แม่-พ่อเลี้ยงรับศพ "จีจี้ สุพิชชา" เน็ตไอดอลเหยื่อแฟนหนุ่ม นตท.ปืนโหดที่ รพ.รามาฯ แม่เผยยังคาใจ พ่อนายอิคคิวให้ลูกพกปืน พยายามเตือนไม่อยากให้ลูกคบเพราะหัวรุนแรง ฝากตำรวจดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเจรจาครอบครัวฝ่ายชาย เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดความสูญเสีย

กรณี นตท.ภูมิพัฒน์ หรืออิคคิว ชัยวณิชยา อายุ 18 ปี นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 65 และเป็นประธานนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 65 ลูกชาย พล.อ.สมชาย ชัยวณิชยา อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการกองทัพไทย ใช้อาวุธปืนยิงศีรษะ น.ส.สุพิชชา หรือจีจี้ ปรีดาเจริญ อายุ 22 ปี เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง เสียชีวิตและยิงศีรษะตัวเองตายตาม หลังมีปัญหาทำร้ายฝ่ายหญิงและเลิกคบกันไป เหตุเกิดที่ห้องเลขที่ 1678/78 ชั้น 14 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ใกล้แยกอโศกเพชร ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 20 เมษายน 2566 ที่ห้องสุดท้ายแผนกนิติเวช รพ.รามาธิบดี น.ส.ชุติกาญจน์ ธีระโรจนพงษ์ อายุ 44 ปี พร้อมด้วยนายกีรติ อาจหาญ อายุ 39 ปี มารดาและพ่อเลี้ยงเดินทางเข้ารับศพ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ จีจี้ เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา โดยมารดาของน้องจีจี้นำชุดเสื้อผ้าของจีจี้มาเปลี่ยน ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีญาติของ นตท.ภูมิพัฒน์ หรืออิคคิว เดินทางมาติดต่อขอรับศพแต่อย่างใด

น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าวว่า ตนยังติดใจเรื่องพ่อของนายอิคคิวที่ให้ลูกพกอาวุธปืน ตนรับรู้ว่าลูกคบกับนายอิคคิว แต่ได้เลิกรากันไปแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะกลับมาคบกัน แต่ครั้งนี้ตนพยายามเตือนลูก เพราะเป็นห่วง น้องจีจี้ก็ไม่พูดความจริงว่ามีการทำร้ายร่างกาย แต่ช่วงหลังน้องกลัวแม่จะเป็นห่วง บอกว่าคบกันดี ปกติ แต่เพื่อนของจีจี้จะรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นฝ่ายพ่อแม่น้องจีจี้ และฝั่งพ่อแม่นายอิคคิว มีการติดต่อกันตลอด เพราะไม่อยากให้ลูกคบกัน แต่ด้วยความที่เด็กทั้งสองคนดื้อพยายามจะคบกันให้ได้ ส่วนตัวตนไม่อยากให้คบ เนื่องจาก นายอิคคิวเป็นคนที่อารมณ์รุนแรงชอบยิงปืน มักไปยิงปืนเป็นประจำ ตนจึงกลัวว่าวันหนึ่งพกปืนมาแล้ว หากทะเลาะกันในห้องระหว่างอยู่กันลำพังสองคน โดยที่ไม่มีใครห้าม ตนก็เคยเตือนลูกไปแล้ว อาจเกิดเหตุร้ายได้ แต่น้องจีจี้ ตอบว่าไม่มีหรอก

...

น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นครอบครัวของนายอิคคิวได้มาขอโทษ มีการคุยกัน แต่ตนขอรับศพลูกให้เสร็จก่อน ตนก็เข้าใจในความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ต้องเสียลูกไปเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุมีการโทรติดต่อกันตลอดกับครอบครัวอิคคิวเนื่องจากติดต่อลูกไม่ได้ ตั้งแต่คืนก่อนเกิดเหตุ โดยปกติน้องจีจี้จะอ้างว่าอีก 3-4 ชั่วโมงจะโทรกลับ แต่มาครั้งนี้ผ่านไปหลายชั่วโมงไม่อ่านไลน์ จนมาถึงช่วงประมาณเที่ยง ตนเอะใจ รีบขับไปดู แต่ระหว่างนั้นก็พูดคุยกับพ่อแม่ฝั่งนายอิคคิวตลอด ทางบ้านอิคคิวก็บอกกับตนว่าติดต่อนายอิคคิวไม่ได้เช่นกัน พยายามให้ตนโทรหาน้องจีจี้ให้ได้ ตนก็ไม่ได้สังหรณ์ใจอะไร เนื่องจากว่าน้องจีจี้ มักบอกกับตนว่าคุยกันดีมีความสุขดี จนมาทราบจากเพื่อนของจีจี้ว่าหลังๆ น้องเริ่มกลับมาทะเลาะกับอิคคิวอีก

น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าวต่ออีกว่า มันเป็นความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ตนพยายามห้ามลูกสาว ตนพูดอะไรไม่ออก ส่วนเรื่องอื่น เรื่องคดีความค่อยคุยที่หลัง แต่ตอนนี้ ต่างคนก็ส่งลูกไปขึ้นสวรรค์ก่อน อยากบอกกับน้องจีจี้ว่า

"หนูไปสบายแล้วนะไปเกิดเป็นนางฟ้านะลูก ให้ลูกหมดห่วง แม่ก็จะทำให้ดีที่สุด พยายามส่งศพน้องไปให้ดีที่สุด" ส่วนการก่อเหตุเรื่องของบุคคลที่ 3 นั้นตนยืนยันว่าไม่มีแน่นอน เพราะเป็นเรื่องที่สองคนทะเลาะกัน ปกติมักทะเลาะกันเป็นประจำ และจะทำร้ายร่างกายกัน ส่วนสาเหตุ น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง และเกิดจากความอารมณ์ร้อน ส่วนอิคคิวมีอาการป่วยหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่พ่อแม่ของอิคคิว เคยบอกกับตนว่า เอาอิคคิวไม่อยู่ เพราะเลี้ยงลูกแบบตามใจ ทำให้ระงับอารมณ์ลูกไม่อยู่

น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนอาวุธปืนที่นายอิคคิวใช้ ตนคิดว่าเมื่อซ้อมยิงปืนเสร็จพ่อนายอิคคิวน่าจะเอาปืนกลับบ้าน ตนไม่คิดว่าจะพกปืนออกมาแบบนี้ได้ ส่วนใหญ่จีจี้ก็ได้ไปฝึกยิงปืนกับนายอิคคิวด้วย ล่าสุดหลังสงกรานต์จีจี้ก็ได้ฝึกยิงปืนกับนายอิคคิวด้วย แต่คิดว่าหลังฝึกยิงคงให้คนขับรถนำปืนไปเก็บไว้ที่บ้านไม่คิดว่าจะพกมาแบบนี้

สุดท้าย ตนอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา หากจะให้เจรจาก็ยอมได้เพราะก็ไม่อยากให้ใครสูญเสีย ตั้งแต่ลูกคบกันก็มีการคุยกันดีมาตลอด และก็ไม่ยินยอมให้ลูกมาคบกัน แต่ถ้าคุยกันแล้วไม่ลงรอยก็ค่อยว่ากันอีกเรื่อง ทั้งนี้ภายหลังรับศพน้องจีจี้แล้วจะนำพระสงฆ์ไปสวดอัญเชิญวิญญาณ บริเวณจุดเกิดเหตุ คอนโดย่านอโศก ก่อนจะนำร่างของ น.ส.สุพิชชาไปตั้งสวดอภิธรรม ที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ด้านนายกีรติ พ่อเลี้ยง น.ส.สุพิชชา กล่าวว่า พ่อยังคงคาใจกับประเด็นเรื่องอาวุธปืนที่อยู่ในที่เกิดเหตุว่า เหตุใดนายภูมิพัฒน์ มีอายุเพียง 18 ปี ถึงมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองได้อย่างไร ตนถามประเด็นนี้กับพนักงานสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่า ปืนที่อิคคิวใช้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นปืนที่ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่บอกว่าใครเป็นเจ้าของอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว พ่ออยากได้รับคำตอบจากตำรวจว่า เจ้าของปืนคือใครและไม่รู้ว่าจะไปสอบถามใคร อยากขอให้สื่อมวลชนสอบถามตำรวจที่เกี่ยวข้องว่า เจ้าของปืนนี้มีความผิดหรือร่วมรับผิดชอบกับการก่อเหตุครั้งนี้ด้วยหรือไม่ เพราะพ่อเป็นเพียงประชาชนตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป อยากได้รับคำตอบเพื่อความยุติธรรมแก่ลูกสาวของตัวเอง