สาวนักค้ายาเสพติด ถูกจับครั้งที่ 5 หลังจ้างแท็กซี่จากนครปฐม ขนยาไอซ์ 2 ลัง น้ำหนัก 30 กก.ไปส่งที่นวนครเจอด่านเสียก่อน อ้างรับจ้างขนอีกที ด้านคนขับแท็กซี่บอกไม่รู้เรื่อง มีผู้โดยสารโบกก็จอดรับ และช่วยยกลังขึ้นรถ
เวลา 15.00 น. วันที่ 12 ส.ค. ที่หน้า สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.ฤทธิชัยปกรณ์ ดำรงค์อิทธิสกุล รอง ผกก.ป.สภ.โพรงมะเดื่อ รรท.รอง ผกก.ป.ส.ภ.เมืองนครปฐม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 ผู้ต้องหา 2 คน คนแรก น.ส.จันทร์เพ็ญ ปวงสุข อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 6 ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา และ 2. นายสัมฤทธิ์ มะลิซ้อน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ซอยเอกชัย 50 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กทม.
ของกลาง ยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาวใส่ถุงพลาสติกใส บรรจุอยู่ในถุงชาสีทอง ยี่ห้อ 888 GUANYINWAN ซุกซ่อนอยู่ถังกระดาษจำนวน 2 ลัง ปิดทับด้วยเทปกาวใส ลังที่ 1 จำนวน 14 ถุง ลังที่ 2 จำนวน 16 ถุง รวมทั้งหมด 30 ถุง น้ำหนักประมาณถุงละ 1 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น 30 กิโลกรัม 2. รถยนต์เก๋ง แท็กซี่ สีชมพู ยี่ห้อ โตโยต้า หมายเลขทะเบียน ทฬ 2849 กทม. พร้อมกุญแจ 3. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง 4. ลังกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 2 ถัง โดยตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเพิ่มเติม น.ส.จันทร์เพ็ญ ในข้อหาเสพ
...
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณจุดกลับรถ ศูนย์รถฮุนได ถนนเพชรเกษม ต.สระกะเทียม ขณะนั้นพบเห็นรถยนต์เก๋งแท็กซี่ สีชมพู ยี่ห้อ โตโยต้า หมายเลขทะเบียน ทฬ 2849 กทม. กำลังขับเข้ามาในด่าน เมื่อเห็น ตร.พยายามเลี่ยงรถหลบหนีแต่ ตร.เรียกให้หยุดตรวจ ปรากฏว่าบุคคลภายในรถมีท่าทางพิรุธ ซึ่งในรถนั้นมี นายสัมฤทธิ์ มะลิซ้อน เป็นคนขับรถแท็กซี่ และน.ส.จันทร์เพ็ญ ปวงสุข เป็นผู้ที่นั่งโดยสารมา เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นภายในรถ พบยาไอซ์ ใส่ถุงใส บรรจุอยู่ในถุงชา สีทอง ยี่ห้อ 888 GUANYINWANG ซุกซ่อนอยู่ลังกระดาษ 2 ลัง ซึ่งปิดด้วยเทปกาวใส ลังที่ 1 จำนวน 14 ถุง ลังที่ 2 จำนวน 16 ถุง รวม 30 ถุง หนักถุงละ 1 กิโลกรัม รวม 30 กิโลกรัม
ทางด้าน น.ส.จันทร์เพ็ญ ปวงสุข ให้การว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.ปัต ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้มารับยาเสพติดที่เขตจังหวัดราชบุรี เพื่อนำไปส่งที่เขตนวนคร จ.ปทุมธานี โดยมีค่าจ้าง 30,000 บาท โดย น.ส.ปัต ได้โอนค่าจ้างมาให้ก่อน 5,000 บาท หากมีการส่งยาสำเร็จจะโอนส่วนที่เหลือให้อีก 25,000 บาท จึงนั่งรถยนต์แท็กซี่ มาจากนวนคร ปทุมธานี เพื่อมุ่งหน้าเข้า จ.ราชบุรี เมื่อมาถึง จ.ราชบุรีแล้ว น.ส.ปัตได้แจ้งมาว่า ให้โทรหานายไก่ จะขับรถยนต์กระบะ แค็บ สีขาว มารับ เมื่อนายไก่มารับแล้วจึงได้ขับรถต่อมุ่งหน้าเข้า กทม. กระทั่งมาเจอ นายสัมฤทธิ์ มะลิซ้อน คนขับรถแท็กซี่ จึงเรียกให้หยุดเพื่อที่จะว่าจ้างให้ไปส่งที่เขตนวนคร โดยช่วยกันยกย้ายขนถ่ายกระดาษลังบรรจุยาไอซ์วางไว้ที่เบาะหลัง 1 ลัง และที่เก็บของท้ายรถ 1 ลัง แต่ในขณะที่รถมุ่งหน้าไปนวนคร กำลังจะโทรติดต่อ น.ส.ปัต เพื่อนัดหมายมารับส่งยา แต่เจอด่านและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
ทางด้านนายสัมฤทธิ์ มะลิซ้อน ให้การว่า ก่อนถูกจับกุมได้ขับรถมาส่งผู้โดยสารที่โพธาราม จ.ราชบุรี และกำลังมุ่งหน้ากลับ กทม. แต่เมื่อขับรถมาถึงดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้เห็นรถยนต์กระบะสีขาวโบกเรียกให้จอด และมี น.ส.จันทร์เพ็ญ ลงมาว่าจ้างให้ไปส่งที่เขตนวนคร จ.ปทุมธานี เมื่อตอบตกลง น.ส.จันทร์เพ็ญ และนายไก่ได้ช่วยกันยกลังขึ้นรถ จนกระทั่งขับเข้ามาในเขตนครปฐม เจอด่านและถูกจับกุมทันที จากนั้นได้นำตัว น.ส.จันทร์เพ็ญไปตรวจ พบสารเสพติดในปัสสาวะ ส่วนนายสัมฤทธิ์ไม่พบ
สำหรับประวัติคดีอาญาของผู้ต้องหา นางสาวจันทร์เพ็ญ ปวงสุข มีประวัติคดีอาญาจำนวน 4 คดี คดีที่ 1. เมื่อ 3 ธันวาคม 2551 ถูกต้องโทษคดีมียาเสพติดไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน ที่ สภ.คลองหลวง
คดีที่ 2 ถูกจับที่สภ.คลองหลวง เมื่อ 25 เมษายน 2562 ในคดีครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 คดีที่ 3 ถูกจับกุมที่ สภ.คลองหลวง เมื่อ 29 มกราคม 2563 ในคดีครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน มีปริมาณคำนวณเป็น สารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก. ขึ้นไป หรือมียาเสพติดที่มีสารดังกล่าวผสมอยู่จำนวน 15 หน่วย คดีที่ 4 ถูกจับกุม ที่ สภ.คลองหลวง เมื่อ 20 เมษายน 2565 ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 นายสัมฤทธิ์ มะลิซ้อน ไม่มีประวัติคดีอาชญากรรม