"น้องดิว" เด็กชายวัยขวบเศษ เหยื่อพี่เลี้ยงโหดทำร้ายสาหัส แพทย์สุดยื้อเสียชีวิตแล้ว แม่เล่าเหตุการณ์หลังรู้ลูกเจ็บหนัก ด้านพี่เลี้ยงจำนนต่อหลักฐาน อ้างเด็กงองแง จึงพลั้งมือจับหัวโขกพื้น 3 ครั้ง-ไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.66 จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส.วนิดา รักษาบุญ อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี ขณะเดินทางไปรอดูอาการป่วยของ ด.ช.ธนากร รักษาบุญ (น้องดิว) อายุ 1 ขวบ 2 เดือน ลูกชายที่ รพ.สระบุรี ซึ่งถูกส่งตัวมาจาก รพ.หนองแค ด้วยอาการหมดสติไม่รู้สึกตัว ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.66 โดยอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ ICU
จากการสอบถาม น.ส.วนิดา รักษาบุญ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ระหว่างเตรียมหางานทำในเขตอำเภอหนองแค แต่ตนมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกชาย เนื่องจากตนเลิกกับสามีตั้งแต่น้องดิวอยู่ในครรภ์ จึงเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีคนแนะนำให้นำน้องดิวไปฝากเลี้ยงที่สถานรับเลี้ยงเด็ก บ้านของ นางสิริยาพร โล่สุวรรณ อายุ 33 ปี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี จึงทดลองนำน้องดิวไปฝากเลี้ยงเป็นรายวันเมื่อ 3 วันก่อน วันละ 150 บาท หากผ่านไม่มีปัญหาอะไรจะฝากเลี้ยงเป็นรายเดือนต่อไป เพราะตนจะต้องเข้าทำงาน
น.ส.วนิดา เล่าต่อว่า สองวันแรกเหตุการณ์ปกติไม่มีอะไร แต่วันที่สาม (8 ก.พ.66) ตนนำลูกไปฝากเลี้ยงไว้ในช่วงบ่าย ต่อมาไม่นานตนได้รับการติดต่อจาก นางสิริยาพร (พี่เลี้ยง) ว่า ลูกชายมีอาการผิดปกติ ตัวเกร็ง มีเลือดไหลออกมาทางปาก และนอนกัดลิ้นตัวเอง พร้อมแชทไลน์และถ่ายภาพอาการลูกชายมาสอบถามอาการจากตน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินทางไปที่บ้านรับเลี้ยงเด็ดดังกล่าว พบว่าอาการลูกชายหนักมาก ไม่รู้สึกตัว ตามตัวมีรอยฟกช้ำ ตนจึงรีบอุ้มลูกไปส่ง รพ.หนองแค เมื่อแพทย์ตรวจดูอาการเบื้องต้น จึงรีบปฐมพยาบาลใส่เครื่องช่วยหายใจ และรีบนำตัวส่งต่อมารักษาที่ รพ.สระบุรี ทันที
...
"แพทย์ รพ.สระบุรี นำลูกเข้าเครื่องสะแกนสมอง และตรวจดูอาการอื่นๆ แล้วนำกลับมารักษาในห้อง ICU โดยแจ้งให้ตนทราบถึงอาการลูกว่า สมองบวม อาการค่อนข้างวิกฤติ มีเลือดออกที่ตา ส่วนตามร่างกายมีรอยช้ำบวม ซึ่งแพทย์ขอให้ตนทำใจ ที่น้องอยู่ได้ตอนนี้ เพราะเครื่องช่วยหายใจและยา โอกาสที่ลูกจะกลับมามีเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ตนรู้สึกข้องใจมาก เพราะลูกร่างกายปกติ ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สถิตย์พงษ์ ศรีอ่อน รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองแค เพื่อให้ตรวจสอบหาพยานหลักฐาน จากบ้านรับเลี้ยงเด็กของ นางสิริยาพร ว่า เกิดเหตุอะไรขึ้นกันแน่กับลูกชาย" แม่น้องดิว กล่าว
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นางสิริยาพร (พี่เลี้ยง) มาสอบสวนที่ สภ.หนองแค โดยใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง จนนางสิริยาพรทนแรงกดดันไม่ไหว จึงยอมจำนนต่อหลักฐาน โดยให้การว่า หลังจากที่แม่น้องดิวนำมาส่งได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าน้องดิวได้ร้องไห้งอแงตลอดเวลาไม่ยอมหยุด เนื่องจากเด็กไม่คุ้นชิน อีกทั้งเด็กใช้หัวโขกพื้นด้วย ตนจึงพยายามเกลี้ยมกล่อมอยู่นาน แต่เด็กก็ยังไม่หยุดร้อง จึงพลั่งมือจับหัวเด็กโขกไปที่พื้น 3 ครั้ง โดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่คิดว่าน้องจะได้รับผลกระทบถึงขนาดนี้
ด้าน พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค เปิดเผยว่า จากแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า เผลอตัวทำร้ายเด็กจริงโดยไม่คิดว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติ หมายศาลเพื่อจับกุมตัวนางสิริยาพรแล้ว เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา "ทำร้ายร่างกายอันก่อให้เกิดอันตรายถึงสาหัส และทารุณกรรมต่อร่างกาย หรือจิตใจของเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก" เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ จากการสืบค้นประวัติพบว่า นางสิริยาพร ยังเคยต้องโทษในคดี "ฉ้อโกงเรื่องหน้ากากอนามัย" เมื่อปี 2564 ด้วย ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ.) น.ส.วนิดา แม่น้องดิว ได้โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด ระบุว่า "พรุ่งนี้กลับบ้านกันนะลูก กลับกาฬสินธุ์กับแม่นะน้องดิว ไม่มีปาฏิหาริย์อยู่จริง" ซึ่งน้องดิวได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 12.12 น.วันนี้ ต่อมาทีมแพทย์ได้ส่งศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง ตามขั้นตอนกฎหมาย ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ องค์รักษ์ จ.นครนายก หลังชันสูตรเสร็จทางครอบครัวจะนำศพน้องดิวกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดบูรพาโคกล่าม โคกอุดม ต.หัวหิน อ.หัวเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นจะนำร่างไปฝังไว้ก่อน จนกว่าน้องดิวจะอายุ 10 ขวบ ตามความเชื่อของทางครอบครัว ส่วนเรื่องทางด้านคดีความนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอผลชันสูตรศพออกมาก่อน จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ต่อไป