สรุปคําพิพากษาคดี ส.ต.ต.นรวิชญ์ ประมาทขี่รถบิ๊กไบค์ชน หมอกระต่ายเสียชีวิตบริเวณทางม้าลาย ให้จำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4,000 บาท รอสู้ในคดีแพ่งต่อ ทนายฝ่ายหมอพอใจคำตัดสิน รอหารือญาติสู้อุทธรณ์
โดยศาลอาญา มีคำพิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 5 (2) 11 ,12วรรคหนึ่ง, 58, 60 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 6 วรรคสอง, 7,21 วรรคหนึ่ง, 32. 33, 34 ,35 วรรคสอง, 43(4) (8), 46(2), 67 วรรคหนึ่ง, 70, 148 วรรคหนึ่ง 151, 152, 157, 160 วรรคสาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 11,39 กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ. 2564 ข้อ 3, 4(3) กฎกระทรวงกำหนดส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถ พ.ศ. 2551 ข้อ 3(20), 5(1)
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานนำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 11,60 และ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 7,152 เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 60 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปรับ 2,000 บาท ฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ปรับ 2,000 บาท ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหาย ปรับ 2,000 บาท
ฐานใช้รถโดยมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 5(2), 12 วรรคหนึ่ง, 58,60 และ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 6วรรคสอง, 148 วรรคหนึ่ง กฎกระทรวงกำหนดส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถ พ.ศ. 2551 ข้อ3(20), 5 (1) เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 60 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปรับ 2,000 บาท
...
ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43(8), 67วรรคหนึ่ง, 152,160,วรรคสาม กฎกระทรวง กำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ. 2564 ข้อ 3,4(3) เป็นการ กระทำความผิดกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 160 วรรคสาม ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 เดือน
ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดย ประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินโดยไม่ปฏิบัติตาม เครื่องหมายบนพื้นทางเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 21วรรคหนึ่ง 32,33,34,35 วรรคสอง, 43(4), 46(2), 67 วรรคหนึ่ง, 70,148วรรคหนึ่ง,151,152 กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ. 2564 ข้อ3,4(3) เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ความผิดฐานนำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้ มีการประกันความเสียหาย ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถโดยมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์ สำหรับรถไม่ครบถ้วน ปรับ 1,000 บาท ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น จำคุก 15 วัน ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือ ทรัพย์สินโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทางเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 1 ปี รวมโทษแล้วจำคุก 1 ปี 15 วัน และปรับ 4,000 บาท
พิเคราะห์รายงานการ สืบเสาะและพินิจของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงมาก ประมาณช่วงระหว่างความเร็ว 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วเกินกว่า ที่กฎหมายกำหนดและที่วิญญูชนทั่วไปคาดคิด ทั้งยังขับแซงรถคันอื่นใกล้กับบริเวณที่มี เครื่องหมายจราจรทางข้าม (ทางม้าลาย) ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับสถานพยาบาลและสถานที่ ราชการ ซึ่งเป็นเขตเมืองและเป็นเขตชุมชนที่มีประชาชนจำนวนมากไปรับบริการและใช้ทางดังกล่าวเป็นปกติตลอดทั้งวัน อันเป็นการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถและผู้สัญจรอื่นๆ บนท้องถนน ประกอบกับจำเลยขับรถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้และไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายกับผู้ประสบภัยจากรถ แม้จำเลยจะพยายามบรรเทาผลร้ายแล้ว แต่พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าว ถือว่าเป็นร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษจำเลย หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30
สำหรับรถจักรยานยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่ จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด จึงให้ริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
และหากจำเลยขับรถต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น จึงให้ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ฉบับที่ 64001268 ออกโดยสำนักงานขนส่ง จังหวัดนครสวรรค์ และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ฉบับที่ 64000905 ออกโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดนครสวรรค์ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 162 วรรคหนึ่ง
ด้าน นายสนทยา น้อยเจริญ ทนายความส.ต.ต.นรวิชญ์ กล่าวว่า ศาลลงโทษจำคุก 2 ปี 30 วัน แต่รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ 1 ปี 15 วัน ศาลเห็นว่าเหตุขับรถเร็วกับเรื่องไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรุนแรง จึงไม่รอการลงโทษ นอกจากนี้ก็มีประเด็นถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งตามกฎหมายมีกำหนดไว้แล้ว น่าจะเพิกถอนเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ต่อไป โดยพ่อของจำเลยที่เป็นตำรวจได้ใช้ตำแหน่งเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัว ขณะที่ก่อนศาลพิพากษาจำเลยก็ได้มีการบรรเทาผลร้ายแล้ว
...
สำหรับคำพิพากษานั้นศาลก็ได้พิจารณาตามบทลงโทษ โดยเหตุการณ์นี้เป็นการประมาท และหลังจากศาลพิพากษาจำเลยก็รู้สึกเสียใจและยอมรับคำพิพากษา จริงๆก็รับสารภาพมาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นอัยการและชั้นศาล ส่วนคดีแพ่งก็ต้องต่อสู้คดีกันต่อไป ผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกร้องอยู่แล้วแต่คงต้องไปพิจารณากันด้วยเหตุและผลต่อไป
ขณะที่ นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความฝ่ายญาติของหมอกระต่าย เปิดเผยว่า พึงพอใจในคำตัดสินของศาล ซึ่งจะไปหารือกับญาติของหมอกระต่ายเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ส่วนคดีฟ้องแพ่งเรียกเงินค่าเสียหายจากสิบตำรวจตรีนรวิชญ์, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำสวน 72 ล้าน และกรุงเทพมหานคร 72 ล้าน รวมเป็นเงินรวม 144 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างศาลพิจารณา โดยรอศาลนัดวันที่ 8 สิงหาคม 2565