สืบนครบาลร่วมกับ ศอ.ปส.ตร. นำกำลังบุกทลายแหล่งมั่วสุมยาเสพติดและมั่วเซ็กซ์ ก๊วนข้าราชการเกย์ รวบ “เจ๊เก่ง” หัวหน้าแก๊งระดับหัวจ่าย ข้าราชการครู รองผอ.โรงเรียนชื่อดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุนข้างกาย “เกย์ท็อป” อุปโลกน์ตัวเองเป็นหมอตำรวจอายุรกรรมโรคหัวใจ สร้างสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบชายรักชายกับบุคลากรทางการแพทย์ หลอกล่อให้ใช้เสพยาเสพติดจนตกเป็นเหยื่อสิ้นเนื้อประดาตัว ขยายผลพบมีข้าราชการมั่วสุมกับก๊วนเกย์เพียบ
เวลา 13.00 น. วันที่ 27 มี.ค. 67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด ศอ.ปส.ตร., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก., พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล จับกุมนายเศรษฐยศ หรือเจ๊เก่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังย่านปากเกร็ด อายุ 42 ปี อยู่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี และนายกฤตฌาน์พัฒน์ หรือท็อป อายุ 37 ปี อยู่ ซอยวัชรพล 1/3 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมาย หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.318/2564 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 64 ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและพยายามจำหน่าย และหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.189/2564 ลงวันที่ 12 ต.ค. 64 ข้อหา พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ-เมทแอมเฟตามีน)
สำหรับ นายกฤตฌาน์พัฒน์ มีประวัติถูกดำเนินคดียาเสพติด 4 คดี ปี 57 ถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติด (ยาไอซ์) เพื่อจำหน่าย พื้นที่ สน.สุทธิสาร ปี 60 ถูกดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พื้นที่ สน.สุทธิสาร ปี 62 ถูกดำเนินคดีข้อหา มียาเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง พื้นที่ สน.บางโพงพาง และปี 64 ถูกดำเนินคดีข้อหา “มียาเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
...
ผู้ต้องหาทั้ง 2 ถูกแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ของกลาง 10 รายการ ยาไอซ์ 100 กรัม (ลักษณะใส่ถุงเตรียมแบ่งขาย) เคตามีน 2 ถุง เงินสด 31,500 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม (พบเงินหมุนเวียน 1.3 ล้านบาทใน 3 เดือนที่ผ่านมา) ถุงยางอนามัย 200 ชิ้น เจลหล่อลื่นบรรจุซอง 100 ซอง ไวอากร้า 50 ซอง เข็มฉีดยาพร้อมสายยางรัด 100 เข็ม Eternal drive 6 อัน (บรรจุหนังลามกประเภทชายรักชายรวม 6 TB) อุปกรณ์การเสพยาเสพติดและเครื่องชั่งอีกหลายรายการ จับกุมตัวทั้ง 2 คน ได้ที่ห้องพัก คอนโดมิเนียมย่านรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
พฤติการณ์ คือ สืบนครบาล ร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) บุกทลายสถานที่มั่วสุมยาเสพติดและมั่วเซ็กซ์ของเหล่าข้าราชการ “ชายรักชาย” ย่านนนทบุรี โดยจับกุมหัวหน้าแก๊งเป็นถึงข้าราชการระดับรอง ผอ.โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด
โดยจุดเริ่มต้นมาจาก “เกย์ท็อป” ที่ได้ชื่อว่าผู้เขย่าวงการแพทย์สายวาย (LGTBQ+) แอบอ้างว่าเป็นแพทย์อายุรกรรมโรคหัวใจโรงพยาบาลดัง ก่อนจะสร้างสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบชายรักชายกับเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ แล้วหลอกล่อให้เสพยาเสพติด โดยรายล่าสุดถูกลวงให้เสพยาเสพติด โดยอ้างว่าเป็นยาบำรุง กระทั่งเหยื่อติดสารเสพติดงอมแงม ตกเป็นทาสแบบถอนตัวไม่ขึ้น ถูกหลอกให้ถ่ายคลิปลับ ถูกหลอกถลุงเงินไปหลายล้านบาทเพื่อแลกกับการได้เสพยา จนเหยื่อแทบสิ้นเนื้อประดาตัว จากการสืบสวนติดตามทราบว่าเกย์รายนี้คือ นายกฤตฌาน์พัฒน์ หรือท็อป เป็นบุคคลตามหมายจับ 2 หมายในคดีค้ายาเสพติด เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ส่งเจ้าหน้าที่แอบแฝงตัวเข้าวงการเก้งกวางจนพบเบาะแสว่า เกย์รายนี้เป็นลูกน้องของเอเย่นต์ตัวเป้งย่านปากเกร็ด และเอเย่นต์รายนี้ยังมีดีกรีเป็นถึงข้าราชการ โดยมักรวมพลเหล่าข้าราชการเกย์ในก๊วน มามั่วสุมปาร์ตี้ยาเสพติดกันอยู่ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งบนถนนรัตนาธิเบศร์ ต่อมาวันที่ 26 มี.ค. 67 พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังชุดสืบนครบาลบุกไปที่ห้องพักที่ใช้มั่วสุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่เคาะประตู คนในห้องพักไหวตัวทำลายพยานหลักฐานไปบางส่วน บุกเข้าไปพบ นายกฤตฌาน์พัฒน์ หรือเกย์ท็อป อยู่ภายในห้องกับหัวหน้าก๊วนคือ นายเศรษฐยศ หรือเจ๊เก่ง เป็นข้าราชการครูระดับ รอง ผอ. ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด
ผู้ต้องหาทั้ง 2 มีท่าทีบ่ายเบี่ยงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อตรวจค้นห้องพักพบยาเสพติดหลายรายการในลักษณะเตรียมแบ่งขาย สมุดบันทึกการซื้อขายยาเสพติดจำนวนมาก และยังพบยากระตุ้นอารมณ์ ถุงยาง เจลหล่อลื่น และหนังโป๊ชายรักชายจำนวนมาก เจ๊เก่งอ้างว่าอุปกรณ์ต่างๆ นั้นไว้ใช้สอนหนังสือในโรงเรียน แต่จากการขยายผลของชุดจับกุมพบว่าเจ๊เก่งเป็นถึงระดับหัวจ่ายที่คอยส่งยาเสพติดให้กับข้าราชการอีกหลายคน โดยพบเงินหมุนเวียนในห้วงเดือนที่ผ่านมาเป็นจำนวนกว่า 1,300,000 บาท จากการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายของทั้งสองพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ท้ายสุดทั้งสองยอมจำนนต่อหลักฐาน และรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในที่สุด
นายเศรษฐยศหรือเจ๊เก่ง ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันตน ประกอบอาชีพรับราชการครูตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด สอนวิชาการงานอาชีพให้แก่เด็กชั้นประถมศึกษา โดยเริ่มเสพยาตั้งแต่กลางปี 66 และเริ่มสั่งยาเสพติดมาจากทวิตเตอร์มาขายในช่วงต้นปี 67 นำมาขายให้วัยรุ่น และข้าราชการ ย่านรัตนาธิเบศร์ จนถึงปัจจุบันตนยังคงรับราชการครูอยู่พร้อมขายยาเสพติดไปด้วย และได้รู้จักกับเกย์ท็อป เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2566 โดยนายท็อปได้ไปๆ มาๆ ที่ห้องของตนอยู่บ่อยครั้ง ตนนำยามาขายให้กับนายท็อป และให้นำไปขายเรื่อยมา
ขณะที่นายกฤตฌาน์พัฒน์ให้การรับสารภาพว่า เกิดและโตที่กทม.เข้าเรียนชั้นอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อจบการศึกษาได้ออกมาประกอบอาชีพออร์แกไนซ์จัดงานเป็นระยะเวลา 1 ปี จึงได้เรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวันจนจบปริญญาโท ประกอบอาชีพอยู่ที่บริษัทประกัน จากนั้นตนเริ่มใช้ยาเสพติด เกี่ยวข้องกับยาเสพติดต่อเนื่องมาจนชีวิตเริ่มดำดิ่ง กระทั่งถูกดำเนินคดีขณะเสพยาอยู่กับกลุ่มเพื่อนในปี 57 ติดคุก 1 ปี 3 เดือน หลังจากออกมาจากเรือนจำในปี 58 ตนพยายามหางานเพราะไม่ต้องการเป็นภาระของทางบ้านแต่ไม่สามารถหางานได้เนื่องจากตนเคยติดคุกมา เมื่อไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ จึงได้หวนกลับมาในเส้นทางเดิมโดยการเริ่มขายยาเสพติด จนคบหาดูใจกับแฟนหนุ่มซึ่งประกอบอาชีพแพทย์มา 2 คน และได้เลิกรากัน ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปหลอกลวงเหล่าแพทย์ชาย แต่เพราะพวกหมอเหล่านั้นติดยาเสพติดที่ตนเอาไปให้เอง และต่อมาได้มารู้จักกับครูเก่ง และมารับยาจากครูเก่งไปขายเป็นประจำ โดยขายให้กับกลุ่มเพื่อน จนในที่สุดถูกออกหมายจับ และถูกจับกุมตัวส่งศาลแต่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ตนจึงได้หลบหนีในขณะที่ศาลให้ประกันตัวเป็นระยะเวลา 2 ปี จนมาถูกจับในวันนี้
...
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ทางสังคม มีความรู้ และยังมีการสร้างเครือข่ายโดยการใช้ความเชื่อมโยงทางจิตใจเพราะเป็นกลุ่มที่มีรสนิยมเดียวกัน และส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่ และที่น่ากลัวที่สุดคือระดับหัวหน้าขบวนการเป็นครูที่ต้องเป็นแม่พิมพ์ให้กับเหล่าอนาคตของชาติ และยังมีตำแหน่งระดับสูงในโรงเรียน ถือเป็นภัยต่อเยาวชนที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนอย่างยิ่ง เราจะขยายผลให้ถึงที่สุด ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแส โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
ก่อนนำผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป