ลุงวัย 69 ปี เป็นโสด ตกหลุมรักหญิงวัย 45 ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายมีลูกมีผัวเป็นตัวเป็นตน สานสัมพันธ์ยาวนานนับ 10 ปี ทุ่มเทหมดเงินไปนับล้าน แค้นถูกเททิ้งตอนตกอับไม่มีเงินจะเปย์ พกมีดไปดักแทงดับคาบ้าน
วันที่ 4 ธ.ค. พ.ต.ท.สันต์ เทียมวงศ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายสม จอดนอก อายุ 69 ปี ราษฎรหมู่ 1 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ มาสอบสวน พร้อมของกลางเป็นปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก และอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 ซม.เปื้อนเลือด 1 เล่ม
หลังจากเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดเล่มดังกล่าว แทงนางต๋อย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี เสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านที่หมู่ 1 ต.หนองแวง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ตรวจสอบพบมีร่องรอยการถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณหน้าอกซ้าย และท้องรวม 6 แผล
โดยนายสม ให้การกับตำรวจว่า ตนไม่มีภรรยา เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ได้รู้จักกับนางต๋อย ในวงไฮโลในหมู่บ้าน จากนั้นได้สานสัมพันธ์กันจนได้เสียเป็นสามีภรรยากันอย่างเปิดเผย ถึงแม้จะรู้ว่านางต๋อยจะมีลูกมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ตาม แต่สามีนางต๋อยไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดไม่ได้อยู่บ้าน
นายสม กล่าวอีกว่า ตนรักเขาไปแล้วได้ส่งเสียเลี้ยงดูมาโดยตลอด หมดเงินไปนับล้านบาท แต่ในระยะหลังไม่มีเงินจะส่งเสีย ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด นางต๋อยเลยตีตัวออกห่างและไปติดผู้ชายคนใหม่ จนถึงขั้นไล่ตนออกจากบ้าน พยายามตามง้อขอคืนดีแต่ไม่เป็นผล จึงสะสมความแค้นมานานร่วม 2 ปี
"วันเกิดเหตุทราบว่านางต๋อยจะไปออกกำลังกายกับเพื่อน จึงปีนรั้วเข้าหลังบ้าน พกปืนลูกซอง และมีดติดตัวมาด้วยดักซุ่มรอบริเวณศาลพระภูมิ จนกระทั่งนางต๋อยกลับมาถึงบ้านเวลา ประมาณ 18.00 น. เมื่อเห็นว่าเปิดประตูเข้ามา ตอนแรกกะจะใช้ปืนยิง แต่เกรงว่าจะเสียงดังเลยเข้าไปใช้มีดกระหน่ำแทงไม่ยั้งจนนางต๋อยล้มคว่ำจึงได้หนีไป"
...
ผู้ต้องหา ยังบอกด้วยว่า ตอนแรกคิดว่าจะผูกคอตายตามในช่วงกลางดึก แต่อากาศหนาว จึงเปลี่ยนใจกลับบ้านแต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดักรออยู่ที่บ้านแล้ว
ขณะที่สามีผู้ตาย กล่าวว่า รู้เรื่องภรรยากับนายสม มีความสัมพันธ์กันเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว พยายามชวนภรรยาไปทำงานด้วยกัน แต่เขาไม่ไป จึงตามใจและโอนเงินค่าใช้จ่าย ค่าเช่าบ้านมาให้ ส่วนนายสม รู้จักกันดี นับถือเป็นลุง ช่วงที่กลับบ้านได้เรียกมากินข้าวด้วยกันประจำ ไม่คิดว่าจะทำรุนแรงขนาดนี้