ชาวบ้านพุนพิน แจ้งความเงินหาย หลังพบทุจริตในสหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด มีเงินหายจากบัญชีสมาชิก และเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัวหลักล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าเสียหายสูงถึง 100 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกและอดีตสมาชิก สหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด กว่า 6 ราย ทยอยลงบันทึกประจำวันร้องทุกข์ ที่ สภ.พุนพิน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด เช่น พบตัวเองยังมีหนี้ ทั้งที่ลาออกมานานแล้ว รวมถึงสมาชิกปัจจุบันที่พยายามปลดหนี้ แต่ยอดไม่ลด ขณะที่หลายรายถูกดูดเงินออกจากบัญชี

ล่าสุดมีคุณยายวัย 77 ปี ที่ลูกสาวและลูกเขย ได้พาแม่เข้าบันทึกข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน หลังจะไปถอนเงินเพื่อมารักษาตัวเองในเรื่องข้อเข่า แต่กลับพบว่าระบบคอมพิวเตอร์แจ้งว่าเงินเหลือแค่พันกว่าบาท ขณะที่สมุดบัญชีก็หายไป

...

นายธีระ วงศ์สุวรรณ ลูกเขย ที่อยู่ดูแลแม่วัย 77 ปี กล่าวว่า ด้วยความไว้ใจคุณแม่จะฝากสมุดบัญชีไว้กับคนสนิทที่สหกรณ์ และฝากเงินไว้ประมาณ 7 หมื่นบาทเมื่อหลายปีก่อน เพื่อเก็บไว้รักษาตัวและทยอยถอนมารักษาตัว จนหลังสุดต้องใช้เงินจำนวนมากมารักษาอาการปวดเข่า แต่พบว่าเงินในบัญชีหายเหลือยอดหลักพัน จนเกิดความทุกข์ใจมาก นอกจากนั้นยังมีผู้ที่พบว่าตัวเองเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว โดยเรื่องมาแดงขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดออกมาสุ่มเช็กสภาพหนี้จากชาวบ้านที่เป็นสมาชิก เทียบกับข้อสภาพหนี้ของสหกรณ์ จึงพบว่ายังเป็นหนี้ทั้งที่ไม่เคยกู้ และแม้ปิดหนี้และปิดบัญชีลาออกจากสหกรณ์ไปแล้ว ยังเป็นหนี้อยู่อีก

ด้าน นางสาวจงจิตร ศรียาภัย เกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ตำบลท่าสะท้อน อ.พุนพิน กล่าวว่า ตัวเองเป็นหนี้ก้อนหลังสุด 150,000 บาท และทยอยจ่ายมาอย่างต่อเนื่อง จนเดือนตุลาคมปี 63 ได้ปิดบัญชีหนี้และลาออกจากการเป็นสมาชิก จนเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากสหกรณ์ใหญ่มาหาที่บ้านและแจ้งว่ามีบัญชีเงินกู้ 2 สัญญารวม 1 ล้านบาท จึงพยายามสอบถามทางสหกรณ์ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่าจะติดต่อกลับมาเอง จนผ่านมา 1 เดือน ก็ยังไม่ได้รับข้อมูลความคืบหน้า จึงเข้าลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ว่าไม่มีสวนรู้เห็นกับยอดหนี้จำนวน 1 ล้านบาทดังกล่าว

ขณะที่ นางสาวกัญญารัตน์ ปราบอักษร อาชีพธุรกิจรับเหมาด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ มีบัญชีทั้งของตัวเองและของลูกหลานรวมแล้ว 8 บัญชี และฝากเงินเข้าบัญชีต่อเนื่อง ล่าสุดจะไปถอนเงินเพื่อไปซื้อรถจักรกลเพิ่ม แต่กลับพบว่ายอดในระบบคอมพิวเตอร์โชว์ว่าบางบัญชีเหลือศูนย์บาท บางบัญชีเหลือ 2 พันบาท เมื่อตรวจทุกบัญชีเงินหายทุกบัญชีรวมแล้วประมาณ 7 แสนบาท และสมุดก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สหกรณ์ว่ายังไม่สามารถปรับได้ ซ้ำยังพบตนเองเป็นหนี้กับสหกรณ์ 2 สัญญารวม 1.3 ล้านบาท ทั้งที่ไม่เคยกู้ เมื่อขอดูสัญญาพบว่าเป็นชื่อตนเอง แต่ลายเซ็นไม่ใช่ และโฉนดที่ดินที่เอาไปค้ำประกันเป็นของญาติเจ้าหน้าที่สหกรณ์ จึงมาแจ้งความเรื่องการปลอมลายเซ็น จนทำให้ตัวเองกลายเป็นหนี้

...

ส่วน นางชนากานต์ นิจอาคม เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง กล่าวว่า ตัวเองจะใช้เครดิตซื้ออาหารปลากับสหกรณ์ และทยอยจ่ายเพื่อปลดค่าอาหารในแต่ละรอบ โดยล่าสุดจ่ายหนี้เป็นจำนวน 3 หมื่นบาท เมื่อเรื่องแดงจึงมาตรวจสอบกลับพบว่า ตนเองยังเป็นหนี้ค่าอาหารกว่า 1.7 แสนบาท ทั้งที่ยอดต้องเป็นศูนย์บาทแล้ว โดยส่วนตัวมองว่าการที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้ ได้บุคลากรภายในสหกรณ์ต้องมีส่วนรู้เห็น จึงจะสามารถนำเงินที่ตนจ่ายโอนเข้าบัญชีสหกรณ์ไปใช้ได้โดยไม่ตัดยอดหนี้ให้ตนเอง ซึ่งจากการสอบถามทางสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ฯ ทราบว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในสหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด น่าจะสูงถึง 100 ล้านบาท อยากให้ราชการส่วนที่เกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้เงินของตัวเองคืนมา เพราะทุกคนหาเงินมาด้วยความยากลำบาก

เบื้องต้นจากการสอบถามไปยัง นายสหัส เพชรศรี ประธานสหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ 4 เดือน ระบุว่าหลังจากพบมีการทุจริตในสหกรณ์ขึ้น ก็ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความที่ สภ.พุนพิน ไว้แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และความเสียหายของสมาชิกแต่ละคนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ขอหมายจับ บุคคลที่ร่วมกระบวนการทุจริต และต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เบื้องต้น ได้มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดเข้าตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดพบว่ามีการทุจริตมานานในทุกรูปแบบ

...

สำหรับสหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด มีสมาชิกที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรในสาขาต่างๆ กว่า 900 คน แบ่งเป็น 44 กลุ่มย่อย เบื้องต้นพบข้อมูลว่ามีผู้ได้รับผลกระทบแล้ว 60 รายจากทุกกลุ่มย่อย.