พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เผยผัวโหดฆ่าเผา "น้องนุ่น" เบื้องต้นโดนแจ้ง 2 ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ
จากคดีที่นายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 48/2 ถนนราชวงศ์ ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี แจ้งตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่า น.ส.ชลลดา หรือนุ่น มุธุวงศ์ อายุ 27 ปี ภรรยาหายตัวไป ภายหลังช่วงเย็นวันที่ 17 ก.พ.พาภรรยาและลูกสาววัย 1 ขวบไปกินเลี้ยงวันเกิดเพื่อนที่ร้าน Waterside ถนนประดิษฐ์มนูธรรมเลียบด่วนรามอินทรา กระทั่งร้านปิดเวลา 01.00 น. วันที่ 18 ก.พ. นายศิริชัยขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว กลับบ้านพร้อมกับ น.ส.ชลลดา ระหว่างทางเกิดทะเลาะกัน ภรรยาลงจากรถที่บริเวณถนนเลียบคลองประปา บริเวณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อ.เมืองนนทบุรี วิ่งหนีแล้วติดต่อไม่ได้เกรงจะเกิดอันตราย
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายศิริชัย มาสอบสวนที่ สภ.ปากเกร็ด หลังพบพิรุธหลายประเด็นไม่ตรงกับคำให้การ การสอบสวนเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ก่อนนายศิริชัย ยอมรับสารภาพเป็นคงลงมือฆ่าภรรยา จากนั้นนำศพขึ้นรถไปทิ้งที่ จ.ปราจีนบุรี
ล่าสุดพบศพหญิงถูกเผาไหม้เกรียมอำพรางคดีในป่าละเมาะ บ้านมาบเฉียง หมู่ 10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบเลสทองข้อมืออยู่ในกองเถ้าถ่านถูกเผาไปบางส่วน คล้ายกับเลสทองข้อมือที่ น.ส.ชลลดาใส่ไปงานเลี้ยง ขณะนี้ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.ปราจีนบุรี มาร่วมตรวจสอบ พร้อมกับประสานตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เพื่อประสานข้อมูล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เผยว่า จากที่แพทย์บอก และที่ยืนยันได้ชัดเจน คือ มีเลสที่เป็นชิ้นเดียวกับในภาพน้องนุ่นและก็ตรงกับคำสารภาพของผู้ต้องหาคือสามีผู้ตาย สภาพร่องรอยการเผาคือนำศพใส่กระเป๋าเดินทาง แล้วเผาตรงจุดนี้ เป็นการนำศพใส่กระเป๋าแล้วเผา ที่มาพบตรงจุดนี้ในเวลา 18.30 น. จากผู้สื่อข่าวซึ่งได้ตาม GPS ของโทรศัพท์และโทรแจ้ง 191 ก่อนแจ้ง สภ.ระเบาะไผ่ พนักงานสอบสวนจึงมาพิสูจน์ทราบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์ว่าเป็นศพน้องนุ่นหรือไม่ หลักฐานที่พบมีเลส แหวนทอง โทรศัพท์ที่นักข่าวใช้ติดตามระบบ GPS ส่วนการฆ่า ทราบว่ามีการใช้ก้อนหินทุบหัว และที่เขาสารภาพเพราะทาง สภ.ระเบาะไผ่ แจ้งไปทางปากเกร็ดว่าเราเจอศพแล้ว
...
ด้าน พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยว่า นายศิริชัย ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ทำร้ายร่างกาย น.ส.ชลลดา ภรรยาสาวจนเสียชีวิต ว่า อีกทั้งรับสารภาพหมดแล้วว่าได้ทำขั้นตอนไหนบ้าง เชื่อว่าเป็นคำรับสารภาพที่สมเหตุสมผลและเชื่อว่ามีเจตนาฆ่าอย่างแน่นอน เบื้องต้นเหตุที่ทะเลาะกันมาจากการดื่มสุราและเมา และอาจจะมีการพูดถึงแฟนเก่าของสามี จนเกิดการทะเลาะกันระหว่างเดินทางกลับ จนกลายเป็นเหตุให้มีการทำร้ายร่างกายกันระหว่างเดินทางกลับบ้าน ตอนนั้นผู้หญิงยังไม่เสียชีวิต แต่มีทำร้ายร่างกายกันอีกครั้งในบ้านพัก โดยใช้ก้อนหินไปทุบที่ศีรษะฝ่ายหญิง (ตรงจุดเกิดเหตุริมถนนแจ้งวัฒนะผู้หญิงยังไม่เสียชีวิต) ขณะไปถึงบ้านมีเหตุทำร้ายร่างกายกันอีกครั้ง ซึ่งฝ่ายผู้เสียชีวิตอาจจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทะเลาะด้วยเพราะว่าโดนทำร้ายร่างกายสะบักสะบอมมาหนักแล้วในระหว่างทาง ประกอบกับความโมโหและมึนเมาสุรา จนทำให้เกิดเหตุสลด
พล.ต.ต.ปรารถนา กล่าวอีกว่า วันที่นายศิริชัยมาแจ้งความเมื่อตอนนั้นได้เผาศพไปแล้วตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 18 ก.พ.
ส่วนศพที่พบยืนยันว่าเป็น น.ส.ชลลดา หรือ นุ่น ภรรยาผู้ก่อเหตุ เนื่องจากพบเลสข้อมือเป็นหลักฐานที่ทำให้ยืนยันได้ว่าเป็น น.ส.ชลลดา ซึ่งอยู่ระหว่างประสานกับตำรวจในพื้นที่ปราจีนบุรี ในการชันสูตรพลิกศพยืนยันตัวตนให้แน่ชัด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ” ก่อนควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป