"ชูวิทย์" แฉยับ "ขบวนการด่านรีดไถ" ขาดรายได้หลังบ่อนถูกปิด อ้าง "นครบาล 88 สน." ตั้งเป้านำเงินส่ง "นาย" โรงพักละ 1 แสนบาทต่อวัน หรือ 3 ล้านบาทต่อเดือน "จราจรกลาง" ก็ด้วย วันละ 20 ด่าน
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่เดอะล็อบบี้ โรงแรมเดวิส ซ.สุขุมวิท24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวร่วมกับนายสกาย อายุ 32 ปี ชาวสิงคโปร์ พยานสำคัญคดีดาราสาวไต้หวัน เสร็จสิ้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังได้เปิดเผยถึงขบวนการด่านรีดไถ โดยระบุว่า เป็นขบวนการที่เกิดขึ้นในยุคของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.คนปัจจุบัน
โดยระบบของด่านรีดไถนั้น ไม่ใช่ว่าตำรวจรีดไถเงินจากประชาชน หรือนักท่องเที่ยวแล้ว เงินจะเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่เป็นการที่ต้องรีดไถเงิน เพื่อนำเงินลงกองกลางนำส่งนายคือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
โดยด่านจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกด่านของนครบาล จำนวน 88 สถานีตำรวจ ต้องส่ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งเป้าเอาไว้ให้รีดไถให้ได้สถานีตำรวจละ 1 แสนบาทต่อวัน หรือ 3 ล้านบาทต่อ 1 เดือน ดังนั้นในพื้นที่นครบาลมีทั้งหมด 88 สถานีตำรวจ จะมีเงินที่ส่งให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทั้งหมดเดือนละ 264 ล้านบาท
ส่วนที่ 2 คือ ด่านของตำรวจจราจรกลาง ที่มีประมาณวันละ 20 ด่าน แต่ละวันต้องรีดไถเงินให้ได้ 1 แสนบาท คิดเป็นวันละ 2 ล้านบาท ดังนั้น จะมีเงินที่ส่งให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลเดือนละ 60 ล้านบาท
รวม 2 ส่วน จะมีเงินที่ส่งให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลเดือนละ 324 ล้านบาท ซึ่งขบวนการด่านรีดไถที่เกิดขึ้น เนื่องจากบ่อนต้องปิด ทำให้ต้องหารายได้จากการตั้งด่านมาทดแทน
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า อัตราการเรียกรับผลประโยชน์หรืออัตราการรีดไถ ซึ่งจะแตกต่างไปตามกรณีการกระทำความผิดต่างๆ อาทิ ปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด เรียกรับ 3 หมื่นบาท ตรวจพบปัสสาวะม่วง เรียกรับ 1 แสนบาท ตรวจพบยาเสพติด เรียกรับ 3-5 แสนบาท บุหรี่ไฟฟ้า เรียกรับ 3 หมื่นบาท
...
ขอฝากให้ นายกรัฐมนตรี ให้ลงมาจัดการเรื่องนี้ อย่าให้มีด่านรีดไถ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ถ้ายังไม่ทำ ตนก็จะเปิดโปงต่อไปเรื่อยๆ.