วัยรุ่นสายเขียวควงปืนบุกร้านกัญชา รุมทำร้ายน้องชายเจ้าของร้าน ถูกพี่เขยยกพวกตามเอาคืน เจ็บ 3 สลบ 1 สอบสวนทั้ง 2 ฝ่ายอ้างต่างฝ่ายต่างมีปืน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 31 ต.ค. 66 ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ชาวดอน รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณสวนสาธารณะหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย ทราบชื่อคือ นายสุรสิทธิ์ มโนคล้าย อายุ 20 ปี สภาพศีรษะแตก มีบาดแผลที่ใบหู และมีรอยบอบช้ำตามร่างกาย ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือ นายวรเมธ รักษ์มณี อายุ 19 ปี มีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวไปรักษา ที่ รพ.สมุทรปราการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า กลุ่มที่ก่อเหตุไปรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากจุดพบผู้บาดเจ็บประมาณ 150 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก ก่อนที่จะนำตัว นายวรวุฒิ สะอาดสี อายุ 30 ปี และพวกอีก 3 คน ไปสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
จากการสอบถาม น.ส.อมิตตรา ล่ามกิจจา อายุ 28 ปี เจ้าของร้านขายกัญชา กล่าวว่า กลุ่มผู้บาดเจ็บเคยเข้ามาซื้อกัญชาที่ร้าน แต่ละครั้งก็จะทำทีว่าให้เพื่อนโอนเงินค่ากัญชาไปให้คนนู้นคนนี้แล้ว แต่เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบสลิปการโอน น้องชายตนซึ่งมีหน้าที่เฝ้าร้านจึงไม่ขายให้ ต่อมาเมื่อคืนวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็กลับมาและยังทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก คือ จะเอากัญชาแต่จะโอนเงิน แต่น้องตนไม่ยอมขายให้ จนทำให้กลุ่มผู้บาดเจ็บไม่พอใจ กระทั่งเช้าวันก่อเหตุกลุ่มผู้บาดเจ็บซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมา เดินเข้ามาที่ร้านเพื่อเคลียร์ปัญหา และคิดว่าเรื่องน่าจะจบแล้ว ก่อนที่ทั้ง 3 คน จะเดินกลับไป
...
น.ส.อมิตตรา กล่าวอีกว่า จนเวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ไปตามพวกย้อนกลับมาที่ร้านอีก พร้อมปืนและมีด ก่อนจะบุกเข้าไปทำร้ายน้องชายและเพื่อนน้องชายในร้าน ต่อมาหลังเกิดเหตุ ตนจึงรีบโทรบอก นายวรวุฒิ แฟนหนุ่ม ว่าน้องถูกทำร้าย จน นายวรวุฒิ เดินทางมาถึง จึงได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น จึงพาพวกไล่ตามไปในหมู่บ้าน ก่อนที่ นายวรวุฒิ จะเดินทางกลับมาที่ร้าน
ด้าน นายวรวุฒิ กล่าวว่า ขณะที่ตนเองทำงานอยู่ แฟนสาวโทรมาบอกว่า มีวัยรุ่นเข้ามาทำร้ายน้องชายที่ร้าน ตนจึงรีบเดินทางมา กระทั่งมาถึงที่ร้านพบ นายป้าง หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งยังไม่เดินทางกลับ ตนจึงเข้าไปสอบถามว่าใครเป็นคนทำ จนทราบว่ากลุ่มที่มาทำร้ายน้องชายแฟน เป็นเด็กในหมู่บ้าน ตนจึงพาพวกรวม 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปจนไปพบทั้ง 3 คน นั่งดื่มน้ำกระท่อม ที่บริเวณสวนสาธารณะ ด้วยความโมโหประกอบกับเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามซึ่งคือ นายสุรสิทธิ์ พกปืนอยู่ ตนและพวกจึงเข้าไปชกต่อยและใช้ท่อนไม้ รวมถึงหมวกกันน็อกทุบตีทั้ง 3 คน จนได้รับบาดเจ็บ และแย่งปืนมาได้ จากนั้นจึงนำปืนของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกลับมาที่ร้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ น.ส.ณัฐนารี ทองนพรัตน์ อายุ 20 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเล่นเกมอยู่ในบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงเดินออกมาดู ก็เห็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ กำลังใช้หมวกกันน็อกฟาดผู้บาดเจ็บจนสลบ ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 3 คน สลบ 1 คน โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่จักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คัน รวม 6 คน ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่กัน 3 คน ตนได้ยินฝั่งผู้ก่อเหตุบอกว่า พวกคนเจ็บเข้าไปรุมทำร้ายพวกเขาก่อน แล้วก็มีอาวุธด้วย จึงตามมาทำร้าย
ด้าน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังสอบปากคำ ทราบว่า ประเด็นมาจากการพูดจากระทบกระทั่งกันของทั้ง 2 ฝ่าย กระทั่งฝ่ายผู้บาดเจ็บได้นำปืนมายิงข่มขู่และนำพวกมาทำร้ายคู่กรณีในร้านกัญชา ต่อมากลุ่มของ นายวรวุฒิ ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน จึงไล่ติดตามไปเอาคืนและมีการลงไม้ลงมือกัน จนมีผู้บาดเจ็บ ส่วนปืนที่ นายสุรสิทธิ์ มโนคล้าย พกมานั้น ทราบว่า นายสุรสิทธิ์ ขโมยของพ่อมา ก่อนที่จะนำมาก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายยังอ้างว่าต่างคนต่างมีปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบพยานแวดล้อม เพื่อรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหากับทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป