อาจารย์เจ ร่างทรงคนดัง เดินทางมาบ้านเกิดเหตุ น้องต่อ เด็ก 8 เดือน หายที่บางเลน นครปฐม ชี้เด็กถูกอุ้มไปทางซอยตรงข้ามบ้าน ยังอยู่ใน จ.นครปฐม แต่พรุ่งนี้จะถูกพาไปที่อื่นโดยรถเก๋งสีขาว คนพาไปรู้จักทั้งพ่อและแม่เด็ก ด้านผู้การฯ เผยมีความคืบหน้าพอสมควร ผู้ต้องสงสัย 2-3 คน รู้จักเกี่ยวข้องกับ "นิ่ม" แม่เด็ก
เวลา 10.30 น. วันที่ 9 ก.พ. นายจักรรินทร์ รังสิมันตุ์ธนากร หรืออาจารย์เจ ร่างทรงคนดัง เดินทางมาที่บ้านของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือนที่กายตัวไปอย่างมีปริศนาจากบ้านใน ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม อาจารย์เจ บอกว่าขอมาให้เห็นกับตาหน่อยเถอะ การเดินทางมาในวันนี้มีเจตนาจะมาช่วยคลี่คลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากตัวเองได้รับการติดต่อจากมูลนิธิ มูลนิธิหนึ่ง และรู้สึกสงสารสื่อมวลชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่
“จากที่สัมผัสทางซิกเซนส์ ขอยืนยันว่าน้องต่อยังมีชีวิตอยู่ และยังอยู่ในจังหวัดนครปฐม แต่คนร้ายจะมีการเคลื่อนย้ายน้องต่อออกจากพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ โดยรถยนต์คันสีขาว และบุคคลที่นำไปเป็นบุคคลที่รู้จักกับทั้งพ่อและแม่ของน้องต่อ ซึ่งบุคคลคนนี้เคยเห็นความน่ารักของน้องต่อ โดยวันที่ชายคนก่อเหตุมาพาตัวเด็ก วันนั้นเขาสวมเสื้อสีครีมไปโทนเหลือง และใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นเหนือเข่า วัยกลางคน ไม่ท้วม โดยการมาในครั้งนี้มีเจตนาเพื่อมาเอาเด็กโดยเฉพาะ เส้นทางที่พาน้องหลบหนี ตรงกันข้ามกับเส้นทางที่ตำรวจกำลังค้นหา”
โดยอาจารย์เจอ้างว่า เส้นทางที่คนร้ายนำตัวเด็กออกจากบ้าน คือเส้นทางเดินไปทางซอยตรงข้ามบ้านหลังเกิดเหตุ เพื่ออ้อมเลาะคันดินกั้นน้ำ มีสภาพเป็นป่ารกร้างก่อนจะลัดออกมายังบริเวณสะพานและมุ่งหน้าไปทางวัดศิลามูล ซึ่งข้อมูลที่ตัวเองสัมผัสได้ล่าสุดน้องอยู่ห่างจากตัวบ้านไปไกลกว่า 30 กิโลเมตร ส่วนเลขที่ตัวเองเห็นขณะนั่งกรรมฐานอยู่ ปรากฏเป็นเลข 1222 และเห็นลูกอม 32 เม็ด ซึ่งคิดว่า คืออายุของคนที่พาตัวเด็กไป โดยวันนี้จะลงพื้นที่ไปดูจุดที่คิดว่าคนก่อเหตุนำตัวเด็กหนีไป”
...
ต่อมาเวลา 16.43 น. พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ที่ สภ.บางหลวง ระบุว่า เบื้องต้นคดีมีความคืบหน้าไปมาก สามารถจำกัดวงผู้ต้องสงสัยเหลือเพียง 2-3 คน ซึ่งเป็นคนที่รู้จักและเกี่ยวข้องกับ นิ่ม แม่ของน้องต่อ ไม่ใช่คนในครอบครัว ยอมรับว่าคดีมีความยากลำบาก เพราะคำให้การของแม่เด็กยังไม่ชัดเจนว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีพยานที่เห็นเหตุการณ์เพียงปากเดียว ที่ให้การว่าเห็นชายต้องสงสัยในที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้เห็นขณะเกิดเหตุ รวมถึงบริเวณดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด
ส่วนชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบบุคคล ซึ่งตำรวจนำหลักฐานทุกชิ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ประเด็นที่ อ.เจ มาสำรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุ และกล่าวอ้างว่า เด็กยังอยู่ในรัศมี 30 กิโลเมตร ประเด็นนี้ ผู้การ จ.นครปฐม ระบุว่า เป็นเรื่องปกติที่ต้องตรวจสอบ แม้ไม่มีใครมาบอก โดยจะเน้นการตรวจสอบไปทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนเรื่องความเชื่อ ไม่สามารถนำมาใส่ในสำนวนคดีได้
“หลักฐานที่มีตอนนี้ ยังไม่เพียงพอเท่าไรนักเพราะ คนร้ายไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ในที่เกิดเหตุเลย ยอมรับว่า คดีนี้ เป็นที่สนใจ ของประชาชน ส่วนตัวยังเชื่อว่า เด็กน่าจะยังมีชีวิตอยู่ จึงฝากไปถึงคนที่นำเด็กไป ให้รีบนำมาคืน เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่มีโทษทางกฎหมายแน่นอน ส่วนประเด็น การซื้อขายเด็ก ยังคงไม่ตัดทิ้ง ต้องรอหลักฐานเพิ่มเติมจากอีกหลายฝ่าย แต่เบื้องต้นก็ไม่พบหลักฐานที่จะสื่อไปในทำนองนั้น"
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุย กับ"ลุงแจ้" อายุ 55 ปี เพื่อนสนิทพ่อของนิ่ม หลังถูกตำรวจเชิญไปให้ปากคำ และไล่ตามกล้องวงจรปิดยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องนิ่มเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ก่อนท้อง แต่มีการป้องกันโดยการสวมถุงยาง มั่นใจว่าน้องต่อไม่ใช่ลูกตน ยอมรับว่ามีการช่วยเหลือเรื่องเงินทองบ้านเล็กๆน้อยๆเ พราะว่าไม่ค่อยมีจะกินเหมือนกัน นิ่มมาขอเงินบ่อยก่อน จะไปหาพ่อและแม่ที่บ่อปลาในเขตพื้นที่อำเภอนครชัยศรี สาเหตุที่ต้องไปหาแม่บ่อยเพราะว่าแม่ป่วยติดเตียง ต้องให้อาหารทางสายยาง
พร้อมยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะวันเกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านตลอด ไม่ได้ไปไหน