ตร. แนะนำ "3 ไม่" วิธีการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการถูกแบล็กเมล์ออนไลน์ ก็จะเป็นการตัดภาพ หรือคลิป ตกไปอยู่ในมือคนร้ายได้
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 65 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ในปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการถูกข่มขู่ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการถูกข่มขู่ในลักษณะของการแบล็คเมล์หรือรีดเอาทรัพย์ ซึ่งมักจะมีต้นเหตุมาจากการที่คนร้ายสามารถเข้าถึงหรือครอบครองข้อมูลที่เป็นภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอของเหยื่อ ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็จะทำให้เหยื่อได้รับความอับอาย ทำให้คนร้ายฉวยเอาโอกาสนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่เหยื่อให้ส่งมอบทรัพย์สิน ภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอไปให้กับคนร้าย หรือบางกรณีอาจขู่ให้เหยื่อยอมมามีเพศสัมพันธ์ด้วย แลกกับการที่จะไม่ปล่อยภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าว
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอแนะนำ หลัก “3 ไม่” ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของการแบล็กเมล์ออนไลน์ ดังนี้
"ไม่ถ่าย" คือ ไม่ถ่ายภาพ หรือคลิปวิดีโอในลักษณะลามกของตนเอง ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ก็ตาม เพื่อเป็นการตัดโอกาสที่จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่
"ไม่ส่ง" คือ ไม่ส่งภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอในลักษณะลามกของตนเองให้กับบุคคลอื่น แม้ว่าจะเชื่อใจบุคคลดังกล่าวมากเพียงใดก็ตาม เพราะภาพ หรือคลิปวิดีโอดังกล่าวอาจถูกเผยแพร่ต่อให้กับบุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
...
"ไม่คอล" คือ การไม่คุยวิดีโอคอลกับบุคคลอื่น ในลักษณะที่ปรากฏภาพลามกของตนเองโดยเด็ดขาด เพราะอาจถูกแอบบันทึกภาพ หรือวิดีโอขณะสนทนาได้
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนสามารถทำตามหลัก 3 ไม่ ดังกล่าวได้ ก็จะเป็นการตัดโอกาสที่จะมีภาพ หรือคลิปวิดีโอลามกของตนตกไปอยู่ในมือคนร้ายหรือผู้ไม่หวังดี ที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่แบล็กเมล์เพื่อหวังเอาทรัพย์สิน หรือประโยชน์ทางเพศในรูปแบบต่างๆ จากตัวท่านและบุคคลในครอบครัว และหากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานทีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่เว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.