ชายคลั่งรักนำพวกอ้างเป็นตำรวจ อุ้มสาวติดโควิดกักตัวในฮอสพิเทล ไปกักขังในคอนโดฯ ย่านรามคำแหง พ่อฝ่ายหญิงตำหนิ รพ.ปล่อยให้เอาคนป่วยไปโดยไม่ตรวจสอบหลังช่วยลูกออกมาได้ จึงแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 22 ม.ค.65 ที่ สน.โชคชัย นายพล ลัทธยาพร อายุ 55 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ไอศวรรย์ ปฐมสันติพงศ์ สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณี น.ส.สุพิชชา อายุ 23 ปี ลูกสาวถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 3-4 คนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวออกไปจากฮอสพิเทลที่รักษาตัวอาการโควิด-19 ก่อนนำตัวไปกักขังไว้ที่คอนโด

นายพล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ขณะลูกสาวเข้ารับการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ภายหลังจากการตรวจทางโรงพยาบาลแจ้งผลเป็นบวก จึงส่งตัวลูกสาวไปรักษาตัวต่อที่ฮอสพิเทล โรงแรมเอสที ฮอลลิเดย์ ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมามีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 3-4 คน ได้ไปยังโรงพยาบาล พร้อมอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีหมายจับ น.ส.สุพิชชา ลูกสาวตนในข้อหาลักทรัพย์จำนวน 1 ล้านบาท ขอควบคุมตัวออกจากฮอสพิเทล โดยไม่มีการป้องกันหรือสวมชุด PPE ป้องกันตัวแต่อย่างใด

...

พ่อของผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ลูกสาวได้แจ้งทางโทรศัพท์ว่า 1 ในกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว เป็นคนที่มาชอบลูกสาวตน แต่ว่าระยะหลังชายคนดังกล่าวมีอารมณ์รุนแรง ลูกสาวจึงพยายามแยกตัวออกห่าง ประกอบกับลูกสาวเป็นโควิด-19 จึงมารักษาตัวโดยที่ไม่ได้บอกให้คนที่มาติดพันทราบ กระทั่งถูกบุกไปที่โรงพยาบาล และนำหมายจากเจ้าหน้าที่ยื่นให้พยาบาลดู ก่อนจะไปหาลูกสาวที่ห้องพักในโฮสพิเทล และฉุดกระชากลากถูตัวลูกสาวออกไป พาตัวมาอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง หลังจากนั้นลูกสาวได้ส่งข้อความมาบอกพิกัด ตนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย และขอกำลังจาก สน.หัวหมาก เพื่อเข้าช่วยเหลือลูกสาวออกมาได้จากคอนโดดังกล่าว เมื่อช่วง 17.00 น.ของวันที่ 20 ม.ค. โดยพบลูกอยู่ในห้องเพียงลำพัง ก่อนที่จะประสานรถมูลนิธิเส้นด้าย มารับตัวลูกสาวไปรักษาตัวต่อ เบื้องต้นลูกสาวไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายอะไร มีแต่รอยฟกช้ำบริเวณแขนที่เกิดจากการฉุดกระชากตอนออกจากฮอสพิเทลมา

นายพล กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับลูกสาวทราบว่า ชายดังกล่าวรักลูกสาวมาก แต่ตนคิดว่าการกระทำแบบนี้ไม่ใช่ความรัก การกระทำที่ฉุดกระชากไปแบบนี้ เขาไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่ตุ๊กตาที่จะมาฉุดไป คนเป็นพ่อรู้สึกห่วงลูกสาวมาก ต้องเอาลูกกลับมา ส่วนโรงพยาบาล อ้างว่า ยอมให้นำตัวออกไปเพราะเห็นว่ามีหมาย และเป็นตำรวจ ตนสอบถามกลับไปว่า มีการตรวจสอบหรือไม่ เพราะแท้จริงแล้วเป็นหมายเรียกพยานของ สน.ประเวศ ลูกสาวตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ในคืนเกิดเหตุกลุ่มชายดังกล่าวไม่มีการสวมชุด PPE ไม่ได้แต่งตัวในเครื่องแบบของตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยให้ไปได้ยังไง ทำไมถึงไม่แจ้งครอบครัวก่อน

ด้าน พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามไปทางโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลยอมรับว่ามีกรณีดังกล่าวจริง และพลาดเองที่ยินยอมให้นำผู้ป่วยออกไป หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ก่อน และรอทางผู้เสียหายรักษาตัวให้หายดี จึงทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ทราบจากทางพ่อผู้เสียหายว่าลูกสาวประสงค์ดำเนินคดี ขณะนี้ให้ทางฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ในส่วนของเรื่องเอกสารและบัตรที่แอบอ้างทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะยังไม่เห็นหลักฐานดังกล่าว.