"บิ๊กแมน" รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผยคืบหน้าคดี "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ระบุราชทัณฑ์สั่งย้าย 2 ผู้คุมออกนอกพื้นที่แล้ว แฉ "เสี่ยแป้ง" สับขาหลอกตำรวจ วางแผนลวงซับซ้อนลึกซึ้ง ใช้รถ 3 คัน เคลื่อนไหวในพื้นที่ สตูล-พัทลุง คาดยังไม่หนีออกนอกประเทศ

จากกรณี นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ที่หลบหนีออกจากการควบคุมตัวใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยปลดพันธนาการที่เจ้าหน้าที่ใส่ไว้ ล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนกองปราบปรามเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อช่วงบ่ายประมาณ 14.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2566 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง (ภ.จว.พัทลุง) พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ชุดสืบสวน ภ.8, ภ.9 ตำรวจกองปราบ 6 และชุดสืบสวนของ ภ.จว.พัทลุง/ภ.จว.นครศรีธรรมราช รวมทั้งหัวหน้าโรงพักในพื้นที่ จ.พัทลุง เข้าร่วมประชุมประมาณกว่า 60 นาย ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมกลุ่มใหญ่แล้ว ทางด้าน พล.ต.ท.อิทธิพล ได้เชิญนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมประชุมย่อย เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุมย่อยในห้องประชุมเล็ก ทางด้าน พล.ต.ท.อิทธิพล เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชุดทำงานได้รับการสั่งการจาก ผบ.ตร. และชุดสืบสวนให้ลงมาแบ่งหน้าที่เร่งรัดติดตามจับกุมในคดี ก่อนหน้านี้กับท่านผู้การสืบภาค 8 ก็ได้เดินทางไปพื้นที่นครศรีธรรมราช เพื่อแบ่งหน้าที่ทำงานในพื้นที่นครศรีธรรมราชไปแล้ว ที่เป็นพื้นที่ที่ผู้ต้องหาหลบหนี ส่วนที่พัทลุง ก็คือบ้านของผู้ต้องหา ก็ได้แบ่งหน้าที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว 

...

ส่วนพื้นที่หลบหนีของผู้ต้องหานั้น ก็ได้มีการตรวจสอบตามที่สื่อมวลชนรายงาน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ ทีมงานกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนที่ออกข่าวไปทุกจุดก็ได้มีการพิสูจน์ทราบทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาจะยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่นั้น สตูลก็มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ต้องมีการตรวจสอบ แต่จังหวัดสตูลมีทางเข้าออกแค่สองทาง ขณะนี้ทางผู้การจังหวัดสตูล ก็ได้มีการเข้มงวดในพื้นที่แล้ว 

เมื่อผู้สื่อข่ามถามถึงคนร้ายมีอาวุธร้ายแรงอยู่ในความครอบครองนั้น  ทางด้าน พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า จากประวัติของผู้ต้องหา ที่ติดคุก 20 กว่าปี ในคดีชิงตัวผู้ต้องหา ซึ่งเขาก็ใช้อาวุธร้ายแรง ทางผู้การพัทลุงก็ให้ข้อมูลมาว่า ชุดนี้ถ้ามีการจับกุม เขาคงจะมีการต่อสู้ ทางทีมผู้การสืบภาค 8 ก็เตรียมชุดไว้ เราไม่ประมาทในการทำงาน และทราบว่ากรมราชทัณฑ์ตั้งรางวัล 1 แสนบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส แจ้งมาทางผู้การ หรือทางเจ้าหน้าที่ 191 ในพื้นที่พัทลุง ก็ได้ ซึ่งทางราชทัณฑ์ก็พร้อมสนับสนุนและยังคงไล่ติดตาม และในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) รมว.ยุติธรรม จะลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ส่วนทางราชทัณฑ์ก็ตั้งกรรมการ เบื้องต้นย้ายเจ้าหน้าที่ 2 คนนั้นออกนอกพื้นที่ไปแล้ว  

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวอีกว่า ส่วนที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้เมื่อวานนี้ ก็ให้การเป็นประโยชน์ แต่ยังคงตกใจอยู่ และคำให้การก็เหมือนกับที่ทางผู้สื่อข่าวทราบ สำหรับรถทุกคันในกล้อง ยังคงต้องพิสูจน์ทราบให้แน่ชัด ยังไม่ทราบว่าใช่ซีวิคสีดำหรือไม่ ส่วนรถกระบะค่อนข้างแน่นอน แต่ขอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนข่าวการล้างแค้นคนที่ทำให้ติดคุกนั้น ทางตำรวจยังไม่มีข้อมูล

แหล่งข่าวรายหนึ่ง เผยว่า กระแสข่าวการตรวจสอบที่พบว่ารถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ของคนร้ายที่พบในพื้นที่ อ.มะนัง จ.สตูล นั้น น่าจะเป็นแผนลวงที่ซับซ้อนและลึกซึ้งของนายเชาวลิต ซึ่งล่าสุดทางตำรวจได้พบการเคลื่อนไหวของรถยนต์เก๋งซีวิค สีดำ และรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สี่ประตู สีขาว ในพื้นที่ อ.กงหรา และ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งตำรวจชุดไล่ล่า กำลังขยายผลการตรวจค้นและการพิสูจน์ทราบเพิ่มเติม และมั่นใจว่ากลุ่มผู้ต้องหายังอยู่ในประเทศไทย และคาดว่ายังไม่หลบหนีออกนอกประเทศแต่อย่างใด 

ส่วนเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มคนร้ายนั้นได้สับขาหลอกของการใช้ยานพาหนะจำนวนหลายจุด เพื่อให้ตำรวจเกิดความสับสน