ตำรวจ บก.ทล.-สภ.เมืองสมุทรสงคราม จับ 2 โชเฟอร์รถพ่วงอันธพาลแพ้เสียงแตรขับปาด-ตบรถเล็ก เสียหลักพุ่งลงข้างทาง บน ถ.พระราม 2

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 66 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมบรูณาการกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม นำตัว นายอภิเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี และ นายประวีณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา "ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น"

สิบเนื่องจากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่งโพสต์ภาพคลิปกล้องหน้ารถ ขณะที่กำลังขับรถอยู่บนถนนเส้นพระราม 2 ก่อนจะมีรถบรรทุกพ่วง จำนวน 2 คัน พยายามขับปาดหน้ารถยนต์ผู้เสียหายตลอดเวลา ในลักษณะตบให้รถยนต์ของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นรถเล็กเสียหลักจนต้องหักหลบลงข้างทาง เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 12.40 น. บนถนนพระราม 2 ช่วงขาออกกรุงเทพฯ เขตพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. (ตำรวจทางหลวงนครปฐม) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อให้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 รายที่ก่อเหตุดังกล่าว

กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันนี้ (30 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐมได้สืบทราบหมายเลขทะเบียนรถบรรทุกพ่วงที่ก่อเหตุทั้ง 2 คัน ทราบว่าเป็นรถบรรทุกของผู้ประกอบการรายหนึ่งในพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.สมุทรสงคราม จึงประสานเข้าไปตรวจสอบเพื่อขอข้อมูลของผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงที่ก่อเหตุทั้ง 2 คัน พบว่าในวันและเวลาที่เกิดเหตุมี นายประวีณ และ นายอภิเดช เป็นคนขับ จึงเชิญตัวทั้ง 2 เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินคดีในข้อหา "ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น"

...

จากการสอบถามคนขับรถบรรทุกทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนขับรถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คันจริง โดย นายอภิเดช ระบุว่า ได้ขับรถบรรทุกพ่วงคันที่หนึ่งมาตามถนนพระราม 2 ช่วงขาออกกรุงเทพฯ จนเมื่อมาเจอกับรถยนต์ของผู้เสียหาย ถูกรถยนต์ผู้เสียหายพยายามจะขับแซงขึ้นมาทางด้านซ้าย แต่แซงไม่พ้น ก่อนที่ผู้เสียหายจะบีบแตรใส่ จึงเกิดความโมโหที่ถูกบีบแตรใส่ จึงขับรถพ่วงในลักษณะปาดหน้ารถยนต์ผู้เสียหายไปมา จนรถยนต์ผู้เสียหายหักหลบพุ่งลงข้างทาง ต่อมารถยนต์ของผู้เสียหายได้ขับตามมาทันอีกครั้ง จึงโทร.หา นายประวีณ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่ขับรถพ่วงติดตามกันมา ให้มาช่วยกันขับปาดหน้ารถผู้เสียหายอีกครั้ง จนรถผู้เสียหายเสียหลักหักหลบลงข้างทาง

ทั้งนี้ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 (8) ประกอบมาตรา 158/1 ผู้ใดขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต หรือร่างกายของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.