ตำรวจ น.2 รวบผัวเมียชาวออสเตรเลีย หลอกขายเงินดิจิทัลชาวจีน ก่อนจะฉวยโอกาสฉกเงิน 2.5 ล้านหนี สุดท้ายไปไม่รอดถูกตามจับได้ที่ภูเก็ต ส่งตัว สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2566 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 รับรายงานจาก พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 โดย พ.ต.ท.ธีรภัทร คารมย์ พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา พ.ต.ท.สมบัติ ญาติตะคุ สว.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ไชยวิชญ์ สุทําเลาหวิจิตร รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 และฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ร่วมกันจับกุม นายแกลเลทลีย์ โจเซฟ (MR.GALLETLY JOSEPH) อายุ 47 ปี ชาวออสเตรเลีย และนางไฮน์สัน ลิลี่ เจย์ (MRS.HINSON LILY JAY) ชาวออสเตรเลีย อายุ 28 ปี สามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1688/2566 และ 1687/2566 ลง 30 พ.ค. 66 ความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ จับกุมได้บริเวณ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 พ.ค. เวลาประมาณ 18.00 น.

สืบเนื่องจากเมื่อ 29 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. นายเกา เจียนเจี้ย (Mr. GAO JIANJIA) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน ว่าก่อนหน้านี้เมื่อประมาณวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนโพสต์หาผู้ที่ต้องการขายเงินดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์ม BINANCE จากนั้นคนร้ายได้ติดต่อผ่านแอปฯ เทเลแกรม โดยคนร้ายระบุว่ามีเงินดิจิทัลขาย ก่อนจะตกลงไปซื้อขายกันในราคา 2,500,000 บาท นัดหมายกันที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา

...

เมื่อผู้เสียหายถึงที่นัดหมายได้ไปเบิกเงินออกมาจำนวน 2,500,000 บาท ต่อมาได้พบกับชายชาวต่างชาติซึ่งระบุว่าเป็นตัวแทนของผู้ขายมารับเงิน ระหว่างนั้นผู้เสียหายได้คุยแชตกับผู้ขายโดยปลายทางระบุว่าคนที่พบนั้นเป็นตัวแทนเพื่อไปรับเงิน จากนั้นผู้เสียหายได้ส่งมอบถุงใส่เงินให้ไป ซึ่งชายชาวต่างชาติได้รับแล้วใส่กระเป๋าวางไว้เก้าอี้ข้างตัว ระหว่างรอการโอนเงินสกุลดิจิทัล ปรากฏว่ากระเป๋าเงินได้หายไป เมื่อสอบถามชายชาวต่างชาติกลับระบุว่าไม่ทราบว่ากระเป๋าหายไปไหนก่อนจะเดินหลบหนีไป จึงเดินทางเข้าแจ้งความเพราะเชื่อว่าเป็นการวางแผนมาก่อน และทำเป็นขบวนการอย่างแน่นอน

ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี จนพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุหยิบกระเป๋าไปนั้นเป็นหญิงชาวต่างชาติฉวยโอกาสตอนผู้เสียหายเผลอหยิบเดินออกจากธนาคารไป จากแนวทางการสืบสวนยังทราบว่าชายที่ทำทีมารับเงินกับหญิงที่หยิบกระเป๋าเงินออกไปนั่นเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากพบว่าหลังก่อเหตุวันเดียวกันทั้งคู่ได้นัดหมายมาเจอกันที่หน้าร้านรับแลกเงินย่านนานา เพื่อนำเงินที่ได้ไปแลกเป็นเงินดิจิทัล ก่อนทั้งคู่จะเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต และยังพบว่าคนร้ายทั้ง 2 คนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ ตม.จ.ภูเก็ต และกก.2 บก.ทท.3 จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.