ทนายความ "เสี่ยบี" เจ้าของผับมรณะ "เมาน์เท่น บี" วอนศาลเมตตาให้ประกันตัว หวังเร่งหาเงินเยียวยาเหยื่อ ยันไม่คิดหลบหนี เป็นวัยรุ่นสร้างตัว อายุแค่ 27 ปี อยากสร้างอนาคต โดยที่ยังไม่ค่อยมีความรู้ ความเข้าใจ ก็เลยเกิดความผิดพลาด

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่ สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายอนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความของ “เสี่ยบี” นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ เจ้าของผับเมาน์เท่น บี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเราก็มีความหวังที่จะได้รับความเมตตาจากศาลในการประกันตัว เพราะเหตุที่เกิดขึ้นนั้น มาจากความประมาท ไม่ได้เจตนา และทางเราก็พยายามจะเยียวยามาโดยตลอด โดยถ้าได้ประกันตัวออกมาก็จะสามารถวิ่งไปหาญาติหรือคนที่รู้จักเพื่อหาเงินมาใช้ในการเยียวยาได้ จึงคาดหวังว่าศาลท่านคงจะเข้าใจ และเห็นใจ เพราะเจตนาก็ไม่ได้คิดจะหลบหนีไปไหนเลยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นทาง “เสี่ยบี” และครอบครัวก็รู้สึกช็อก และเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้มีเจตนา เป็นเพียงแค่คนวัยทำงานหนุ่ม-สาว วัยรุ่นสร้างตัว ซึ่งมีอายุแค่ 27 ปี ที่อยากสร้างตัว อยากสร้างอนาคตเท่านั้น โดยที่ยังไม่ค่อยมีความรู้ มีความเข้าใจมากนักก็เลยเกิดความผิดพลาด

ส่วนในเรื่องของรูปคดีนั้น ตอนนี้ก็ยังมีในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ ที่จะมีการสอบสวนเพิ่มเติม และสอบพยานอีกหลายปาก โดย 2 ข้อหาที่ศาลออกหมายจับนั้น ก็อาจจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง โดยเฉพาะในเรื่องของอาคาร เรื่องของการต่อเติม และจากการแจ้งของผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งในกรณีนี้คงมีเรื่องของเวลาและเอกสารของทางร้านที่จะต้องนำมาชี้แจง เรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกกรณีที่อยากได้รับการประกันตัวเพื่อออกมาดำเนินการให้ครบถ้วน

...

นายอนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการเตรียมหาเงินสดหรือหลักทรัพย์ที่จะนำมาใช้ในการเยียวยาหรือดำเนินในเรื่องของคดีนั้น ตรงนี้ก็ถือว่าค่อนข้างลำบากพอสมควร อย่างไรก็ตาม ทางเราจะพยายามเคลียร์ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ป่วยเพิ่มเติม แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะยังอยู่ที่ 15 รายก็ตาม

ส่วนที่ถามว่าจะเอาหลักทรัพย์ ไปเอาเงินมาประกันตัว หรือชดเชยนั้น ก็ถือว่าหนักใจ เพราะทรัพย์สินอย่างที่ดินที่ของร้านนั้น ก็เป็นเพียงที่ดินเช่า ไม่ใช่ที่ดินส่วนตัวแต่อย่างใด ขณะที่จะให้คนที่มีตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ ผู้หลักผู้ใหญ่มีระดับ มาช่วยเหลือนั้น จริงๆ แล้ว เราไม่ได้รู้จักใครมากมาย ก็เป็นเพียงพ่อค้านักธุรกิจธรรมดา และทุกอย่างก็อยู่ในแวดวงครอบครัว พ่อแม่พี่น้องเท่านั้น

ส่วนตามที่ข่าวมีการนำเสนอออกไปว่ามีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ก็อยากให้ช่วยดู ทำความเข้าใจ เพื่อให้เกิดความถูกต้องด้วย