สามี อดีตโปรแกรมเมอร์ตกงาน ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก ฟิวส์ขาดคว้าสากหินอ่างศิลา ทุบหัวฆ่าภรรยาหมอเจ้าของคลินิกเสริมความงาม ตายคาคลินิกย่านสาทร เหตุถูกต่อว่า ไม่ดูแลลูกสาว ปล่อยให้อุจจาระเรี่ยราด

เวลา 08.00 น. วันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ท.คณสร นักเรียน สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในอมราคลินิกเวชกรรม ซอยศรีบำเพ็ญ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.จึงรุดไป ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พ.ต.ท.อนันท์ วงศ์คำ รอง ผกก.ป. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นคลินิกเสริมความงาม ภายในมีอาคารบริการลูกค้า สูง 4 ชั้น เชื่อมติดกับอาคารที่พักอาศัย จำนวน 3 อาคาร ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิดบนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จากการตรวจสอบในห้องครัวชั้นล่างบริเวณอาคารด้านในสุด ซึ่งเป็นที่พักอาศัยพบศพแพทย์หญิงนวพร มาลากร อายุ 38 ปี เจ้าของคลินิก สภาพนอนหงาย สวมชุดนอนกระโปรงสีฟ้า มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งเข้ากลางกระหม่อม 1 แผล และที่ใบหน้าอีก 2 แผล เลือดนองเกลื่อนพื้น ใกล้กันพบสากหินอ่างศิลาเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสามีผู้ตายยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่บ้าน ชื่อ นายจุลพงษ์ ศักดิ์ชัยนานนท์ อายุ 38 ปี เบื้องต้นได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยเจ้าตัวยอมรับว่า แต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมานาน 7 ปี มีลูกสาววัย 5 ขวบด้วยกัน 1 คน อดีตทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ของบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี แต่ตกงานมาได้สักระยะแล้วจึงทำหน้าที่เลี้ยงลูกเพียงลำพัง ส่วนผู้ตายทำงานแค่คนเดียว ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่เตรียมจะออกจากบ้านพาลูกสาวไปเรียนว่ายน้ำ จู่ๆ ลูกสาวก็ถ่ายอุจจาระออกมา ทำให้ถูกผู้ตายติติงว่า ไม่จัดการดูแลความสะอาดของลูกให้ดีจึงเกิดมีปากเสียงกัน แม้พยายามเดินหนีเข้าไปภายในห้องครัว แล้วแต่กลับถูกผู้ตายเดินมาด่าซ้ำ จนเกิดบันดาลโทสะคว้าสากหิน กระหน่ำทุบไปหลายครั้ง จนแน่นิ่ง และรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้หลบหนีไปไหน

...

ด้าน พ.ต.อ.กฤษดา กล่าวว่า เบื้องต้นควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน และแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนร่างผู้ตายส่งให้แพทย์นิติเวชนำไปดำเนินการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนประสานให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.