อธิบดีกรมสุขภาพจิตวิเคราะห์พฤติกรรม “แอม ไซยาไนด์” จากสื่อ เข้าข่าย “ไซโคพาธ” ทำลายชีวิตคนอื่นเพื่อความปรารถนาของตัวเอง ขณะที่ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เผยสภาพจิตใจแอมดีขึ้นแต่ยังกังวลเล็กน้อยไร้ญาติเยี่ยมมีเพียงทนายความติดต่อเข้าพูดคุย “บิ๊กโจ๊ก” เรียกประชุมชุดสืบสั่งนำข้อมูลหาความเชื่อมโยงมีใครเอี่ยวอีก ชุดทำคดีเผยพบหลักฐานชัด แอมวางยาฆ่า 2 ศพที่บ้านโป่งและนครปฐม จ่อเรียกอดีตตำรวจสามีแอมสอบซ้ำ พร้อมระบุวันนี้ยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่ม เร่งสอบหาที่มาไซยาไนด์

คดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดโหด เปิดฉากเริ่มจากญาติ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ อายุ 32 ปีเท้าแชร์สาวชาว จ.กาญจนบุรี เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบฯ เพราะติดใจการเสียชีวิตอย่างปริศนาขณะเดินทางไปปล่อยปลากับนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี บริเวณท่าน้ำแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนนำศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พบสารไซยาไนด์ในร่างกายเป็นที่มาของการรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับนางสรารัตน์ ข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังการจับกุม เหตุน่าสะพรึงเริ่มทยอยออกมา เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบเหยื่อใกล้ชิดนางสรารัตน์ หรือแอม ไซยาไนด์ เข้าข่ายถูกวางยาฆาตกรรมรวมแล้ว 13 ศพ รอดชีวิต 1 ราย ทั้งหมดล้วนเกี่ยวพันการกู้ยืมเงิน รับจำนำรถ จำนำที่ดิน และวงแชร์ ขณะที่ผู้ต้องหาสาวให้การปฏิเสธ ตำรวจส่งฝากขังนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง จากการตรวจร่างกายพบตั้งท้อง 4 เดือน ที่น่าตกใจไปกว่านั้นพบเป็นโรคจิตมา 5 ปี แต่ไม่ไปหาหมอจนขาดยามา 2 ปี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

คุกวันที่ 2 แอมเริ่มปรับตัวได้

ความคืบหน้าในคดีสะเทือนขวัญและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหี้ยมโหดของ “แอม ไซยาไนด์” วันที่ 28 เม.ย. น.ส.โศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ถึงอาการนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ หลังถูกคุมขังในเรือนจำวันที่ 2 ว่า แอมปรับตัวได้ดีขึ้น สามารถอยู่กับผู้ต้องขังรายอื่นในห้องกักโรค จากที่ทีมสหวิชาชีพและนักจิตวิทยาของเรือนจำสังเกตพบว่า แอมพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่นทำให้อาการเครียดลดน้อยลง ยังมีความวิตกกังวลอยู่เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นวันแรกที่เข้ามาในเรือนจำแล้วเครียดจนความดันขึ้นสูง ต้องพาเข้าทัณฑสถานโรงพยาบาล เมื่อหมอให้ยาอาการก็ดีขึ้น ก่อนจะกลับมาอยู่ที่ห้องกักโรคตามเดิม ต้องควบคุมเฝ้าระวังอาการตามกฎกระทรวงสาธารณสุขป้องกันโควิดให้ครบ 5 วัน ถึงจะย้ายไปอยู่ที่ห้องบับเบิลโซนอีก 5 วัน ก่อนย้ายเข้าสู่แดนแรกรับได้ปกติ

...

สัญญาณชีพเด็กในท้องยังปกติ

ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลางเปิดเผยต่อว่า ส่วนเด็กในครรภ์แอม เมื่อวานนี้สูตินารีแพทย์ได้เข้ามาดูแล โดยตรวจสัญญาณชีพของเด็กพบว่าอาการและสัญญาณชีพปกติ ไม่มีความน่ากังวลใดๆ ขณะที่ประเด็นเรื่องอาการทางจิตของแอมขณะนี้ ไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอให้แพทย์เป็นผู้สรุปข้อมูลอย่างละเอียดก่อนส่งมาอีกครั้ง ระหว่างที่แอมอยู่ในห้องกักโรคที่ผ่านมา นอกจาก น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม ยังไม่มีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยม

เค้นสอบ 10 ชม. พ.ต.ท.ผัวเก่า

ด้านการรวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำพยานในคดีสะพรึงขวัญที่ไม่น่าเชื่อจะเกิดขึ้นในสังคมไทย มีรายงานว่าเมื่อเวลา 22.10 น. วันที่ 27 เม.ย.ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อดีตสามีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาคดีวางไซยาไนด์ฆาตกรรมเหยื่อหลายราย เพิ่งถูกคำสั่งย้ายจาก สภ.บ้านโป่ง ไปปฏิบัติราชการที่ สภ.สวนผึ้ง เปิดเผยสั้นๆหลังเสร็จสิ้นจากการสอบปากคำนานกว่า 10 ชั่วโมง ว่า หลังจากที่ตกเป็นข่าว ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยังทำใจไม่ได้ สภาพจิตใจย่ำแย่มาก จากนั้นรีบเดินขึ้นรถกลับไปทันที

“กอล์ฟ” ปัดข่าวรับร่วมฆ่า “แด้”

ต่อมา 22.45 น. วันเดียวกัน นายกอล์ฟ ลูกน้องคนสนิทนายแด้ อดีตสามีแอม เดินทางออกจากห้องสอบสวน หลังเข้าให้ปากคำตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 27 เม.ย. นายกอล์ฟมีสีหน้าเคร่งเครียด รีบเดินขึ้นรถที่จอดรอรับด้านหน้า ระหว่างที่นายกอล์ฟเดินออกไป ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่ารู้จักกับแอมได้ยังไง แอมบอกใช่มั้ยว่าจะฆ่านายแด้ รู้มั้ยว่าจะมีการวางยาไซยาไนด์ นายกอล์ฟปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับแอมในการฆ่านายแด้ และไม่ได้รับสารภาพร่วมกับแอมวางยาตามที่เป็นกระแสข่าวในโซเชียลมีเดีย วันนี้มาให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น

“บิ๊กโจ๊ก” ประชุมข้ามประเทศ

จากนั้นเวลา 10.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนในคดี “แอม ไซยาไนด์” ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเยอรมนี ในส่วนของการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดทำคดีของแต่ละท้องที่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และนครปฐม นำผลการรวบรวมพยานหลักฐานรายงานต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยจะนำผลการทำไทม์ไลน์ พยานแวดล้อม ผลการสอบปากคำแพทย์ทั้งหมดไม่ว่าเป็นเคสที่ผ่าศพหรือไม่ผ่าศพ การสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผลนิติวิทยาศาสตร์จากการตรวจวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้ ไม่ว่าจะเป็นจากในรถผู้เสียชีวิต รถผู้ต้องหา ในบ้านผู้ต้องหา บ้านพี่สาวผู้ต้องหา มาหารือเพื่อพิจารณาว่าจะมีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับแอมอีกหรือไม่ และจะสามารถออกหมายจับใครเพิ่มได้อีกหรือไม่

ยันเหยื่อยังอยู่แค่ 13 ศพ

จนกระทั่งเวลา 14.00 น. หลังคณะชุดทำงานทีมสืบสวนสอบสวนในคดี “แอม ไซยาไนด์” ประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์นานกว่า 4 ชั่วโมง พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.ศฝร.บช.น.) ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นเรื่องของการนำข้อมูลในแต่ละท้องที่เกิดเหตุเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน ล่าสุดเหยื่อในคดีตามข้อมูลในสำนวนตอนนี้ยังคงอยู่ที่ 13 ศพ และรอดชีวิต 1 ราย กองปราบฯยังคงทำคดี “ก้อย” เพียงคดีเดียว

...

จ่อเรียกผัวเก่าแอมสอบอีก

พล.ต.ต.นำเกียรติกล่าวต่อว่า ส่วนคดีอื่นๆขึ้นอยู่กับแต่ละในพื้นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังเน้นย้ำให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งศูนย์วอร์รูมรับเรื่องราวของเหยื่อ และสามารถเข้ามาแจ้งเรื่องดังกล่าวได้ ส่วนกระแสข่าวเรื่องออกหมายจับเพิ่มในวันนี้ยังไม่มี เพราะล่าสุดคดีที่ออกหมายจับเพิ่มแอม คือคดีของสารวัตรปูในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม ขณะที่ประเด็นการสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รองผกก. (สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อดีตสามีแอมเมื่อวานนี้ เป็นสิทธิที่เขาจะให้การอย่างไรก็ได้และตำรวจมีสิทธิที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะจะต้องสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการอยู่แล้ว รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน โทรศัพท์ของทั้งสองคนว่ามีความสัมพันธ์หรือมีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง หลังจากนี้จะต้องเชิญอดีตสามีแอมกลับมาให้ปากคำอีกครั้ง

พบข้อมูลแอมโอนเงินให้หนิม

ผบก.ศฝร.บช.น.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเมื่อวานนี้ที่ได้เรียกครอบครัวของ “หนิม” เคสผู้เสียชีวิตรายล่าสุดมาสอบปากคำ เนื่องจากพบเส้นทางการเงินที่แอมโอนไปให้จำนวนมาก เบื้องต้นมีข้อมูลว่าโอนเงินให้จำนวนหลักแสนบาท การสืบสวนพบว่า แอมมีหลายบัญชีในเรื่องของการเบิกจ่ายเงิน ต้องไปตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับใครหรือไม่ สำหรับการตรวจสอบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิคสีดำ ทะเบียน กข 5665 สุโขทัย ของ แอม พบ “ไซยาไนด์” ประเด็นนี้ต้องรอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ขณะเดียวกัน กระแสข่าวที่พบกล่องวัสดุที่มีการสั่งซื้อยามาจากต่างประเทศ ระบุชื่อชัดเจนนั้น ยังไม่พบข้อมูลในส่วนนี้

“กอล์ฟ” ให้การเป็นประโยชน์

พล.ต.ต.นำเกียรติกล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการสอบปากคำนายกอล์ฟ ลูกน้องคนสนิทที่ไปเก็บเงินกู้กับนายแด้ ผู้เสียชีวิต ที่ จ.อุดรธานี เบื้องต้นเมื่อวานนี้เรียกมาสอบในฐานะ “พยาน” เพราะว่าพบว่ามีความสนิทสนมกับแอมและนายแด้ผู้เสียชีวิต เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ และยังไม่ได้รับสารภาพตามกระแสข่าว

...

วางยาฆ่าชัดเจนแล้ว 2 ศพ

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.ระบุว่า จากการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ พบผู้เสียชีวิตที่ปรากฏชัดเจนว่า แอมวางไซยาไนด์ 2 ศพ ในพื้นที่อำเภอบ้านโป่งและเมืองนครปฐม ผลการตรวจพบไซยาไนด์มีปริมาณเป็นเหตุทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ในปริมาณเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ทั้งหมด อยู่ในสำนวนแล้ว ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตและเผาศพไปแล้วนั้น ยืนยันว่าจะหาหลักฐานความอื่นๆที่จะเชื่อมโยงเอาผิดกับแอมได้ พยานหลักฐานไม่ได้มีเพียงเรื่องสารพิษในร่างกายศพเพียงปัจจัยเดียว เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ศาลเห็นว่าผู้กระทำผิดกระทำผิดจริง ขณะนี้มีแนวทางการรวบรวมพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตจากสารพิษจริง แต่ไม่ขอระบุรายละเอียด
เมื่อสอบถามถึงปริมาณไซยาไนด์ว่าต้องมีการใช้เท่าไหร่ ถึงจะทำให้ผู้ที่กินเข้าไปแล้วเสียชีวิตได้ พ.ต.อ.เอนกระบุว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เรื่องการกินเข้าไป ขณะท้องว่างหรือมีอาหารในกระเพาะ มีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา

พฐ.7 ค้นรถหาหลักฐานเพิ่ม

วันเดียวกัน ที่ สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ กองพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้นำรถเก๋งเชฟโรเลตสีขาว ทะเบียน 5 กม 1146 กรุงเทพมหานคร ของแอม มาตรวจหาความผิดปกติหรือหาสารพิษภายในรถ เป็นรถ 1 ในคันต้องสงสัยที่มีบุคคลปริศนาขับมารับแอม ที่จ.อุดรธานี กลับมาที่ จ.นครปฐม ในคืนวันที่ “แด้” อดีตสามี แอมได้เสียชีวิต นอกจากนี้เมื่อวันที่ 27 เม.ย.กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเป็นร้านนวดแผนไทยที่บางแพ พบหลักฐานหลายรายการ รวมไปถึงพี่น้องต่างมารดาได้ให้การที่เป็นประโยชน์ ส่วนสามีเก่าแอมที่รับราชการตำรวจอยู่ในขณะนี้ มีคำสั่งไปช่วยราชการแล้ว ทั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมกับตำรวจนายนี้ด้วย ในส่วนของพื้นที่ภาค 7 ขณะนี้มีคดีที่เกี่ยวพันกับแอมทั้งหมด 6 คดีแล้ว

...

แม่ “ทราย” ยินดีให้ข้อมูล

ส่วนกรณีการตายของ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย ขาวอินทร์ อายุ 37 ปี 1 ในคนใกล้ชิดแอม สาวผู้ต้องหาเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 7 ก.ค.58 แพทย์ระบุสาเหตุเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ครอบครัวยังคาใจในสาเหตุการตายตามที่เป็นข่าว ในบ่ายวันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 1 ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร ตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้ไปพบนางลัดดา ขาวอินทร์ อายุ 64 ปี แม่ น.ส.มณฑาทิพย์ ไปให้ข้อมูลกับตำรวจชุดทำคดีที่กรุงเทพฯ นางลัดดากล่าวว่า ยินดีที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปคดี ยินดีจะพูดทุกเรื่อง แต่เจ้าหน้าที่ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้ตนถึงที่สุด ส่วนเรื่องปมเงิน 50 ล้านบาท ที่อดีตสามีฝรั่งโอนเงินมาให้ตนนั้นไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยได้ยินจากปากลูกว่าสามีฝรั่งโอนเงินมาให้ สามีลูกสาวเป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมด สำหรับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่ในบ้านลูกสาว ทราบว่า แอมเป็นคนนำ เอาไปประมูลขาย ตอนนั้นแจ้งกับตนว่า “ปีเตอร์” สามีลูกสาวเป็นคนบอกให้นำไปประมูล ซึ่งแอมได้จัดการไปทั้งหมด

แพทย์วิเคราะห์เป็นไซโคพาธ

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยถึงการลงมือก่อเหตุของ “แอมไซยาไนด์” เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง หรือ ไซโคพาธ (Psychopath) หรือไม่ว่า แพทย์ไม่สามารถมองใครแล้วบอกว่าเป็นโรคอะไรได้ เพราะผิดจรรยาบรรณแพทย์ การจะวินิจฉัยได้ก็ต่อเมื่อมีการซักประวัติตรวจสุขภาพแล้ว ย้ำว่าจิตแพทย์ไม่สามารถนำข้อมูลผู้ป่วยมาถ่ายทอดสู่สาธารณะ หากวิเคราะห์พฤติกรรมตามที่สื่อถ่ายทอดมา ถ้ามีการวางยาหวังทรัพย์ ไม่คำนึงชีวิตผู้เสียหายนั้น ในมิติจิตเวชเรียกเป็นนิสัย เพียงแต่มีลักษณะของบุคคลนั้นๆเรียกว่า ไซโคพาธ ปัจจุบันใช้คำว่าบุคลิกภาพต่อต้าน สังคม (Antisocial) หมายถึงผู้ที่ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่น

ทำลายชีวิตคนอื่นเพื่อตัวเอง

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า บุคคลนั้นจะใช้ความปรารถนาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เช่น โกรธแล้วทำลายล้าง ทำให้คนอื่นเป็นทุกข์เพื่อระบายความโกรธ หรืออยากได้ทรัพย์สินอยากได้ความสัมพันธ์ทางเพศก็สามารถทำลายชีวิตคนอื่นเพื่อความปรารถนาของตัวเอง แม้จะเป็นบุคลิกภาพที่ไม่ใช่โรค แต่มีผลต่อการเกิดโรคทางจิตเวชเพราะการมีบุคลิกผิดปกติปรับตัวยากก็ก่อให้เกิดโรคทางจิตเวชบางอย่าง แล้วไปหนุนบุคลิกภาพนั้นให้รุนแรงขึ้น การจะมองว่าเป็นโรคทางจิตเวชหรือเป็นเพียงพฤติกรรม จะต้องดูว่าอารมณ์ที่เป็นปัญหานั้นทำให้เขาไม่สามารถทำหน้าที่ หรือดำเนินชีวิตปกติได้ เช่น ทำงานกับใครไม่ได้ ใช้ชีวิตกับคนอื่นไม่ได้ ไปจนถึงการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย กระทบศีลธรรม หรือใช้สารเสพติด

ญาติเหยื่อ “แอม” ออกแฉซ้ำ

วันเดียวกันรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้นำ ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต สามีของ “หนิม” แม่ลูกอ่อนผู้เสียชีวิตจากน้ำมือของฆาตกรสาวใจทมิฬ รวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตรายอื่นๆอาทิ คุณยายของ“แด้” สามีคนล่าสุดของแอม รวมถึงนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเรื่องนี้ และ อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวนมาร่วมรายการด้วยและเป็นอีกครั้งที่ผู้ชมรายการต้องหลั่งน้ำตาด้วยความสะเทือนใจจากเคสของ “หนิม” ที่ต้องจากลูกน้อย 2 คนไปอย่างไม่รู้ตัว จากน้ำมือคนใจอำมหิต

ด.ต.ร่ำไห้เมียตายต่อหน้าลูก

ด.ต.นิติพนธ์ สามีผู้สูญเสียภรรยาจากน้ำมือหญิงใจโหด เล่าเรื่องราวอย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มแรกที่ภรรยาไปรู้จักกับแอมจากการเล่นแชร์ จนถึงวันที่ภรรยาเสียชีวิตหลังจากแอมส่งยาลดน้ำหนักมาให้ ครั้งแรกทานไม่ได้เพราะแคปซูลละลาย และถูกส่งมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 พ.ย.65 แต่ไม่ทราบว่าภรรยาได้ทานหรือไม่ คาดว่าทานเพราะภรรยาเสียชีวิตในวันเดียวกับที่ยามาถึง ก่อนเสียชีวิตได้อาเจียนพร้อมกับร้องเรียกชื่อตน ทุกวันนี้ยังคิดเสมอว่าช่วยภรรยาช้าไปหรือเปล่า เมื่อเล่าถึงตอนนี้ ด.ต.นิพนธ์ถึงกับร่ำไห้พร้อมหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวดใจและจุกในอกที่ไม่สามารถช่วยชีวิตภรรยาที่ต้องหมดลมหายใจสุดท้ายไปต่อหน้าลูก 2 คน ขณะที่หนุ่ม-กรรชัย มีใบหน้าเศร้าสลดและเม้มปากเหมือนกลั้นความรู้สึกจุกในอกและสะเทือนใจในเหตุการณ์ ได้เอื้อมมือมาจับมือ ด.ต.นิพนธ์พร้อมบีบมือเป็นการปลอบใจ ช็อตนี้ทำให้ผู้ชมรายการต่างพากันหลั่งน้ำตาตามด้วยความรู้สึกสะเทือนใจและบีบหัวใจยิ่งนัก ในเพจรายการโหนกระแสมีคนเข้ามาแสดงความเห็น เห็นใจ ด.ต.นิพนธ์กันจำนวนมาก

ลูก 5 ขวบ นั่งข้างศพแม่

ด.ต.นิพนธ์ยังกล่าวในรายการอีกว่า ตอนแรกเข้าใจว่าภรรยาจากไปด้วยเรื่องสุขภาพ หัวใจล้มเหลวเพราะเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก เข้าใจอย่างนั้นมาตลอด วันที่ภรรยาเสียชีวิต ลูกชายคนโตที่ยังเด็กเพียง 5 ขวบ นั่งอยู่ข้างๆแม่โดยไม่รู้เรื่องอะไร ส่วนลูกสาวที่เพิ่งคลอดได้เดือนเดียวก็นอนหลับอยู่ มันหดหู่จริงๆ ถ้าเกิดจากฝีมือคนนี้ มันโหดร้ายและบีบหัวใจมาก ลูกชายตอนแรกไม่รู้เดียงสาแต่พอเวลาผ่านไปเดือนสองเดือน เขาเริ่มรู้ว่าแม่จากไปไม่กลับมาแล้วก็ร้องไห้คิดถึงแม่เพราะภรรยาจะอยู่กับลูกไม่เคยห่าง นอนกอดลูกตลอด ส่วนลูกคนเล็กได้กินนมแม่เพียง 1 เดือน เดือนต่อมากินนมผง มีงอแงบ้างในช่วงปรับเปลี่ยนการดื่มนม ลูกตนอายุเพียง 1 เดือน หมดโอกาสเห็นหน้าแม่ไปตลอดชีวิต

ก.ม.ชัด “หญิงท้องประหารไม่ได้”

กรณีมีกระแสสงสัยว่านางแอมตั้งครรภ์จะรับโทษประหารได้หรือไม่ วันเดียวกัน นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ความจริงมีกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเขียนชัดเจนแล้วในมาตรา 247 วรรคแรกว่า คดีที่จำเลยต้องโทษประหารชีวิต ห้ามมิให้บังคับตามคำพิพากษาจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยอภัยโทษแล้ว และในวรรคสองบอกว่า “หญิงใดต้องโทษประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนพ้นกำหนดสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต เว้นแต่บุตรถึงแก่ความตายก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนี้เลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถานที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรในเรือนจำ” กล่าวคือถ้าคลอดบุตร กฎหมายกำหนดให้ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งสภาพนางแอมตอนนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลเห็นได้เองโดยพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการไม่ต้องแถลงศาลใช้อำนาจตามมาตรานี้ได้อยู่แล้ว

ยธ.ศรีสะเกษเยี่ยมพ่อแม่เหยื่อ

บ่ายวันเดียวกัน ว่าที่ ร.ต.สุทิน ไชยวัฒน์ ยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 117 บ้านค้อปอ หมู่ 5 ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและให้คำแนะนำถึงสิทธิที่ควรจะได้รับกับนายเกิด แก้วบุปผา อายุ 66 ปี และนางสุพิศ แก้วบุปผา อายุ 69 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.นิตยา แก้วบุปผา อายุ 36 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2563 ที่ จ.นครปฐม โดยขณะนั้นแพทย์ได้ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจล้มเหลว

แจ้งสิทธิรับค่าเยียวยา

ว่าที่ ร.ต.สุทิน ไชยวัฒน์ ผอ.สำนักงานยุติธรรม จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ได้เยี่ยมผู้เสียหายเพื่อแจ้งสิทธิค่าเสียหายที่จะต้องได้รับการเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม คือค่าจัดการงานศพ 2 หมื่นบาท ค่าเสียหายจากการที่ถูกบุคคลอื่นทำให้ถึงแก่ความตาย 5 หมื่นบาท และค่าประโยชน์รายได้อีก 4 หมื่นบาท รวมทั้งสิ้น 110,000 บาท เป็นสิทธิที่ทางผู้เสียหายจะได้รับ พร้อมกันนี้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษยังจะได้ประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนช่วยเหลือเพื่ออำนวยความยุติธรรมอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องของการเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี

ไปแจ้งความนครปฐม 2 พ.ค.

ผอ.สำนักงานยุติธรรม จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีดังกล่าวขาดอายุความหรือไม่นั้น จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ไปแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากคดีนี้สาเหตุการเสียชีวิตในขณะนั้น แพทย์ได้ลงความเห็นว่า เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย หัวใจล้มเหลว แต่พอพบพยานหลักฐานว่าเกิดจากการกระทำของคนอื่น เมื่อผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ก็จะเริ่มนับอายุความตั้งแต่วันที่แจ้งความ ผู้เสียหายจะไปแจ้งความที่ สภ.นครปฐม ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ ในส่วนของผู้ต้องหาหรือผู้กระทำความผิด หากพบว่ามีทรัพย์สินหรือมีส่วนอื่น ทางยุติธรรมจังหวัดก็มีกองทุนที่จะจ้างทนายความเรียกร้องค่าเสียหายให้แล้วแต่กรณีอีกด้วย

ลดโทษเหลือคุกตลอดชีวิต

ด้านว่าที่พันตรี ดร.สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ อดีตเลขาธิการสภาพทนายความเผยว่า มีประเด็นว่า “แอม” มีครรภ์ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ถ้าศาลพิพากษาลงโทษจำคุก มาตรา 246 ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป เมื่อจำเลยวิกลจริต หรือถ้าจำเลยมีครรภ์ หรือถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงสามปี และจำเลยต้องเลี้ยงดูบุตรนั้น ถ้าศาลพิพากษาประหารชีวิต มาตรา 247 วรรคสอง หญิงใดจะต้องประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนพ้นกำหนด 3 ปีนับแต่คลอดบุตรแล้ว ให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต เว้นแต่เมื่อบุตรถึงแก่ความตายก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนั้นเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถานที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรภายในเรือนจำระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนั้นเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถานที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรภายในเรือนจำ