ผกก.สน.ปทุมวัน เผยรวบทันควันหนุ่มคลั่งใช้มีดคัตเตอร์ กรีดใบหน้า และท้ายทอย 2 เหยื่อสาวกลางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อ้างต้องการเข้ามาหางานทำ ขณะก่อเหตุก็ไม่รู้ตัวว่าลงมือไปได้อย่างไร
เมื่อเวลาประมาณ 16.18 น. วันที่ 19 เมษายน 2565 ร.ต.อ.อังกูร จรัสเมธาวิทย์ รองสว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน รับแจ้งเกิดเหตุหญิงถูกชายใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ฟันได้รับบาดเจ็บ 2 ราย บริเวณหน้าร้านเสื้อผ้า Misty Miynx ชั้น 2 โซน Groove ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระรามที่ 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ
บรรยากาศบริเวณที่เกิดเหตุร้านขายเสื้อดังกล่าวได้ปิดร้านแล้ว โดยมีตำรวจได้เข้ามาสอบถามพนักงานใกล้เคียงและบันทึกภาพที่ร้านไว้เป็นหลักฐาน ส่วนบรรยากาศภายในห้างสถานการณ์เป็นปกติประชาชนยังมาจับจ่ายซื้อของตามปกติและไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
จากการสอบถามพนักงานร้านขายรองเท้าที่อยู่ใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ เผยว่า เห็นคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สวมหมวกและเสื้อสีดำ วิ่งตะโกนโวยวายเข้ามาในห้าง จากนั้นไม่นานใช้อาวุธมีด คล้ายมีดคัตเตอร์ในมือวิ่งไล่ฟันผู้หญิงที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ ฟันเข้าบริเวณใบหน้า จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้วิ่งเข้าไปหลบในร้านขายเสื้อ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งไปฟันที่แผ่นหลังผู้หญิงอีก 1 คน ที่ยืนอยู่ใกล้กับบันไดเลื่อน ใกล้ร้านขายเสื้อดังกล่าวแล้วหลบหนีไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ รปภ.กับตำรวจของห้างได้พาส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ชายที่ก่อเหตุมีลักษณะคลุ้มคลั่งคล้ายคนเมาไม่ได้สติ ส่วนจะรู้จักกับผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ไม่ทราบแน่ชัดแต่ดูจากการก่อเหตุแล้วเชื่อว่าไม่รู้จักกัน
พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 2 ราย โดยรายแรก อายุ 27 ปี เป็นพนักงานของร้านเสื้อผ้าดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำเพื่อจะกลับไปทำงานที่ร้าน ได้เจอคนร้ายเข้ามาประชิดตัวที่ด้านหลังเเล้วใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่บริเวณใบหน้าด้านซ้าย โดยไม่ทันตั้งตัว เป็นบาดแผลฉกรรจ์ หลังจากนั้นได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แล้ววิ่งเข้าไปหลบอยู่ในร้านของตัวเอง ระหว่างนั้นผู้เสียหายอีกราย อายุประมาณ 20 ปี เป็นลูกค้าของห้างที่กำลังเดินผ่านจุดเกิดเหตุพอดี ชายคนนี้ก็ปรี่เข้าไปประชิดตัวแล้วใช้คัตเตอร์เล่มเดียวกันกรีดเข้าที่ท้ายทอย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งหลบหนีอยู่ในห้าง และถูกตำรวจกับ รปภ.ห้างควบคุมตัวได้ ส่วนอาการผู้ได้รับบาดเจ็บอาการปลอดภัยอยู่ระหว่างการรักษาที่ รพ.ตำรวจ
...
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งผู้บาดเจ็บเเละผู้ก่อเหตุไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ขณะที่ผู้ก่อเหตุให้การสับสน วกวน ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ สน.ปทุมวัน
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุชื่อ นายธนาพร บุตรสี อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 143 ม.5 ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด ตำรวจจึงทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายเเต่ไม่พบ และเมื่อหลังคุมตัวมาอยู่ในห้องขัง ชายรายนี้ก็เริ่มสงบสติอารมณ์ ก็เริ่มให้การกับตำรวจว่าไม่ได้รู้จักกับผู้บาดเจ็บทั้งสองราย และขณะก่อเหตุก็ไม่รู้ตัวว่าก่อเหตุไปได้อย่างไร ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ซึ่งพบประวัติว่าชายรายนี้ในอดีตเคยทำงานเป็นช่างไฟฟ้า แต่ปัจจุบันตกงาน และกลายเป็นคนไร้บ้าน อาศัยนอนตามสะพานลอยแถวๆ สนามหลวง สำหรับสาเหตุที่เดินเข้าไปในห้าง ผู้ต้องหาอ้างว่าต้องการเข้าไปหางานทำ
พ.ต.อ.พันษา กล่าวว่า ทั้งนี้มองว่าคนร้ายรายนี้ถือว่าเป็นภัยสังคม เป็นบุคคลอันตรายที่เข้ามาในพื้นที่สาธารณะแล้วเข้ามาก่อเหตุโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งปกติทางห้างจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว จากข้อมูลที่ทางห้างเคยแจ้งกับตำรวจไว้ ว่านอกจากเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิเเล้ว ยังมีเครื่องตรวจจับโลหะ และมี รปภ.คอยตรวจสอบไม่ให้นำอาวุธเข้าห้าง แต่กรณีนี้เป็นมีดคัตเตอร์ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามีข้อผิดพลาดใดในการตรวจค้น จึงเล็ดลอดเข้าไปก่อเหตุได้ดังกล่าว ต้องรอให้ทางห้างออกมาชี้เเจง เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้เป็นเห็นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หรือที่สาธารณะ ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดใดอีกบ้าง โดยในวันพรุ่งนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
ทางด้าน CentralWorld ชี้แจงเหตุการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางทีมรักษาความปลอดภัยของศูนย์การค้าได้เข้าระงับเหตุและควบคุมตัวชายสติไม่ดีรายหนึ่งได้อย่างทันท่วงทีภายใน 5 นาที และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยศูนย์การค้าได้รีบนำผู้บาดเจ็บ 2 รายส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที และขณะนี้ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลอย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งนี้ ทางศูนย์การค้ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ด้วยมาตรฐานการปฏิบัติงานระงับเหตุที่รวดเร็วและเป็นระบบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าที่มาใช้บริการ