รองป๋อ นำกำลัง ศอ.ปส.รวบหนุ่มไรเดอร์ขี้ยาข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 14 ปี เลียนแบบหนังโป๊ ยาวนานกว่า 2 ปี ซ้ำร้ายกระทำต่อหน้าน้องสาววัย 8 ปี จนเด็กหนีออกจากบ้านไปขอครูช่วย เจ้าตัวอ้างเสพยาอารมณ์พาไป
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2565 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ศอ.ปส.ตร.ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง พ.ต.ท.นรามินทร์ เทพจักรินทร์ ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น จ.ส.ต.กฤศณัฎฐ์ ปวริศอัศวกุล ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกับชุด ศอ.ปส.ตร. และชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว
นายวิเชียร (สงวนนามสกุล) หรือตี๋ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 636 ถ.จันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 715/2565 ลงวันที่ 10 พ.ย. 65 ความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี” จับกุมตัวได้ที่ ริมถนนพลับพลาไชย ข้างวัดเทพศิรินทร์ แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้รับร้องเรียนการแพร่ระบาดของยาเสพติดละแวก ถ.ประชาอุทิศ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร และพ่อติดยาบ้าข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 14 ปี ต่อหน้าลูกวัย 8 ปี จึงนำกำลังชุด ศอ.ปส.ตร.ชุดที่ 5 ลงพื้นที่สืบสวนตรวจสอบ โดยได้พบกลุ่ม “ไรเดอร์” เป็นทั้งคนวิ่งส่งของและกลุ่มผู้เสพ ซึ่งต่อมาได้ติดตามพบว่า นายวิเชียร (สงวนนามสกุล) หรือตี๋ อายุ 42 ปี มีพฤติกรรมเสพยาจนกระทั่งลงมือก่อเหตุ “ข่มขืนบุตรสาวตนเอง” จึงได้สืบสวนโดยละเอียดจนทราบว่า นายวิเชียรพักอาศัยอยู่ภายในห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งย่านซอยประชาอุทิศ 33 แยก 6 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบตัวนายวิเชียร
...
แต่ได้ทราบว่าโดยปกติภายในห้องพักจะพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 8 ปี น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 30 ปี, นายวิเชียร (สงวนนามสกุล) หรือตี๋ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา โดยตรวจสอบแล้วความสัมพันธ์ทั้ง 4 คน ที่พักอาศัยนั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน โดย น.ส.พร เป็นมารดาแท้ๆของเด็กสาวทั้ง 2 คน แต่ นายวิเชียร เป็นบิดาแท้ๆ ของ ด.ญ.บี เท่านั้น กล่าวคือ นายวิเชียร เป็น “พ่อเลี้ยง” ของ ด.ญ.เอ (เหยื่อ) และจากการสืบสวนทำให้ทราบว่านายวิเชียรได้เสพยาบ้าจนติดและลงมือ “ข่มขืน” ด.ญ.เอ บ่อยครั้ง โดยถูกกระทำเช่นนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. 63 เรื่อยมา “เดือนละ 2-3 ครั้ง” โดยมีบางครั้งก็กระทำต่อหน้าน้องสาวอายุ 8 ปี ที่นอนอยู่ข้างๆ และข่มขู่จะทำร้ายร่างกายเพื่อมิให้บอกใคร
จนครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 65 น้องสาวที่นอนอยู่ข้างๆ พยายามดันตัวให้นายวิเชียรเลิกข่มขืน ด.ญ.เอ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ด.ญ.เอ จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านและไปแจ้งคุณครูที่โรงเรียน ซึ่งต่อมา นายวิเชียร ได้ถูกออกหมายจับตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 715/2565 ลงวันที่ 10 พ.ย. 65 ในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี”
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ศอ.ปส.ตร.ชุดที่ 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่มาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.ตร.ชุดที่ 5 ร่วมกับ สืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) ไล่ล่าติดตามจนกระทั่งวันที่ 10 ธ.ค. 65 เวลา 16.10 น. ได้พบตัว นายวิเชียร ที่บริเวนริมถนนพลับพลาไชย ข้างวัดเทพศิรินทร์ แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าจับกุมตัวตามหมายจับ และจากการตรวจสอบปัสสาวะของนายวิเชียรเบื้องต้นผลพบสารเสพติด
เบื้องต้น นายวิเชียร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า “ตนติดยาเสพติด ชอบเสพยาบ้าและนั่งดูหนังโป๊ ทำให้เกิดมีอารมณ์และลงมือข่มขืนลูกสาวตนเอง โดยจะทำเลียนแบบในหนังโป๊ โดยยอมรับว่าทำมาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.2563 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาประมาณ 2-3 ปีแล้ว ส่วนยาเสพติดนั้นตนเองจะซื้อยาบ้ามาจากกลุ่มไรเดอร์ในพื้นที่ที่เป็นคนคอยหามาขายให้กับกลุ่มไรเดอร์ด้วยกัน โดยจะซื้อยาบ้ามาเสพทีละ 5 เม็ด” จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
...
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวด้วยว่า จะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด ภัยของยาเสพติดสามารถเปลี่ยนคนให้ไม่หลงเหลือสามัญสำนึกผิดชอบชั่วดี กระทำได้แม้แต่กับลูก แม้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็เป็นครอบครัว เป็นเด็กที่เรียกตัวเองว่าพ่อ และยังกระทำต่อหน้าเด็กคนอื่นๆ ผมจะไม่ยอมให้คนแบบนี้อยู่ปะปนกับคนทั่วไปในสังคม จึงขอฝากไปยังประชาชนไทยทุกครอบครัวให้หมั่นดูแลเอาใจใส่บุตรหลานและคนในครอบครัว อย่าให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องยอมรับว่ายาเสพติดเป็นปัญหาคู่สังคมไทยมานาน ผมจะเดินหน้ากวาดล้างให้ถึงที่สุด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.