ย้ายนักโทษเรือนจำกระบี่ 2,159 คนกระจายไปยังเรือนจำนครศรีธรรมราช ภูเก็ต และสงขลา ส่วนหัวโจกก่อจลาจลทั้ง 31 คน ย้ายเข้าเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี แล้ว ขณะที่ พฐ.เร่งเก็บหลักฐาน เตรียมเอาผิด
จากกรณีนักโทษก่อจลาจลภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ถนนอุตรกิจ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ต้องเจรจากับแกนนำ พร้อมนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ต้องบินด่วนมาควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง โดยขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ จนสถานการณ์คลี่คลายสงบลง และย้ายนักโทษเรือนจำกระบี่ 2,159 คนกระจายไปยังเรือนจำนครศรีธรรมราช ภูเก็ต และสงขลา ส่วนหัวโจกก่อจลาจลทั้ง 31 คน ย้ายเข้าเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังเรือนจำกลางเขาบิน อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อพบและสอบถามทาง ผบ.เรือนจำเขาบิน แต่ทาง ผบ.เรือนจำ ไม่ขอให้สัมภาษณ์ และให้ข้อมูล เนื่องจากทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้กำชับไว้ ในการให้ข้อมูลจะต้องใช้การแถลงผ่านทางกรมราชทัณฑ์เท่านั้น เพื่อให้ข่าวไม่คลาดเคลื่อนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เบื้องต้นจากการสังเกตการณ์ทราบว่า ผู้ต้องขังหัวโจกทั้ง 31 คน ได้เดินทางมาถึงเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 18 ธ.ค.ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งได้ถูกส่งตัวมาถึงเรือนจำเขาบินช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งทั้งหมดได้ถูกแยกขังในแต่ละแดน เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมผู้ต้องขังคอยจับตามองอย่างเข้มงวดและใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กระบี่ นำหลักฐานทั้งหมดที่เก็บได้ภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ เช่น อาวุธมีด เครื่องมือช่าง รวมทั้งหลักฐานเป็นน้ำมันที่กลุ่มก่อเหตุใช้เป็นเชื้อเพลิงเผาเรือนนอน เก็บรวบรวมไว้ที่ ภ.จว.กระบี่ โดยชุดพิสูจน์หลักฐาน ขอให้ปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุภายในเรือนจำไว้ก่อน เนื่องจากต้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
...
ในส่วนของการสอบสวน สืบสวนดำเนินคดี ช่วงเช้า พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.จว.กระบี่ เรียกประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธร จ.กระบี่ ที่ห้องประชุม ภ.จว.กระบี่ มอบงานให้ชุดสืบสวนกระจายไปเก็บข้อมูลจากพยาน ทั้งผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ เพื่อหามูลเหตุที่แน่ชัด ในส่วนของภาพกล้องวงจรปิดภายในเรือนจำ ตอนนี้ได้มาแล้วบางส่วน แต่ยังมีกล้องอีกบางตัวที่ได้รับความเสียหาย ต้องส่งไปกู้ข้อมูลกลับมาอีกครั้ง เพื่อดูว่าคนก่อเหตุมีทั้งหมดกี่คน และพฤติกรรมของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะนำพฤติกรรมผู้ก่อเหตุที่ได้ มาใช้ประกอบในการแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.