เด็กชายวัย 14 หลอน แต่งชุดพร้อมรบ ใช้ปืนกล็อก 9 มม. กราดยิงในห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน หลังสิ้นเสียงปืนนักช็อปต่างหนีตายแตกกระเจิง ตำรวจเร่งปิดล้อมห้างระดมกำลังตำรวจมือดีเข้าระงับเหตุ ก่อนมือยิงจนมุมที่ชั้น 3 ของโรงแรมดังใกล้ห้าง หลังเกิดเหตุชั่วโมงเศษ “ชาดา” รมช.มหาดไทย-ผบ.ตร.รุดสอบด้วยตัวเอง พบผู้ก่อเหตุมีอาการหวาดระแวงอ้างมีคนสั่งให้ทำ ศปก.ตร.สรุปยอดตาย 2 เจ็บ 5 เหยื่อกระสุนเป็น นทท.จีนและสาวพม่า ขณะที่ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ โพสต์แสดงความเสียใจ พร้อมยืนยันไปเปิดงานตามหมายเดิม

สุดระทึกขวัญ คนร้ายแต่งกายรัดกุมพกปืนเข้ามาในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านธุรกิจการค้าใจกลางกรุง ก่อนสาดกระสุนใส่ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในห้าง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ก่อนตำรวจ สน.ปทุมวันและหน่วยงานเกี่ยวข้องจะเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ เหตุครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความหวั่นวิตกในสังคมไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งหมดอาจเกิดขึ้นได้จากการเลียนแบบพฤติกรรมการก่อเหตุในต่างประเทศ รวมทั้งในปัจจุบันสังคมไทยสามารถหาปืนในรูปแบบต่างๆมาครอบครองได้ง่าย

...

กราดยิงในห้างสยามพารากอน

เหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 3 ต.ค. พ.ต.อ.นพดล เทียมเมธา ผกก.สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนกราดกระสุนรัวยิงมากกว่า 4 นัดใส่ผู้บริสุทธิ์ ภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ใกล้เคียงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จึงระดมกำลังสายตรวจและตำรวจฝ่ายสืบสวน พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องไปตรวจสอบพร้อมรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบตามสายการบังคับบัญชา ทั้ง พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.

มือยิงแต่งกายในชุดพร้อมรบ

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าและลานจอดรถพบประชาชนนับร้อยกำลังวิ่งหนีตายกันอลหม่าน จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ชาวบ้านอยู่ระหว่างจับจ่ายใช้สอยอยู่ภายในห้างตามปกตินั้นมีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุไม่เกิน 20 ปี รูปร่างผอม สูงราว 175 เซนติเมตร ผิวขาว แต่งกายแนว tactical สวมเสื้อผ้ารัดกุม สวมเสื้อคลุมสีดำพับแขน นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาล ใส่รองเท้าปีนเขาสีดำ และหมวกแก๊ป สีเทา ใช้อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติคาดเป็น ขนาด 9 มม. กราดยิงใส่ผู้บริสุทธิ์ บริเวณชั้น G ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นที่ 2 ชั้นที่ 4 และชั้นต่างๆภายในบริเวณห้าง

นักช็อปแตกตื่นหนีตายกระเจิง

ระหว่างเสียงปืนดังขึ้นมีประชาชนตื่นตระหนกตกใจทราบทันทีว่ามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในห้าง บางส่วนรีบวิ่งหนีออกทางประตูเข้า-ออกและลานจอดรถ บางส่วนตัดสินใจวิ่งหลบหนีเข้าไปอยู่ด้านในตามร้านค้าต่างๆอย่างโกลาหล ท่ามกลางเสียงกรีดร้องเป็นระยะ เบื้องต้นมีพลเมืองดีพบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บ 4-5 คน ถูกคมกระสุนของคนร้าย รอคอยความช่วยเหลืออยู่ด้านในห้าง ตำรวจผู้เกี่ยวข้องจึงสั่งการให้ปิดพื้นที่บริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปเพิ่มเติมซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายและยากต่อการควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งเป็นการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้เหตุร้ายกระจายเป็นวงกว้างรวมทั้งง่ายต่อการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ

สั่ง “อรินทราช-คอมมานโด” ระงับเหตุ

จากนั้นไม่นาน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 นำกำลังเดินทางไปบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเองพร้อมขอกำลังสนับสนุนกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษจากอรินทราช 26 และคอมมานโด 904 ซึ่งระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถช่วยลำเลียงคนเจ็บออกจากพื้นที่ได้จำนวน 2 คน จากการข่าวที่ทราบเบื้องต้นเป็น รปภ.ของทางห้าง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังไม่มีการยืนยัน มีเพียงพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุพบคนเจ็บอาการสาหัสประมาณ 2-3 คน

รวบมือยิงได้พบอายุแค่ 14

หลังเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ทราบว่าตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ พร้อมปืนกล็อก 9 มม. พบกระสุนถูกคนร้ายยิงจนหมดแมกกาซีน เบื้องต้นชุดจับกุมนำตัวไปสอบปากคำเพื่อหามูลเหตุจูงใจก่อนเข้าเคลียร์พื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อสำรวจยอดผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีรายงานว่าภายหลังตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนได้แล้วทราบชื่อต่อมา ด.ช.ออย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี โดยรวบตัวได้ที่ชั้น 3 ของโรงแรมใกล้เคียง

...

เบื้องต้นพบเป็นเด็กติดเกม

จากการสอบสวนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวเป็นเด็กติดเกม ทั้งนี้ชุดจับกุมอยู่ระหว่างติดต่อผู้ปกครองเข้าร่วมสอบปากคำและหาข้อมูลเหตุจูงใจจากการลงมือครั้งนี้ เตรียมนำตัวผู้ก่อเหตุและของกลางไปทำการบันทึกจับกุมและสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน มีรายงานว่าสำหรับผู้ปกครองของเด็กผู้ก่อเหตุรายนี้เป็นถึงอาจารย์ระดับ ผศ.ของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง

“ชาดา–บิ๊กต่อ” รุดสอบเด็กมือยิง

ต่อมาเวลา 18.00 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ดูแลรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 เพื่อสอบปากคำ ด.ช.ออย อายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุยิงภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ชีพและหน่วยงานเกี่ยวข้องยืนยันแล้วมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 คน ถูกแยกนำส่ง รพ.จุฬาลงกรณ์ 3 คน และ รพ.ตำรวจ 1 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด

...

ผู้ต้องหาอ้างหูแว่วถูกสั่งให้ทำ

ทั้งนี้ระหว่างสอบปากคำ ด.ช.ออยอยู่ในอาการตื่นกลัว เนื้อตัวสั่น และพูดเพียงแค่ว่า “พี่มันอยู่นู้น” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามพูดคุยให้ใจเย็นลงโดยระบุว่าปลอดภัยแล้ว ต่อมาเวลา 18.16 น. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเดินทางมาจุดเกิดเหตุใช้เวลาในการตรวจสอบที่เกิดเหตุและของกลางประมาณ 15 นาที รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุที่ ด.ช.ออยก่อเหตุนั้นเนื่องจากเกิดอาการหูแว่วมีคนสั่งให้ทำจึงก่อเหตุกราดยิงดังกล่าว เบื้องต้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบบ้านที่พักอาศัยสืบค้นประวัติย้อนหลัง โดยเฉพาะประวัติอาการทางจิต

เพื่อนร่วมชั้นบอกโลกส่วนตัวสูง

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของผู้ก่อเหตุระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเก็บตัว มีโลกส่วนตัวสูงไม่คุยกับใคร แม้แต่กับอาจารย์ ชอบเล่นเกมในมือถือ เกม PUB G Mobile Nox และชอบคุยในไลน์กลุ่มคนเล่นเกมด้วยกันเท่านั้น ผลการเรียนปานกลาง ไม่มีใครสนิทด้วย  เวลาเรียนก็นั่งแถวหน้าสุดแต่นั่งชิดด้านในสุด

...

“เบลล่า-หมาก-โป๊ป-แต้ว” ระทึก

มีรายงานว่า ระหว่างที่คนร้ายก่อเหตุมีการจัดงาน “เปิดวิก Big 3 Best & Beyond” ที่รอยัลพารากอน ฮอลล์ บริเวณชั้น 5 ของศูนย์การค้าสยามพารากอน มีดารานักแสดงชื่อดัง อาทิ เบลล่า- ราณี แคมเปน, โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนภูติ, มาริโอ้ เมาเร่อ, หมาก-ปริญ สุภารัตน์, แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์, โบว์-เมลดา สุศรี รวมทั้งกองทัพสื่อมวลชนและกลุ่มแฟนคลับมารวมตัวกันจำนวนมาก ทั้งหมดต่างมีอาการตื่นตกใจเล็กน้อยหลังทราบเหตุ จากนั้นทีมรักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่จัดงานประกาศให้ทุกคนเข้าไปรวมตัวในฮอลล์ นักแสดงทั้งหมดได้ถูกนำตัวเข้าไปด้านหลัง ขณะเดียวกันก็ปิดทางเข้าออกทั้งหมดเพื่อรอดูสถานการณ์ จนกระทั่งเวลา 17.45 น. ผู้จัดงานจึงได้แจ้งยกเลิกงาน ก่อนจะขอให้ทุกคนทยอยเดินลงไปด้านล่างโดยใช้บันไดหนีไฟ

นายกฯไป “พารากอน” ตามหมายเดิม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เดินทางไปในพื้นที่ แต่ยังไม่ทราบในรายละเอียด น.ส.ชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอนที่มาร่วมประชุมซอฟต์พาวเวอร์กับตนขอตัวออกไปก่อนหลังได้รับรายงานเหตุการณ์ ส่วนวันที่ 4 ต.ค. ตนมีกำหนดเป็นประธานพิธีเปิด “SCBX NEXT TECH” เทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอนนั้น ตนยังไปเหมือนเดิมครับ ยังเหมือนเดิม เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐาไม่ตอบคำถาม รีบเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ต่อมาเวลา 17.20 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา  ให้สัมภาษณ์ถึงรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายกราดยิงที่สยามพารากอนอีกครั้งว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดยผู้ก่อเหตุมอบตัว ตร.อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว

นายกฯโพสต์เสียใจสุดซึ้ง

จากนั้นเวลา 18.15 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงกันในพื้นที่ห้างสยามพารากอน ขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกท่านด้วยครับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าพื้นที่อย่างรวดเร็ว และผมได้รับรายงานจาก ผบ.ตร.ประจำอยู่ที่เกิดเหตุว่าขณะนี้สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว แต่ผมยังคงขอฝากเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยด้วยครับ #พารากอน #siamparagon” ทั้งนี้ ช่วงค่ำหลังจากเสร็จสิ้นร่วมประชุมกับ สส.พรรคเพื่อไทยแล้ว ผมจะเดินทางออกจากที่ทำการพรรคเพื่อไทยไปตรวจที่เกิดเหตุ ที่สยามพารากอน รวมทั้งให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติหน้าที่และแผนรับมือหลังเหตุครั้งนี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลต่างมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก

ห้างประกาศแสดงความเสียใจ

วันเดียวกัน สยามพารากอน ได้ออกประกาศขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ ใจความสรุปว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์และจับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว ทันทีที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดจนทีมรักษาความปลอดภัยของสยามพารากอนได้อพยพลูกค้าและพนักงานออกจากอาคารทันที โดยยึดถือความปลอดภัยของลูกค้าพนักงานและร้านค้าทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด สยามพารากอนขอขอบคุณตำรวจและอาสาสมัครทุกนาย และทีมรักษาความปลอดภัยของสยามพารากอน ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่เข้ายุติสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่พวกเราในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ท่านทราบต่อไป

เจอคลิปซ้อมยิงปืนในมือถือ

กระทั่งเวลา 19.00 น. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายกราดยิงภายในห้างสยามพารากอนได้แล้ว ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้คุมตัว ด.ช.ออยเข้ามาที่โรงพัก โดยขึ้นรถตู้โตโยต้า รุ่นไฮเอช สีเทา ทะเบียน ฮต 3587 กรุงเทพมหานคร ของ บ.เออีซีการ์ด รักษาความปลอดภัยประจำห้างฯ มาพร้อมกับของกลาง จากการสอบสวนเจ้าตัวตั้งแต่ถูกคุมตัวจากที่เกิดเหตุจนถึงโรงพัก พบว่ายังไม่ได้ข้อมูลใดๆที่เป็นประโยชน์ เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการหูแว่ว และหวาดกลัวคล้ายมีผู้จะเข้ามาทำร้ายตลอดเวลา เบื้องต้นให้การเพียงว่าปัจจุบันเรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง  นอกจากนี้มีรายงานว่า ในโทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุพบคลิปวิดีโอบันทึกภาพการซ้อมการเปลี่ยนแมกกาซีน บรรจุกระสุนปืนเก็บไว้ที่คลังภาพ และก่อนจะเข้ามาก่อเหตุในห้าง เจ้าตัวยังได้ส่งภาพแมกกาซีนบรรจุกระสุนไปให้เพื่อนในแชต ก่อนที่จะเข้ามาก่อเหตุในห้างดังกล่าว

รับคนเจ็บอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์

เวลาไล่เลี่ยกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เดินทางถึงห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้ารายงานสถานการณ์ จากนั้นเวลา 19.58 น. นายกฯเดินทางเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยมีนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจรายงาน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยัง รพ.จุฬาลงกรณ์ ทั้งนี้ นายกฯกล่าวภายหลังการเยี่ยมผู้ป่วยที่ รพ.ตำรวจว่า ผู้บาดเจ็บรายหนึ่งถูกกระสุนยิงถากไหล่ ขวัญเสียนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไรมากไม่ต้องผ่าตัด สามารถพูดคุยได้แล้ว ทาง รพ.ตำรวจขอให้ผู้บาดเจ็บพักดูอาการก่อน ทั้งนี้ นายเศรษฐากล่าวเพิ่มเติมก่อนเข้ารับฟังรายงานจากคณะแพทย์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงรับผู้ป่วยทุกรายอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น

“บิ๊กต่อ” ระบุผู้ก่อเหตุป่วยจิต

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยว่าเรื่องสอบปากคำต้องขอไม่เปิดเผยรายละเอียดเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ทั้งนี้ ได้นำตัวไปยัง สน.ปทุมวัน เพื่อสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุไม่ขอเปิดเผย ทั้งนี้ขณะเข้าจับกุมได้ดำเนินการตามขั้นตอน (SOP) โดยผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว จากการตรวจสอบพบประวัติรักษาจิตเวชอยู่ รพ.ราชวิถี เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากมีอาการเบลอ ระบุมีคนมาพูดว่าต้องยิงคนนู้นคนนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดต่อผู้ปกครอง เนื่องจากไปตรวจสอบที่บ้านพักย่านเพชรเกษมยังไม่เจอพ่อแม่ ส่วนเรื่องของเกมพบว่าได้เล่นเกมบ้าง ส่วนปืนผู้ก่อเหตุใช้เป็นอาวุธปืนจริงยังไม่ทราบที่มา เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาวจีน 1 ราย เสียชีวิตบริเวณชั้น G ส่วนชาวเมียนมา 1 ราย เสียชีวิตที่ รพ.ตำรวจ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน

เผยรายชื่อคนเจ็บ-คนตาย

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. รับรายงานจาก พ.ต.อ.นพดล เทียมเมธา ผกก.สน.ปทุมวัน กรณีรายชื่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์กราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ประกอบด้วย ผู้เสียชีวิต 2 ศพ คือ น.ส.จ้าว จินหนาน อายุ 34 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน น.ส.เมา เมจิน ชาวเมียนมา ไม่ทราบอายุ เสียชีวิตที่ รพ.ตร. พบบาดแผลถูกยิงที่คอ 1 นัด และแผ่นหลัง 2 นัด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน รักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ 3 คน ประกอบด้วย นายวิเชียร วิจิขากี อายุ 41 ปี น.ส.เพ็ญพิวรรณ มิตรธรรมพิทักษ์ อายุ 30 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะสาหัส ไม่รู้สึกตัว น.ส.ลิช่า อายุ 40 ปี ชาวจีน อาการปลอดภัย นอกจากนี้มีหญิงไทย 1 คน ชื่อนางอัญภัทร ทิพย์จิระสกุล อายุราว 50 ปี ถูกยิงบริเวณไหล่ซ้าย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตร. ส่วน น.ส.คำ พูอี อายุ 28 ปี ชาว สปป.ลาว ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกยิงใต้รักแร้ 1 นัด หัวไหล่ 1 นัด และมีบาดแผลที่คอ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน

เผยไทม์ไลน์มือกราดยิง

หลังเหตุการณ์สงบลง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุกราดยิง ในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พบไทม์ไลน์ผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นดังนี้ เวลา 15.35 น. เข้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทาง bts link 2 เวลา 15.40 น. เดินอยู่บริเวณชั้น M สะพายกระเป๋าเป้เข้ามา เวลา 15.42 น. เดินเข้าห้องน้ำ ชั้น M ข้างร้านหลุยส์ (จุดเริ่มเกิดเหตุ) เวลา 16.10 น. เริ่มยิงในห้องน้ำและหน้าห้องน้ำ เวลา 16.11 น. เริ่มเดินกราดยิงบริเวณชั้น M เวลา 16.25 น. กราดยิงบริเวณชั้น 2 เวลา 16.28 น. เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 3 กราดยิงต่อ กระทั่งเวลา 17.10 น. คนร้ายถูกควบคุมตัวบริเวณชั้น 3 ภายในร้าน Chanintr

“ดิเอสเซนส์” แสดงความเสียใจ

เมื่อเวลา 21.00 น. มีเอกสารเผยแพร่สื่อออนไลน์ โดย THE Essence Studies Centre TIME MATTERS ใจความสรุปว่า “The Essence ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์บุกยิงในห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 เวลา 17.00 น. The Essence ได้รับทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียน The Essence ตามที่มีการรายงานข่าวจริง The Essence ตระหนักดีว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เราจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่หากมีประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ และใคร่ขอความเห็นอกเห็นใจทุกท่าน โปรดเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวน้องที่เป็นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนด้วย หากผู้ปกครองและนักเรียนไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องการพบผมเพื่อพูดคุยผมพร้อมที่จะพบทุกท่าน โปรดนัดหมายกับทีมแคร์ของโรงเรียนได้ครับ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง” นายวิวัฒน์ คติธรรมนิตย์ ผู้อำนวยการดิเอสเซนส์ เลขที่ 215 อาคาร SiamScape ชั้น 15 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม.

ตำรวจพบกระสุนในบ้านเพียบ

มีรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 21.00 น. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง เข้าตรวจค้นบ้านพักภายในซอยเพชรเกษม 88/1 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.ของผู้ก่อเหตุ พบ ปืนบีบีกันแบบ M4 กระสุนปืน M16 กระสุนปืนลูกซอง และกระสุนปืนขนาด 9 มม. เพิ่มเติมจำนวนหนึ่งในห้องนอนของผู้ก่อเหตุ จากการสอบสวนบิดา-มารดาของผู้ก่อเหตุ ยังไม่ทราบว่าของกลางทั้งหมดบุตรชายนำมาจากที่ใด เนื่องจากตามปกติบุตรชายพักอาศัยหลับนอนอยู่ที่บ้านพักอีกแห่งหนึ่งย่านสาทร โดยหลังจากนี้ชุดตรวจค้นจะนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อทำบันทึกการตรวจยึดเอาไว้ก่อนประสานพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน มารับไปดำเนินการตามขั้นตอน

ผู้ร่วมเหตุระทึกแจ้งของหาย 20 ราย

ที่หน้าห้างสยามพารากอน ภายหลังเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าสู่ภาวะปกติ มีพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้างมาตั้งโต๊ะประชาสัมพันธ์รับแจ้งของหายหรือในส่วนความเสียหายอื่นๆของผู้มาใช้บริการช่วงขณะเกิดเหตุ เบื้องต้นพบข้อมูลล่าสุดมีผู้เสียหายประมาณ 20 คน มีทั้งของหายและทิ้งทรัพย์สินไว้ในห้างขณะหลบหนีเพื่อดำเนินการติดตามหรือเยียวยาช่วยเหลือต่อไป

“แอตต้า” ชี้กระทบเที่ยวแน่นอน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทย ธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยถึงเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างพารากอน ว่า เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยแน่ และต้องเช็กให้ชัวร์ผู้เสียชีวิต เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจริงหรือไม่ ถึงไม่ใช่นักท่องเที่ยว จีนก็เสียหายอยู่แล้ว และถ้าหากเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่เสียชีวิตจะยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เพราะตอนนี้ที่จีนก็ไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการมาเที่ยวเมืองไทยอยู่แล้ว ทางที่ดีที่สุดตอนนี้รัฐบาลต้องหาวิธีการสื่อสารให้ดีที่สุดและต้องควบคุมเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้

สื่อนอกตีข่าวไปทั่วโลก

มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุ สำนักข่าวใหญ่ทั่วโลกอย่างเช่น บีบีซี และเดอะ การ์เดียน จากอังกฤษ รวมทั้งสำนักข่าวเอพี อัลจาซีราจากกาตาร์ รวมทั้ง นสพ.เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ จากฮ่องกง ไปจนถึง นสพ.เกียวโด นิวส์ และสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ของญี่ปุ่น ต่างเกาะติดสถานการณ์และรายงานข่าวด่วนไปทั่วโลก ทั้งหมดรายงานไปในแนวทางเดียวกันว่าเกิดเหตุกราดยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าหรูใจกลาง กทม. หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าใช้บริการมากที่สุดในเอเชีย เหตุการณ์รุนแรงดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในจำนวนนี้รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย ยังรายงานด้วยว่าผู้ต้องสงสัยวัย 14 ปี ถูกจับกุมหลังเข้ามอบตัว พร้อมรายงานว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว บีบีซียังลงท้ายด้วยว่าเหตุกราดยิงเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประเทศไทย แม้ว่าอัตราการครอบครองปืนค่อนข้างสูงก็ตาม พร้อมระบุว่าอีกไม่กี่วันก็จะครบรอบเหตุสังหารสลดกราดยิงศูนย์ดูแลเด็กที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อ 6 ต.ค.65 คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 37 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก

ชี้ไทยมีอัตราฆาตกรรมด้วยปืนสูง

ด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นยังรายงานว่าการครอบครองปืนในประเทศไทยถือว่ามีอัตราสูงเมื่อเทียบกับประเทศ อื่นๆ ในภูมิภาค ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจอาวุธขนาดเล็ก (SAS : Small Arms Survey) ในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 2560 ระบุว่ามีพลเรือนชาวไทยมากกว่า 10.3 ล้านคนครอบครองปืน หรือคิดเป็นสัดส่วนปืน 15 กระบอกต่อ 100 คน และปืนประมาณ 6.2 ล้าน กระบอกถูกจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ข้อมูลจากสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพ (IHME) องค์กรวิจัยอิสระด้านสุขภาพแห่งวิทยาลัยการแพทย์ มหา วิทยาลัยวอชิงตัน ประจำปี 2562 ยังชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีอัตราการฆาตกรรมด้วยปืนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองแค่ฟิลิปปินส์

อ่านข่าวเกี่ยวกับ "ยิงกันที่พารากอน" เพิ่มเติม