4 สาวไทย ถูกนายหน้าลวงผ่านแอปฯ ดัง พาไปทำงาน PR รายได้ดี ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา หลงกลถูกหลอกขายต่อให้นายทุนจีน พาไปบังคับขายตัวที่เมืองป็อกสนองกามพวกกลัดมัน เผยขัดขืนโดนซ้อม-อดข้าว-ยึดมือถือ ต้องจำใจทำเพื่อเอาชีวิตรอด เผยพยายามขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานไทยแล้ว-แต่ทุกที่บอกให้รอจนท้อ
จากกรณีที่เพจ NinJa ToDay มีการโพสต์คลิปวิดีโอ หญิงสาวไทยรายหนึ่ง โชว์บัตรประชาชน ร่ำไห้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยพากลับประเทศไทย โดยระบุว่า "เป็นหญิงสาวชาว จ.อุบลราชธานี และเพื่อนรวม 4 คน ถูกหลอกมาทำงานเป็น PR ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่กลับถูกหลอกไปขายบริการที่เขตปกครองพิเศษเมืองป็อก ประเทศเมียนมา ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน มีเพียงคำตอบเดียวคือให้รอ"
จากการสอบถาม นางสาวเก๋ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกไปขายบริการทางเพศ เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนรวม 4 คน ทำงานเป็น PR ร้านอาหารที่ กทม. ต่อมาได้รู้จักนายหน้าหางานทางแอปพลิเคชัน "TikTok" รับ PR ทำงาน ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ข้ามฝั่งจากไทยประมาณ 5-10 นาที รายได้ดีพร้อมทั้งมีโปรโมชันฟรีค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหารทุกอย่าง โดยทางนายหน้าได้โอนค่าเดินทาง สำหรับ 4 คน มาก่อน 1 หมื่นบาท ตนจึงได้ตัดสินใจเดินทางไป
"เมื่อไปถึง จ.เชียงราย มีผู้ชายมารับเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งอยู่ริมน้ำ จากนั้นก็เดินออกทางหลังบ้านข้ามน้ำเข้าเขตประเทศเมียนมา เมื่อตนถามว่าข้ามมาแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ ชายคนดังกล่าวบอกว่าไม่ผิด เพราะไม่ได้ไปไกลตนจึงไม่คิดอะไร จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ 4 คัน มารับขับเข้าไปในตัวเมืองก่อนจะขึ้นเขาไปอีก 6 ชั่วโมง และมีรถมารับอีกต่อ ตอนนั้นตนรู้แล้วว่าถูกหลอก แต่ก็ไม่สามารถจะขัดขืนอะไรได้ จึงจำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย" นางสาวเก๋ กล่าว
...
นางสาวเก๋ เล่าต่อว่า เมื่อพวกนั้นพาตนและเพื่อนๆ มาถึงเมืองป็อก ตนและเพื่อนถูกแยกขังไว้ในตึก 2 คน ส่วนอีก 2 คน ถูกขายไปให้นายทุนจีนอีกกลุ่มให้ไปค้าประเวณี เริ่มแรกตนไม่ยอมที่จะขายบริการ แต่เห็นเพื่อนคนอื่นที่มีชะตากรรมเดียวกันไม่ยอมก็จะถูกทำร้าย ให้อดข้าวกินวันละ 1 มื้อ ยึดโทรศัพท์ ตนจึงจำใจยอมเพื่อเอาชีวิตรอด ตลอดเวลาที่รู้ว่าถูกเอามาขายบริการ ตนและเพื่อนพยายามติดต่อทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง แต่ไม่มีใครช่วยได้เลย บอกให้รออย่างเดียว จนเจอเพจบ้านเฮียชาญที่พึ่งของผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นเพจของ จ.อุบลราชธานี จึงได้ขอความช่วยเหลือไป พร้อมกับเพจ Ninja Today เพจ CSI LA เพจ thereporters จนมีการประสานงาน นักธุรกิจชาวจีนช่วยออกเงินค่าไถ่ตนและเพื่อน ให้หลุดออกมาจากโรงแรมที่ขายบริการได้อย่างปลอดภัย
นางสาวเก๋ เล่าต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนและเพื่อนๆ ก็ยังไม่สามารถที่กลับมาไทยได้ เนื่องจากไม่มีเงินที่จะคืนให้กับนักธุรกิจจีนรายนี้ จึงต้องขอทางบ้านช่วยกันหาเงินมาคืนนักธุรกิจจีนก่อน ปัจจุบันการกินอยู่ต่างๆ นักธุรกิจจีนรายนี้เป็นคนดูแลออกค่าที่พักให้ ไม่ต้องออกไปทำงานรับแขกขายบริการ รอเพียงวันที่ทางบ้านจะหาเงินมาคืนแล้วกลับบ้าน
ขณะที่ นายชาญวิทย์ ยอดสิงห์ อายุ 35 ปี เจ้าของเพจบ้านเฮียชาญ ได้พาญาติของ น.ส.เก๋ เข้าแจ้งความและขอความช่วยเหลือกับทาง พ.ต.อ.คนองฤทธิ์ ดาราช ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี ภายหลังรับทราบเรื่องดังกล่าว ได้สั่งให้ลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมทั้งนำเรื่องรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อประสานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน
โดย พ.ต.อ.คนองฤทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการช่วยเหลือนั้น ต้องเป็นไปตามระบบราชการ ทางตนพร้อมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ทั้งการจัดรถรับ ส่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัวเมื่อกลับมาถึงฝั่งไทย สำหรับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ที่หญิงไทยถูกหลอกไปทำงานที่พม่า มีมาอย่างต่อเนื่อง จนเพจ Royal ThaiEmbassy Yangon สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ออกประกาศเตือนคนไทย เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2565 ว่า อย่าหลงเชื่องาน PR เมืองป็อก เมืองลา เล้าไก่ มูเซ ในเมียนมา อ้างรายได้หลักแสน อาจโดนหลอก ความจริงโดนบังคับขายบริการ โดนบังคับเสพยา ติดหนี้ โดนยึดพาสปอร์ต กลับไทยไม่ได้ และถูกขายต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมืองป็อกมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งของ อ.เมืองยาง จ.เชียงตุง ถูกผนวกอย่างไม่เป็นทางการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่พิเศษหมายเลข 2 เขตปกครองตนเองชนชาติว้า ถูกปกครองอย่างเบ็ดเสร็จโดยกองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army : UWSA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองพลที่ 468 กองทัพสหรัฐว้า ซึ่งฝั่งตรงข้ามเมืองป็อกเป็นเขตปกครองตนเองชนชาติไต ลาหู่ และว้า เมิ่งเหลียน หรือในภาษาไตเรียกว่า "เมืองแล" ขึ้นกับ จ.ผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน สภาพเมืองป็อกไม่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ของชาวไตในรัฐฉาน ชาวเมืองใช้ชีวิตสมถะ เรียบง่าย ทำการเกษตรเป็นหลัก แต่หลังจากกองทัพสหรัฐว้าเข้ามาครอบครอง มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มีการก่อสร้างอาคารสูงใหญ่เกิดขึ้นหลายตึก มีนักลงทุนทั้งที่เป็นคนว้าและคนจีนเข้ามาเปิดกิจการ ส่วนมากเป็นสถานบันเทิงครบวงจร ทำให้เมืองป็อกปัจจุบัน มีสภาพที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับตัวเมืองยาง