"เพชรบุรี" ตำรวจร่วมกันแถลงข่าว จับมือยิง "สาโรจน์ บางเค็ม" เซียนวัวชื่อดังได้แล้ว 1 คน เร่งสืบสวนล่าตัวที่เหลือ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบก่อเหตุโชกโชนใน 3 พื้นที่ 2 จังหวัด
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 67 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม, ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และ สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธนพร หรือนงค์ ผิวเกลี้ยง อายุ 65 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ จ.26/2567 ลงวันที่ 15 ม.ค. 2567 ในความผิดฐาน "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" โดยจับกุมตัวได้
พฤติการณ์การก่อเหตุ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านลาด รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณลานวัวหลังวัดเวียงคอย ม.3 ต.ลาดโพธิ์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพ นายเรืองโรจน์ นุชศิลป์ หรือ "สาโรจน์ บางเค็ม" อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ถนนคีรีรัฐยา ต.คลองกระแชง จ.เพชรบุรี ผู้กว้างขวางในวงการวัวลานเมืองเพชร ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ประกบยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา ท้ายทอย และแขนซ้าย 3 แห่ง นอนเสียชีวิตบริเวณท้ายรถบรรทุกหกล้อ ทะเบียนนครปฐม ของ นายสมนึก สังข์แก้ว อายุ 65 ปี เจ้าของวัวลานจากนครปฐม ที่เห็นเหตุการณ์ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายนัท ห้วงแสง ส่วนคนร้ายหลบหนีไปหลังก่อเหตุ จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จึงทราบว่าคนร้ายเป็นใคร จึงขออนุมัติหมายจับ 2 ราย ตามจับกุมตัวได้แล้ว 1 ราย คือ นายธนพร ผิวเกลี้ยง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วนผู้ต้องหารายอื่นนั้น ทางตำรวจจะเร่งสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมตัวต่อไป
...
สำหรับ นายธนพร ผิวเกลี้ยง ผู้ต้องหา มีประวัติอาชญากรรมโชกโชน ดังนี้ พื้นที่ สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เลขคดี:534/2555 ข้อหา "รับของโจร", เลขคดี: 554/2555 ข้อหา "ฆ่าผู้อื่น", และเลขคดี:25/2563 ข้อหา "ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ" พื้นที่ สภ.ทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี เลขคดี:300/2565 ข้อหา "มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน)" และพื้นที่ สภ.บางหลวง จ.นครปฐม เลขคดี:157/2566 ข้อหา "ตัวการในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 หรือเสพวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 เว้นแต่การเสพยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เพื่อการรักษาโรคตามคำสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม หรือการเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดตามมาตรา 58"