ผู้การตำรวจปทุมธานี เป็นตัวแทนผบช.ภ.1 นำกระเช้าเข้าเยี่ยม พร้อมมอบเงินช่วยเหลือรปภ.ฮีโร่ โดนแทงเจ็บแต่ยังสู้กับโจรบุกจี้ธนาคาร เผยตอนนี้ยังไม่แจ้งข้อหา รอให้อาการดีขึ้นและให้การได้ก่อน ขณะคนเจ็บบอกคนร้ายล็อกแล้วแทง บาดเจ็บแต่ยังวิ่งไปบอกพนักงานธนาคารไม่ให้ออกมา ก่อนคว้าเก้าอี้ดักฟาดโจร
เวลา 12.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. ที่อาคารปัญจา สายาลักษณ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.จ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้เข้าเยี่ยมนายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร ที่ต่อสู้กับโจรชิงเงินธนาคารออมสิน สาขาทียูโดม ถนนเชียงราก ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จนตัวเองถูกแทงบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายเสียชีวิต
พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวาน ที่นายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารออมสิน ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจและเสียสละ ทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 จึงได้มอบหมายให้ตนเดินทางมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบสิ่งของและเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในส่วนคดีของรปภ.ที่ใช้อาวุธมีดเพื่อป้องกันทรัพย์สินของธนาคารนั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ได้ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องคดีไปก่อน จนกว่ารปภ.จะสามารถออกจากโรงพยาบาลและมาให้การ เพื่อประกอบสำนวนได้ จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
...
ทางด้าน นายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารออมสิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บที่บาดแผล โดยตอนที่เกิดเหตุในธนาคารตอนแรกเข้าใจว่าคนที่เข้ามาเป็นคนขับแกร็บ เพราะส่วนใหญ่พวกเขาไม่ถอดหมวกกันน็อก แต่หลังจากที่คนร้ายเข้ามาล็อกคอ แล้วใช้มีดแทงก็รู้สึกว่าร้อนที่คอจึงได้สะบัดแล้ววิ่งไปบอกกับพนักงานของธนาคารว่า ไม่ให้ออกมา หลังจากที่คนร้ายได้เงินแล้ว ตอนนั้นตนอยู่ข้างนอก จึงได้มองหาอุปกรณ์เพื่อที่จะทำให้คนร้ายไม่สามารถหลบหนีได้ และหันไปเห็นเก้าอี้ที่นั่งอยู่จึงหยิบมา จังหวะนั้นคนร้ายวิ่งออกมาพอดีจึงได้ใช้เก้าอี้ฟาดคนร้าย คิดในใจต้องสู้ ต้องหยุดคนร้ายให้ได้ จึงทำอย่างสุดความสามารถ
ขณะที่นางสาวอำพร สีโคกกรวด อายุ 49 ปี ภรรยารปภ.ฮีโร่ กล่าวความในใจถึงสามีว่า ตอนนี้โล่งแล้วเพราะเขาปลอดภัย ในตอนแรกรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก ตอนนี้ก็ยังห่วงเพราะแฟนยังไม่ออกจากโรงพยาบาล แต่รู้สึกภูมิใจที่แฟนเป็นคนดี และช่วยเหลือคนอื่น โดยแฟนบอกว่าจะยังทำงานเป็นรปภ.ต่อไป