พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร คุมหมอศัลยกรรมหนุ่มไปฝากขังศาล หลังทำพริตตี้สาวที่ไปผ่าตา 2 ชั้น และตัดโหนกแก้มกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ปัจจุบันนอนนิ่งมา 5 ปี พี่ชายเผยถึงขณะนี้ครอบครัวต้องแบกหนี้ค่ารักษาประมาณ 10 ล้านบาท โดยไม่ได้รับการเยียวยา ขณะที่หมอได้ประกันตัวไปในวงเงิน 5 หมื่นบาท
ฝากขังหมอศัลยกรรมหนุ่มทำพริตตี้สาวเป็นเจ้าหญิงนิทราถึงตอนนี้ 5 ปีแล้ว เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ควบคุม นพ.ชาตรี พรหมโชติ หรือ นพ.ธัญปพัศ ปุญญพัฒน์วรโชติ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 130/2567 ลงวันที่ 8 มี.ค.67 ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเป็นอันตรายสาหัส ไปผัดฟ้องฝากขังตั้งแต่วันที่ 13-24 มี.ค.67 พร้อมคัดค้านการประกัน หลังจับกุมได้ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย ส่งตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เมื่อคืนวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ มีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง นายอภิภู หิรัณยณิช อายุ 31 ปี พี่ชาย น.ส.ชาญาฎา หรือน้องนิ้ง หิรัณยณิช พร้อมทนายความมาสังเกตการณ์ผู้ต้องหาขณะออกจากห้องขังเดินมาที่รถควบคุมผู้ต้องหา รวมทั้งทนายของฝ่ายผู้ต้องหา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามประเด็นต่างๆกับผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมตอบคำถามใดๆ
ต่อมาได้มีการโต้เถียงกันระหว่างนายอภิภู พี่ชายผู้เสียหาย กับนายนคร สะอาด ทนายความของผู้ต้องหา โดยนายนครยืนยันว่าที่ผ่านมา นพ.ชาตรี ได้เยียวยาชดใช้ไปเรียบร้อยเกินวงเงินที่ศาลสั่งไปกว่าหนึ่งเท่าตัว ส่วนทรัพย์สินนั้นอยู่ที่กรมบังคับคดี ต้องรอให้กรมบังคับคดีจ่ายให้กับผู้เสียหายเอง ส่วนด้านคดีความจะต้องต่อสู้กันต่อไป ยืนยันว่าที่ผ่านมาลูกความของตนรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดมาโดยตลอด
...
ขณะที่นายอภิภู พี่ชายน้องนิ้งโต้แย้งว่า เรื่องนี้ควรมีวิธีที่รับผิดชอบน้องสาวตนที่ดีกว่านี้ เพราะมีการสู้คดีมาอย่างยาวนาน แพทยสภาตัดสินแล้วว่าคลินิกมีความผิด เรื่องการบังคับคดีหรือการยึดทรัพย์เป็นเรื่องกฎหมายแต่การเยียวยาที่แท้จริงยังไม่เกิดขึ้น เพราะครอบครัวผู้เสียหายต้องเสียค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แล้วรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมที่จะต้องไปรับค่าเสียหายเองจากกรมบังคับคดี รู้สึกว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปเหนื่อยในการที่จะมาตามเรื่อง พร้อมกับฝากเป็นอุทาหรณ์ในการศัลยกรรมให้เลือกสถานที่และเช็กข้อมูลแพทย์ให้ละเอียด ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลในเรื่องการศัลยกรรม วันนี้ได้นำคำสั่งแพทยสภามายื่นตามที่แพทยสภาได้วินิจฉัยแล้วว่าหมอเป็นผู้กระทำความผิดจริง มีความผิดพลาดในการทำศัลยกรรมให้คนไข้
ขณะเดียวกัน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง เสนอว่า หลังจากนี้จะเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยหาข้อยุติโดยจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าหน่วยงานของแพทยสภา ส่วนเรื่องคดีความต้องต่อสู้กันไปแต่เรื่องการเยียวยานั้นยังอยากให้ฝั่งหมอและคลินิกแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.พ.67นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลังพา นายอภิภู หิรัณยณิช อายุ 31 ปี พี่ชาย น.ส.ชาญาฎา หรือน้องนิ้ง หิรัณยณิช อายุ 27 ปี พริตตี้สาว ผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.สุทธิสาร หลังแจ้งความไว้เมื่อปี 62 ว่าน้องสาวถูก นพ.ชาตรี พรหมโชติ แพทย์คลินิกศัลยกรรมเเห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง รักษาผิดพลาดไปทำศัลยกรรมทำตา 2 ชั้น ตัดโหนกแก้ม หลังผ่าตัดแล้วเกิดอาการช็อก คาดให้ยาสลบเกินขนาดส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ทำให้น้องสาวเป็นเจ้าหญิงนิทรานอนโรงพยาบาลเกือบ 5 ปี ปัจจุบันยังไม่ได้รับการเยียวยา ครอบครัวต้องแบกหนี้ค่ารักษาประมาณ 10 ล้านบาท เคยไปฟ้องแพ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คลินิกเยียวยา 37 ล้านบาท หลังจากนั้นมีการยื่นอุทธรณ์ทั้ง 2 ฝ่าย ศาลตัดสินให้คลินิกเยียวยา 29 ล้านบาท แต่คลินิกไม่ยอมจ่ายทำให้ตอนนี้โรงพยาบาลที่น้องสาวรักษาตัวอยู่ ฟ้องเรียกค่ารักษากว่า 30 ล้านบาท เพราะครอบครัวไม่มีเงินจ่าย ครอบครัวลำบากมาก หลังเกิดเรื่องคลินิกเปลี่ยนชื่อคลินิกใหม่ และเปลี่ยนชื่อหมอจากนพ.ชาตรีเป็น นพ.ธัญปพัศ ปุตฺตฺพัฒน์วรโชติ แต่รักษาความงามเหมือนเดิม
ล่าสุดมีรายงานว่า ภายหลังญาติ นพ.ชาตรี ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอนุมัติตามคำร้องวงเงิน 5 หมื่นบาท
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่