เหยื่อโผล่อีก 5 ราย พ่อแม่พาลูกๆ เด็กชายอีก 5 คน ร้อง "มูลนิธิปวีณา" พาเข้าแจ้งความตำรวจ ปคม. เอาผิดโค้ชฟุตบอล และอดีตทหารยศพันตรี เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. 66 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี ผู้ปกครอง 5 ครอบครัว เดินทางจาก จ.อุดรธานี พาลูกชายอีก 5 คน มีอายุระหว่าง 10-13 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ว่าลูกชายทั้ง 5 คน ถูกโค้ชฟุตบอล อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเกษตรอำเภอ ข้าราชการซี 7 และอดีตนายทหารยศพันตรี อายุ 64 ปี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ที่ถูกตำรวจ ปคม.จับกุมดำเนินคดีฐานร่วมข่มขืนกระทำชำเราเด็ก และข้อหาอื่นๆ รวม 6 ข้อหา เพื่อขอให้ นางปวีณา พาเข้าแจ้งความกับตำรวจ ปคม. ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางปวีณา ได้ช่วยเหลือเด็กชาย 2 คน อายุ 10 ขวบเท่ากัน ที่ถูกโค้ช และผู้สนับสนุนทีมข่มขืนกระทำชำเรา และประสานตำรวจ ปคม. จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 2 คนมาดำเนินคดีได้
นางแหม่ม (นามสมมติ) แม่ของเด็กชายเอ อายุ 13 ปี 1 ใน 5 เหยื่อที่เข้าร้องทุกข์ กล่าวว่า หลังรู้ข่าวมีเด็กๆ ในทีมฟุตบอลถูกโค้ช และผู้สนันสนุน ข่มขืนกระทำชำเรา จึงได้สอบถามลูก และทราบว่าลูกถูกกระทำตั้งแต่ ป.5 เมื่อปี 64 และถูกกระทำเรื่อยมาร่วม 3 ปี แม้จะย้ายไปเรียนชั้น ม.1 ที่โรงเรียนอื่นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในทีมฟุตบอล และไปอยู่บ้านครูเป็นประจำ ขณะที่เพื่อนๆ ร่วมทีมอีก 4 คนที่เดินทางมาด้วยกันวันนี้ก็ถูกกระทำร่วมกัน ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยรู้ว่าลูกต้องทุกข์ทรมานมาก่อน แต่ด้วยความที่เขารักการเตะฟุตบอลจึงไม่กล้าบอกใคร เพราะถูกข่มขู่ไว้ว่าจะไล่ออกจากทีม “ทีแรกแม่ๆ ทั้ง 5 คนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะเกรงกลัวอิทธิพล ไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากรู้ว่าโค้ช และผู้สนันสนุนทีมรู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ แต่เมื่อเห็น นางปวีณา และตำรวจ ปคม. ช่วยเหลือจับกุมทั้ง 2 คนแล้ว จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ”
...
ยายของเด็กชาย 10 ขวบ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตอนนี้ทางผู้ปกครองทุกคนไม่สบายใจ เพราะโค้ชฟุตบอลได้รับการประกันตัวออกมาอยู่ที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน วันแรกที่โค้ชออกมาก็ส่งข้อความมาหาน้าของเด็กบอกว่า “อยากให้ทุกคนและเด็กๆ ไปร่วมงานผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อรับขวัญโค้ชที่บ้าน ข่าวที่ออกไปไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด คิดถึงทุกคน รักทุกคนเสมอ” แต่ยายก็ไม่ได้ไปร่วมงาน และไม่เชื่อที่โค้ชพูด เพราะสิ่งที่รู้ว่าหลานถูกกระทำมากกว่าที่เป็นข่าวเสียอีก
คุณแม่เด็กชาย 10 ขวบ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า มารู้เรื่องเพราะลูกผูกเฟซบุ๊กกับแม่ แม่มาเจอคลิปที่ลูกส่งให้กับโค้ช และผู้สนันสนุนในแมสเซส เพราะผู้สนันสนุนบังคับให้ลูกถ่ายคลิปขณะสำเร็จความใคร่ตัวเองส่งไปให้ดูหลายครั้ง และผู้สนันสนุนก็โอนเงินให้ลูกครั้งละ 20-30 บาท นอกจากนี้ลูกยังถูกข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับเด็กคนอื่นๆ และบังคับให้เด็กๆ กลืนน้ำอสุจิอีกด้วย อ้างว่าเด็กๆ จะได้แข็งแรง และตัวสูง โดยถูกกระทำมาตลอด 2 ปี
นางปวีณา กล่าวว่า หลังรับเรื่องได้ประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตัณคณารัตน์ - พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. เพื่อเตรียมพาทั้ง 5 ครอบครัวเข้าแจ้งความเพิ่มเติม และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือ และป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน
ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตำรวจ ปคม. ได้จับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย นางปวีณา ได้พาพ่อแม่เด็กไปติดต่อขอรับเงินเยียวยา โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มอบหมายให้ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทน พร้อมด้วย นายสุรไกร นวลศิริ หัวหน้าสำนักงาน รมว.ยุติธรรม นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลย นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการร่วม รับเรื่องและประชุมร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือผู้เสียหายทางคดี
โดยทางกระทรวงยุติธรรมได้เล็งเห็นความทุกข์ร้อนของผู้เสียหายทุกคน และเร่งนำเรื่องเข้าที่ประชุมพิจารณาเงินช่วยเหลือเยียวยาให้อย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยใช้เวลา 5 วัน วันนี้ นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลย รายงานมาว่า ทางกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม อนุมัติเงินเยียวยาให้กับ 2 เด็กชาย 10 ขวบแล้ว คนละ 5 หมื่นบาท ในส่วนเด็กชายอีก 5 คนที่เดินทางมาวันนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะให้การช่วยเหลือเด็กและครอบครัวดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด และจะประสานให้ได้รับเงินเยียวยาผู้เสียหายด้วยเช่นกัน.