ด.ต.แสบขโมยปืนหลวงขาย-จำนำกว่า 100 กระบอก อ้างติดหนี้พนัน-เริ่มทำตั้งแต่ เม.ย.ที่ผ่านมา ขายขั้นต่ำกระบอกละ 2 หมื่น แต่ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ด้าน "บิ๊กโจ๊ก" คาดทำมานานแล้ว เร่งขยายผลมีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ ชี้ ผบ.ตร.กำชับต้องนำปืนกลับมาคืนให้ครบ เผยล่าสุดมีผู้รับซื้อกลัวความผิด นำปืน 27 กระบอก ใส่กระเป๋ามาทิ้งที่สโมสรตำรวจ
เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 20 ต.ค.65 ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ก่อเหตุขโมยปืนหลวงเกือบ 100 กระบอก ของ สภ.ปากเกร็ด ไปขาย-จำนำเพื่อไปใช้หนี้พนัน เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ใกล้ชายแดน ขณะเตรียมหลบหนีไปเมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว จากนั้นจึงคุมตัวขึ้นเครื่องบินจาก จ.หนองคาย มาลงที่กองบินตำรวจ ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขต กทม. แล้วคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ร่วมกันสอบสวน
...
พล.ต.ต.พนัญชัย กล่าวว่า ผู้ต้องรับสารภาพก่อเหตุเพราะติดหนี้การพนัน เนื่องจากผู้ต้องหามีหน้าที่ดูแลการเบิกจ่ายปืน จึงสบช่องโอกาสก่อเหตุ เริ่มทำมาตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทยอยเอาปืนออกมาขายเรื่อยๆ คือ ปืนกล็อก ปืนเอ็มโฟ ปืนแม็กกาซีนซิกซาวเออร์ ขายขั้นต่ำกระบอกละ 2 หมื่นบาท แต่ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อน่าจะทำมานานแล้ว โดยปืนที่นำไปขายและจำนำกับบุคคลทั่วไปและร้านค้า นอกจากนี้ยังมีขายและจำนำกับพวกนักพนันด้วยกัน เบื้องต้นทางตำรวจทราบแหล่งขายแล้ว 9 จุด จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายค้นในช่วงเช้านี้ให้ได้ทั้งหมด 9 จุด ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และ กทม.
พล.ต.ต.พนัญชัย กล่าวต่อว่า ภายหลังเรื่องแดงผู้ต้องหาจะหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยทำพาสปอร์ตแบบเร่งด่วน มีผู้หญิงชาวต่างชาติฝั่งโน้นจะนำพาหลบหนีหลังข้ามฝั่งไปแล้ว ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่รับซื้อหรือรับจำนำให้นำปืนมาคืนที่สโมสรตำรวจ โทษหนักจะเป็นเบา หรือไม่อาจจะกันตัวไว้เป็นพยาน ถ้ากังวลเรื่องความปลอดภัยให้โทรมา จะให้ตำรวจ บก.สปพ.(191)ไปรับ โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจทำคดีดังกล่าวที่สโมสรฯ นอกจากนี้ ผบ.ตร.ได้เร่งรัดให้จับกุม และติดตามปืนจำนวนดังกล่าวกลับคืนมาให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันเหตุร้ายและยังกังวลเกี่ยวกับงานประชุมเอเปคด้วย
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว มีหน้าที่ดูแลคลังอาวุธปืนโรงพัก เชื่อว่าไม่ได้ทำมาเดือนสองเดือน คาดว่าต้องทำมานานแล้วแต่เราต้องขยายผลต่อไปว่า มีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ โดย ผกก.สภ.ปากเกร็ด ไล่ตรวจสอบอาวุธปืน จนทราบว่าปืนหายไปจำนวนมาก ตัวผู้ต้องหาเองหมดปัญญาจะเอาปืนมาคืน จึงหลบหนีไปอยู่แถวชายแดน 7-8 วันแล้ว แต่ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ จึงถูกติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ในส่วนของผู้บังคับบัญชาไล่ลงมาตั้งแต่ ผกก.และ รอง ผกก.ป. เป็นต้น พบว่ามีความบกพร่องในหน้าที่ ปล่อยปละละเลย ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะนี้ที่จ.ระยอง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.คนเก่า และตนสมัยเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.เคยกำชับเป็นหนังสือกันเรื่อยมาแต่ก็เกิดขึ้นอีก โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์. ผบ.ตร.คนปัจจุบัน กำชับต้องตามปืนกลับมาให้ครบ
ต่อมาวันเดียวกัน เวลา 23.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมหลังสอบสวนผู้ต้องหาว่า ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุขโมยปืนหลวงจริง โดยเจ้าหน้าที่จะออกตรวจค้นหาอาวุธปืนตั้งแต่ดึกคืนนี้ ขณะนี้มีผู้รับซื้อและจำนำนำปืน 27 กระบอก ใส่กระเป๋าเดินทางสีน้ำตาลมาทิ้งคืนไว้บริเวณสโมสรตำรวจ เนื่องจากกลัวความผิด และโทรแจ้งบอกเจ้าหน้าที่ไปนำมาเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว จะต้องมีการตรวจพิสูจน์หาผู้ครอบครองต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤตมิชอบ ภาค 1 ที่ จ.สระบุรี ในช่วงเที่ยงวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค)
...