพกติดตัวไว้ป้องกันตัว เมื่อผู้ตายมารับไปยังห้องพักที่คอนโดเกิดเหตุพูดทวงถามเรื่องเงินที่ผู้ตายเอาไปลงทุน แต่ถูกผู้ตายดุด่าต่อว่าจนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ด้วยความโมโหใช้มีดที่เตรียมมาจ้วงแทงเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหามา สภ.เมืองชุมพร โดยมีแม่และญาติผู้ต้องหาติดตามมาด้วย ตำรวจล็อกประตูกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในห้องสอบสวนอย่างเด็ดขาด กระทั่งเวลา 17.00 น. ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เพื่อส่งตัวดำเนินคดี สภ.เมืองนนทบุรี สำหรับนายภูริณัฐ เรียนจบคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครอบครัวเป็นชาว จ.ชุมพร มีฐานะร่ำรวยจากการประกอบอาชีพทำสวนทุเรียน
ขณะที่แม่นายภูริณัฐ ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ลูกทำธุรกิจแต่ไม่เคยบอก อ้างว่าผู้ตายเอาเงินไป 5 ล้านบาท แต่ไม่ยอมคืน ช่วงเกิดเหตุลูกบอกว่าผู้ตายบีบคอเขาก่อนเขาเลยป้องกันตัวไม่คิดจะทำร้ายผู้ตาย ตอนแรกเห็นภาพจากข่าวตำรวจตามล่าฆาตกร สวมฮู้ด ลากกระเป๋า ตนเอะใจมันคุ้นเหมือนเสื้อของลูกหมดทุกอย่าง เค้นถามลูกตั้งแต่แรก แต่เขายังไม่ยอมบอก เพียงบอกว่าไม่ใช่เขาแค่คนหน้าเหมือน
“ลูกเป็นเด็กน่ารักมาก เป็นเด็กอ่อนน้อมถ่อมตน แม่ประคบประหงมลูกทุกคน ไม่เคยทำร้ายใคร ลูกเป็นคนจิตใจอ่อนโยน ที่ทำไปเพราะผู้ตายบีบคอน้องก่อน น้องเลยป้องกันตัว เพราะว่าตัวเองไม่แข็งแรง แล้วคนนั้นก็เป็นผู้ชายตัวใหญ่” แม่นายภูริณัฐ ผู้ต้องหา กล่าว
พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมือง นนทบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าผู้ต้องหาเดินทางไป จ.ชุมพร เพื่อกลับบ้านเกิด กระทั่งถูกจับพร้อมของกลางทองคำและบัตรประชาชนผู้ตาย ส่วนมูลก่อเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเพื่อนกับผู้ตายแล้วทำธุรกิจด้วยกัน ก่อนมีปัญหาเรื่องธุรกิจแล้วถูกผู้ตายโกงเงินไป
...
นางบรรจง เขียวอ่อน อายุ 77 ปี แม่ของผู้ตาย เดินทางมา สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้สำเร็จหลังที่ผ่านมากังวลใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยืนยันไม่อโหสิกรรมแต่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพ และอยากถามผู้ก่อเหตุว่าเหตุใดต้องทำถึงขนาดนี้ ใจเปรียบเสมือนไม่ใช่มนุษย์ ผู้ตายเป็นคนดีไม่ใช่คนเลว ไม่เชื่อว่าลูกจะโกงเงิน 5 ล้านบาท พร้อมขอบคุณตำรวจที่ทำงานสุดความสามารถ ผู้ตาย ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว จากนี้ขอบอกผู้ตายว่าความยุติธรรมมีจริงให้นอนตายตาหลับ จากนี้จะรีบรับศพมาทำพิธีกรรมตามหลักศาสนา หลังก่อนหน้านี้เคยประกาศไว้ว่าจะไม่เผาศพจนกว่าจะจับคนร้ายได้
นายฉัตรชัย ทองอ่อน อายุ 55 ปี พี่ชายผู้ตาย กล่าวว่า ครอบครัวติดใจเรื่องการซื้อทอง คนร้ายนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปสแกน QR Code ซื้อทองคำที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว คนร้ายสวมบัตรประชาชนของผู้ตายและอ้างกับร้านว่าไปศัลยกรรมมา ทำให้หน้าตาตัวจริงไม่เหมือนในบัตร และมองว่านิติบุคคลของคอนโดช่วงเหตุเกิดแล้วทำไมไม่แจ้งตำรวจ ตนดำเนินการฟ้องร้านทอง นิติคอนโด และธนาคาร เพราะมองว่าหละหลวมเกินไป อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างการจ่ายเงินหลักล้านได้ ต้องมีขั้นตอนการยืนยันตัวตน แต่กรณีที่เกิดขึ้นเหมือนแหกกฎ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่