รวบหนุ่มไรเดอร์ร่วมฆ่าหั่นศพเหยื่อแก๊งยากูซ่า ทิ้งชิ้นส่วนเกลื่อนในย่านบางบัวทอง หลังขับรถไปรับชาวญี่ปุ่น 3 คน นั่งก๊งเหล้าเกิดทะเลาะยิงกันในโกดังดับ 1 แล้วซื้ออุปกรณ์มาหั่นศพใส่ถุงดำแยกย้ายกันไปทิ้ง ตำรวจออกหมายจับชาวญี่ปุ่น 2 คน 1 ในนั้นเป็นรองหัวหน้าแก๊งยากูซ่า สกัดกั้นตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน คาดปมเหตุผู้เสียชีวิตทำผิดกฎของแก๊งถูกตามล่าสั่งเก็บ

จากเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์และมือข้างขวามีรอยสักยัดใส่ถุงดำนำมาทิ้งที่ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย หมู่ 4 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อมาพบรถนิสสัน อัลเมร่า สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดทิ้งไว้ข้างทางนานเกือบ 1 เดือน เจ้าของรถมาพบตำรวจ สภ.บางบัวทอง แจ้งว่านำรถไปจำนำไว้ 7 เดือนแล้ว ยังไม่ได้ไปไถ่คืนและไม่เกี่ยวข้องกับคดี ล่าสุดพบชิ้นส่วนข้อกระดูกและกะโหลกคนอยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ แพทย์ระบุว่ากะโหลกมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะข้างซ้ายทะลุออกด้านขวา สภาพฟันหน้าบนหลอ ด้านหน้าล่างหลอ และฟันกรามถูกอุดมาหลายซี่ แพทย์นำไปตรวจสอบเปรียบเทียบประวัติการทำฟัน นอกจากนี้ยังมีเส้นผมของผู้ตายติดอยู่กับ กะโหลกที่พบบางส่วนด้วย ชิ้นส่วนข้อกระดูกเป็นกระดูกที่ลำคอถูกตัดด้วยของมีคม เป็นลักษณะรอยตัดตรงไม่มีรอยหยัก คาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เป็นแนวตรงในลักษณะนี้น่าจะเป็นเลื่อยไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เก็บกะโหลกนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรว่าเป็นคนเดียวกับที่พบมือมนุษย์ก่อนหน้านี้หรือไม่ เพื่อคลี่คลายคดีต่อไป

ความคืบหน้าช่วงดึกวันที่ 23 เม.ย. ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 1 ชุด สส.ภ.จ.นนทบุรี และตำรวจสืบสวน สภ.บางบัวทอง ร่วมกันจับกุมนายกฤษกร ใจพิทักษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/19 ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ พร้อมรถยนต์อีก 3 คัน มีส่วนพัวพันคดีฆ่าหั่นศพ มี พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ร่วมสอบสวนใช้เวลากว่า 3 ชม.

...

สอบสวนนายกฤษกรให้การว่า มีอาชีพเป็นไรเดอร์รู้จักกับกลุ่มชาวญี่ปุ่น เมื่อมาเที่ยวไทยจะจ้างขับรถให้วันละ 1,000 บาท เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ตนขับรถเก๋งนิสสัน โน้ต สีแดง จำทะเบียนไม่ได้ เป็นรถเช่า ขับรถพาชาวญี่ปุ่น 3 คน ไปนั่งดื่มเหล้าที่ร้านย่านพุทธมณฑล สาย 2 หลังร้านปิดช่วงตี 3 วันที่ 27 เม.ย. วิ่งรถมาถึงที่โกดังในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย หมู่ 4 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบรถนิสสัน อัลเมร่า สีขาว จอดอยู่ด้านหน้า ชายชาวญี่ปุ่นทั้ง 3 คน เดินเข้าไปในโกดัง ตนเดินสูบบุหรี่อยู่ด้านนอก เพียงไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนวิ่งไปดูพบชายถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ ส่วนชายญี่ปุ่น 2 คนรีบปิดประตูขับรถเก๋งนิสสัน อัลเมร่า ออกจากโกดังทันที

นายกฤษกรให้การเพิ่มเติมว่า ต่อมาวันที่ 28 มี.ค. ชาวญี่ปุ่นติดต่อให้มาพบที่โกดังดังกล่าว ตนขับรถเก๋งนิสสัน โน้ต สีแดง ไปพบชาวญี่ปุ่นทั้ง 2 คน อยู่ในโกดังหั่นศพใส่ถุงดำสั่งให้ตนนำไปทิ้ง จำนวนหนึ่ง ส่วนชาวญี่ปุ่น 2 คน ขับรถเก๋งนิสสัน อัลเมร่า ขนชิ้นส่วนผู้ตายไปทิ้งแล้วแยกย้ายกันไป ต่อมาตนนำรถเก๋งที่เช่าไปส่งคืน

ขณะเดียวกัน ตำรวจนำหลักฐานภาพถ่ายรอยสักข้อมือขวาของผู้เสียชีวิตที่สีซีดจากการเน่าเปื่อยไปให้ผู้ชำนาญการด้านรอยสักเพิ่มความเข้มสีให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อหาเบาะแสผู้เสียชีวิตจากรอยสักรูปเพิ่มเติม พบว่าลายสักดังกล่าวมีลักษณะงานสักเฉพาะกลุ่ม เหมือนรอยสักแก๊งยากูซ่า แบบญี่ปุ่น เป็นลักษณะของเกล็ดสัตว์บางชนิด ทำให้คาดว่าร่างของผู้เสียชีวิตที่พบน่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ก่อนจะถูกลงมือฆาตกรรมและอำพรางศพ สอดคล้องตามคำให้การของนายกฤษกร

สำหรับแนวทางสืบสวน ตำรวจรู้เบาะแสผู้ตายและผู้ก่อเหตุเป็นชาวญี่ปุ่นประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นเพื่อขอข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับตัวทั้งคนตายและผู้ก่อเหตุทั้งหมด ทราบว่าทั้ง 3 คนอยู่ในแก๊งยากูซ่า ผู้ตายชื่อนายคาบาชิมา โรยซูกิ อายุ 47 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายกาโตะ ทาคูย่า อายุ 50 ปี รองหัวหน้าแก๊งยากูซ่า และนายซูซูกิ ฮิโรโตะ อายุ 33 ปี เป็นลูกน้อง ตรวจสอบประวัตินายกาโตะเดินทางเข้ามาประเทศไทยหลายปีแล้ว และมีหมายแดงเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจญี่ปุ่นถูกเพิกถอนวีซ่าไปตั้งแต่ปี 2565 ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่งเดินทางเข้ามาไทย ส่วนมูลเหตุพบว่าผู้เสียชีวิตกระทำผิดกฎของแก๊งยากูซ่าจึงถูกสั่งเก็บ

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 4 เทศบาลเมืองพิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสนุทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รอง ผกก.สส.ภ. จ.นนทบุรี พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เดินมาร่วมประชุมและซักถามนายกฤษกร ใจพิทักษ์ อายุ 30 ปี ต่อมา พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 สั่งการให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับนายกาโตะ ทาคูย่า อายุ 50 ปี รองหัวหน้าแก๊งยากูซ่า และนายซูซูกิ ฮิโรโตะ อายุ 33 ปี เป็นลูกน้อง

พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ตำรวจพบชิ้นส่วนมนุษย์ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง วันที่ 19 เม.ย. พบเป็นมือมีลายสัก ซี่โครง และสะบักหลัง จนถึงวันที่ 22 เม.ย. รวมชิ้นส่วนทั้งหมด 12 ชิ้น นำไปสู่การสืบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวญี่ปุ่น และบุคคลที่ฆ่าเป็นคนแก๊งเดียวกันเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทยมีผู้กระทำผิด 3 คน เป็นชาวญี่ปุ่น 2 คน คนไทย 1 คน จุดที่ก่อเหตุยิงและหั่นศพอยู่ที่โกดังในพื้นที่ อ.บางบัวทอง สืบทราบว่า เหตุเกิดวันที่ 27 เม.ย. ไปที่ร้านอาหารย่านธนบุรีมีปากเสียงไม่พอใจกัน จากนั้นขับกลับมาที่โกดังใน อ.บางบัวทอง แต่ยังไม่ทราบว่าสาเหตุอะไร ชาวญี่ปุ่นก่อเหตุยิงในโกดัง นายกฤษกรคนขับรถอยู่ด้านนอก จากนั้นทั้ง 3 คนไปจัดซื้อวัสดุที่ห้างค้าส่งย่านศรีนครินทร์ และร้านสะดวกซื้อ

ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 28 มี.ค.เวลา 10.00 น.เข้าไปดำเนินการหั่นศพ ช่วงเย็น 16.00 น. นำศพไปแยกทิ้งตามจุดต่างๆ โดยรถยนต์ที่ใช้มีทั้งหมด 3 คัน เป็นรถเช่ายี่ห้อนิสสัน โน้ต สีแดง ทะเบียน 8 กฒ 5680 กรุงเทพมหานคร รับไปทานอาหาร ส่วนรถนิสสัน อัลเมร่า สีขาว บรรทุกชิ้นส่วนไปทิ้งในวันที่ 28 เม.ย. และวันที่ 29 เม.ย.ขับวนเข้ามาดูอีกครั้ง ส่วนรถเก๋งเชฟโรเลต ออฟต้า สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนนำมาจอดไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ดำเนินการอะไร สำหรับคนขับรับว่ารับจ้างเป็นครั้งตามที่เรียกมามีหน้าที่ขับรถ ไม่มีส่วนในการดำเนินการ ตำรวจตรวจสอบประวัติพบว่า 1 ในผู้ต้องหามีหมายจับที่ประเทศญี่ปุ่น

...

ต่อมาตำรวจคุมตัวนายกฤษกรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวม 3 จุด ประกอบด้วย 1.จุดโกดังซอยโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จุดที่ 2.พบมือและถุงดำ และจุดที่ 3 ซอย ผู้ใหญ่เลี่ยม พบกะโหลก ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด

ล่าสุดเวลา 16.00 น. วันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สั่งการให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปขอหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ศาลออกหมายจับ 3 หมายดำเนินคดีนายกาโตะ ทาคูย่า และนายซูซูกิ ฮิโรโตะ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีผู้กระทำ กระทำการใดๆแก่ศพ ส่วนนายกฤษกร ใจพิทักษ์ หมายจับในข้อหา ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย และร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดี

ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบคอนโดแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 24 พบว่า นายซูซูกิ ฮิโรโตะ ขนของหลบหนีออกไปจากคอนโดแล้ว เร่งประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ที่มีด่านชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าเป็นช่องทางที่ผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน อาจจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีออกนอกประเทศ