• ภายหลังเกิดเหตุฆ่าสุดโหดยิงเด็กนักเรียนเสียชีวิต รวม 3 ศพ ที่อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ซึ่งต้นเหตุของเรื่องมาจากปัญหายาเสพติด "ไทยรัฐออนไลน์" จึงขอสรุปเหตุการณ์ในพื้นที่อีกครั้ง ว่าในระยะเวลาเพียงแค่ 7 วัน มีคดีอะไรเกิดขึ้นแล้วบ้าง

หนุ่มคลั่งยา ฟันตาตัวเองแขนขาดดับคาบ้าน

เริ่มจากเมื่อช่วงเช้าตรู่ วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่ง ใช้มีดพร้าฟันทำร้ายตาของตัวเอง ที่บ้านในพื้นที่ หมู่ 1 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ ตำรวจตามไปที่เกิดเหตุ พบคนถูกทำร้ายคือ นายสิงห์ เพ็ชรรักษ์ อายุ 81 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านไม่มีเลขที่ สภาพศพถูกของมีคมฟันเข้าที่แขนขวาจนขาด ตามตัวถูกฟันเป็นแผลอีกหลายจุด ก่อนช่วยกันจับกุมตัวนายธีรยุทธ สายสินธุ์ อายุ 28 ปี หลานชายของผู้ตาย โดยขณะถูกจับกุมยังอยู่ในอาการหลอนจากการเสพยาเสพติด คุมตัวไปดำเนินคดี

นายธรรมนูญ เมืองชู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีชาวบ้านมาแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด แล้วอาละวาดใช้มีดไปฟันตาของตัวเองในบ้าน จึงรีบแจ้งให้ตำรวจมาช่วยจับกุมตัว ซึ่งผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยได้รับการบำบัด คาดว่าน่าจะมีอาการคลั่งจากการเสพยาเกินขนาด

...

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ก่อเหตุเคยต้องโทษในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดยังมีคดีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง อีก 1 คดี ถูกจับในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล

ขณะที่นางชื่นจิต อายุ 56 ปี น้าสาวของคนก่อเหตุ เผยว่า ปกติหลานชายก็เป็นคนคอยดูแลผู้ตาย คอยเอาขนมมาส่งให้ทุกวัน เพราะผู้ตายมีอาการป่วยด้วยวัยชรา แต่เมื่อช่วงเช้าได้ยินเสียงผู้ตายตะโกนเสียงดังว่า "ทำกูทำไม ทำกูทำไม" ญาติๆ จึงวิ่งมาดู แต่เห็นหลานชายยังถือมีดพร้าอยู่ จึงไม่กล้าเข้าไปช่วย

หนุ่มหลอนเห็นยายเป็น "ปอบ" มีดผ่าท้องควักเครื่องในออกมากิน

ถัดมาอีกเพียง 3 วัน ในวันที่ 2 กันยายน เหตุสยองที่บ้านเลขที่ 32 บ้านควนเกาะจันทร์ หมู่ 7 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ตำรวจ สภ.เหนือคลอง รับแจ้งมีเหตุหลานชายคลั่ง ฆ่ายายตัวเองตาย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพของนางประคอง หรือยายคอง ศรีทอง อายุ 80 ปี ถูกหลานชายแท้ ๆ คือ นายวรพล หรือดำ ดวงทอง อายุ 29 ปี ใช้อาวุธมีดปลายแหลมผ่าท้องควักเครื่องในออกมากิน ซึ่งต่อมาตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ ส่งตัวดำเนินคดี

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว มีผลมาจากผู้ก่อเหตุเคยมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนเสียสติ วันก่อเหตุคิดไปเองว่ายายตัวเองเป็นผีปอบ และตายไปแล้ว จึงลงมือใช้มีดผ่าท้องยาย

นางลำดวน อายุ 57 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ และลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเช้ามืดก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในครัวหลังบ้าน ได้ยินเสียงดังกุกกักมาจากขนำหลังบ้าน ที่แม่นอนพัก ก็เดินออกมาดู พอเปิดม่านที่ขนำเข้าไปดู ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นลูกชายถือมีดเปื้อนเลือดอยู่ โดยมีร่างของแม่จมกองเลือด ลูกชายพูดว่า ยายเป็นปอบ และตายแล้ว จึงลงมือใช้มีดกรีดท้องดู ตนเห็นดังนั้นก็ตกใจ วิ่งเข้าไปหลบในบ้าน หลังจากนั้นก็ไม่เห็นเหตุการณ์อีก ยอมรับว่าก่อนนี้ลูกเคยเสพยาจนเสียสติ ที่บ้านส่งตัวไปรับการบำบัดรักษาแล้ว ช่วงนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัว จนมาคลั่งก่อเหตุดังกล่าวขึ้นมา.

ขณะที่เจ้าหน้าที่นำศพของนางประคอง ไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.เหนือคลอง ผลการชันสูตร กลับพบว่า อวัยวะภายในคือ หัวใจ และตับของผู้ตายหายไป

“ช่วงเกิดเหตุตอนที่ตนเองออกไปดูที่ขนำ พบว่าลูกชายที่ลงมือใช้มีดคว้านท้องแม่ (นางประคอง) ไปแล้ว บอกกับตนว่าแม่เป็นปอบ อวัยวะภายในเหม็นเน่าหมดแล้ว ก่อนจะควักเอาอวัยวะบางส่วนออกมาเคี้ยว และยังหันมาชวนให้ตนกินด้วย ตนเองเห็นแบบนั้นก็ตกใจ วิ่งหนีเข้าบ้านไปบอกให้สามี และคนในบ้านรู้ ก่อนจะแจ้งให้ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรับทราบ” ผู้เป็นแม่เล่านาทีสยอง

...

เสพยาจนหลอนคิดว่าถูกไล่ยิง ขโมยรถขับหนี

นอกจากนี้ยังมีเหตุผู้เสพยาเสพติด ก่อเหตุวุ่นวายอีกหลายกรณี อาทิ วันที่ 3 ก.ย. นายสมพร พารา อายุ 46 ปี เกิดอาการหลอนจากการเสพยา คิดว่าถูกไล่ทำร้าย จึงเข้าไปขโมยรถกระบะของคนขับรถแบ็กโฮในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ ขับหนีไป ทั้งตำรวจและ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต้องช่วยกันออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวมาได้ดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่พยายามสอบถามถึงสาเหตุ เจ้าตัวอยู่ในอาการคล้ายคนเมายาเสพติด บอกกับตำรวจว่า คิดว่ามีคนไล่ยิง จึงขับรถหลบหนี และตั้งใจจะขับรถกลับบ้าน ยอมรับว่าเสพยามาจริง และยกมือขอโทษเจ้าของรถ พร้อมรับปากว่าจะเลิกเสพยาแล้ว

"เสี่ยต้อย" มือปืนฆ่าเด็กนักเรียน 3 ศพ โดนแจ้ง 6 ข้อหา

กระทั่งช่วงตี 1 เศษของวันที่ 6 กันยายน ก็มาเกิดเหตุนายธีรศักดิ์ หรือเสี่ยต้อย ที่มีอาการหลอนจากการเสพยา ไปก่อเหตุยิงเด็กนักเรียนชั้น ม.6 เสียชีวิต 3 ศพ ถูกตำรวจแจ้ง 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. พาอาวุธปืน พกพาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรแก่พฤติการณ์ 4. ยิงปืนในที่สาธารณะ และ 5. เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) และ 6. เสพสารเสพติดขับรถในที่สาธารณะ

...

อย่างไรก็ตาม จึงทำให้เกิดเสียงเรียกร้องจากชาวบ้านในพื้นที่ ให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการในการจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้น เนื่องจากปัจจุบัน ราคายาเสพติดถูก และหาซื้อได้ง่ายจนมีคนติดยาเสพติดกันมากขึ้น และสร้างปัญหาให้สังคมหนักขึ้นทุกวัน.