งานศพสาวสอง เป็นไปด้วยความเศร้า แม่ยังทำใจไม่ได้ แต่ดีใจที่จับคนร้ายได้ และไม่ขออโหสิกรรมให้ฆาตกร ขอให้ตายตกไปตามกัน ขณะที่ตำรวจคุมตัวฝรั่งมาถึงตี 2 รอสอบปากคำวันนี้ พร้อมจัดหาล่ามภาษารัสเซียมาช่วยแปล เชื่อหลักฐานมัดตัวให้แน่น เหตุความหึงหวงเนื่องจากผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี นิสัยร่าเริง


เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศงานสวดศพ นายธีรพงศ์ ล้ำเหลือ อายุ 31 ปี สาวสองที่ถูกแฟนฝรั่งฆ่าหมกในบ้านนานหลายสัปดาห์ ที่ จ.สุรินทร์ โดยจัดขึ้นที่บ้านของแม่ผู้ตาย ที่อยู่ข้างๆ บ้านที่พบศพ เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติพี่น้อง พรรคพวกเพื่อนฝูง ที่มาร่วมงาน และที่เสียใจมากที่สุดคือแม่และพ่อ ของผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว ขณะที่ชาวบ้านต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์โหดเหี้ยมที่เกิดขึ้น และต่างดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้อย่างรวดเร็ว โดยทางครอบครัวจะมีการฌาปนกิจศพนายธีรพงศ์ ในวันอาทิตย์ 19 มิ.ย.65 ที่วัดภายในหมู่บ้าน

นางวันดี ล้ำเหลือ แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ตอนนี้ทราบว่าตำรวจจับกุมแฟนชาวต่างชาติได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมรับว่าเป็นคนทำ แต่พบโทรศัพท์ 2 เครื่องของลูกที่เอาไปด้วยอยู่นั่น หากว่าจะมาขอขมาศพได้ แต่ตนและญาติๆ ไม่ขออโหสิกรรมให้ ตนอยากถามว่าทำไมถึงทำกับลูกของตนได้ถึงขนาดนี้ ทำเพราะอะไร เหตุอะไร ใช้ขวดทำร้ายลูกจนหัวเละหมดเลย ที่ผ่านมาไม่เคยมีลางบอกเหตุเลยว่าจะเกิดเหตุถึงขนาดนี้ โหดร้ายจริงๆ โดยวันที่เกิดเหตุ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา เขาพากันไปกินดื่มที่ร้านแห่งหนึ่ง ในอำเภอปราสาท และทราบว่ามีเรื่องทะเลาะกัน แล้วกลับมาบ้านก่อน แต่ไม่ได้พาลูกของตนกลับมา โดยให้เพื่อนพากลับมาส่งประมาณ 5-6 ทุ่ม พอมาถึงบ้านก็ทะเลาะกันอีก ถึงขั้นลงไม้ลงมือ จากนั้นก็เงียบไป และในตอนบ่ายที่ 27 พฤษภาคม เขาก็ได้ซื้อเบียร์มานั่งกินที่บ้านแม่ 1 ลัง ตอนนั้นสังเกตเห็นมีรอยเลือดที่ขาแฟนชาวฝรั่ง เหมือนโดนแก้วบาด ก็ถามไปว่าเป็นอะไร ได้รับคำตอบว่าโดนหมาชน ซึ่งเราก็ไม่เอะใจ

...

จากนั้นแฟนชาวต่างชาติของลูกขอตัวกลับเข้าบ้าน และออกจากบ้านไปประมาณตี 2 วันที่ 28 พฤษภาคม โดยก่อนหน้านั้นพากินดื่มเบียร์ที่บ้านแม่ก่อนประมาณ 3 ทุ่ม จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านบอกว่าเมา ทราบว่าได้ขับรถออกจากบ้านไป บขส.ปราสาท จากนั้นเดินซื้อตั๋ว โดยตนเห็นจากวงจรปิดที่ตำรวจให้ดู ยืนยันว่าใช่ผู้ก่อเหตุจริง ซื้อตั๋วไปลงที่ระยองแต่ไปโผล่ที่พัทยา จนตำรวจจับได้ บ้านที่ลูกตนอยู่จะมิดชิดและลูกเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายในบ้าน นอกจากมีธุระอะไรก็จะโทรมาบอกเท่านั้น ผู้ตายถือเป็นเสาหลักของครอบครัว วินาทีที่พบศพของลูกตนเข่าทรุดเลย มั่นใจว่าคนที่ทำคือมันแน่นอน เพราะสุดท้ายที่เห็นแฟนต่างชาติที่อยู่ด้วยกัน และพบว่าฝรั่งคนนี้อยู่หลายประเทศเป็นชาวลิทัวเนีย และเป็นทหารเก่า ชื่อมารุด ถ้ามาขอขมาศพอยากถามที่สุดที่คาใจทำลูกเราทำไมขนาดนี้ทำไม

ด้านนายยอด แก่นจันทร์ อายุ 44 ปี น้าของผู้ตาย เผยว่า ปกติหลานเป็นคนนิสัยดี ร่าเริง รักพ่อแม่ รู้สึกหดหู่ไม่คิดว่าหลานจะโดนแบบนี้ ตนเป็นผู้พบศพคนแรกพอไปเห็นตกใจมาก ที่ได้ไปพบศพคือวันก่อนนั้นแม่น้องมาหาตนบอกว่าติดต่อลูกไม่ได้ และให้ตนโทรหาแฟนของลูกสาว เพื่อจะถามว่าทำไมติดต่อลูกสาวไม่ได้เลย พอโทรไปถามแฟนเขาก็บอกว่าน้องเขาเมา ก็เลยเอะใจนอนไม่หลับ ตอนเช้าก็เลยมาหาแม่ของเขาที่บ้านแต่ไม่เจอ พอตอนเย็นเลยพากันไปที่บ้านหลานพร้อมแม่เขา พอเข้าไปในบ้านเปิดดูก็ตกใจเห็นมีผ้านวมห่อเอาไว้ และมีกลิ่นเหม็นก็ออกมาแรงมาก ตนมองดูก็เห็นขาโผล่ออกมาข้างหนึ่ง ตนตกใจเลยวิ่งออกมาก่อน ก็อยากให้ผู้กระทำได้รับโทษที่เขาได้ทำลงไปให้สาสมก็แล้วกันกับสิ่งที่ทำกับหลานเรา เพราะมันโหดเหี้ยมมาก ดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวไว้ได้ออย่างรวดเร็วมาก อย่างน้อยแม่เขาจะได้สบายใจ

ส่วนทางด้านการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุดพบว่าได้มีการควบคุมตัวนายมารุด หรือ Mr.Marius Kunickas สัญชาติ ลิทัวเนีย อายุ 31 ปี แฟนชาวต่างชาติของผู้เสียชีวิตได้แล้ว ขณะหนีไปกบดานที่เมืองพัทยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ได้มีการสืบสวนติดตามจากข้อมูลจีพีเอสโทรศัพท์ของผู้ตาย จนสามารถทราบที่อยู่ที่เมืองพัทยา และได้ประสานกับตำรวจเมืองพัทยา เข้าควบคุมตัวได้และนำตัวไปยังที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนส่งตัวกลับมาทำการสอบสวนหาสาเหตุและปมเหตุที่ก่อเหตุที่ สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พื้นที่เกิดเหตุ โดยควบคุมตัวเดินทางมาถึง สภ.ปราสาท ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ ตี 2 กว่า และในวันนี้จะทำการสอบปากคำ และต้องหาล่ามมาแปลภาษารัสเซียด้วย ว่าจะรับสารภาพหรือไม่ จากนั้นหากมีการรับสารภาพ ก็รอตรวจผลดีเอ็นเอก่อนจะออกหมายจับเพื่อควบคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป