กลุ่มผู้เสียหาย รุมแจ้งจับหนุ่มแสบ อ้างเป็นยี่ปั๊วตุ๋นขายลอตเตอรี่ พาทำสัญญาซื้อขายจ่ายมัดจำบนโรงพักเมืองอุดรธานี มีพยาน มีการลงบันทึกประจำวันเป็นหลักกฐาน แต่สุดท้ายเชิดเงินหนีไปกว่าล้าน ม่ายสาวพยาบาลที่ติดต่อด้วย โดนไปคนเดียว 5.8 แสน
เวลา 14.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางเอ (นามสมมติ) อายุ 41 ปี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร พร้อมพวก 6 คน หลังโดนนายวินัย อายุ 43 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ตุ๋นขายลอตเตอรี่ โดยหลอกมาทำสัญญาจ่ายเงินมัดจำ ลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่โรงพักเมืองอุดรธานี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายไม่ได้ลอตเตอรี่ตามที่จ่ายเงินไป แถมปิดมือถือ และเชิดเงินหนีหายไปกว่า 1 ล้านบาท จนต้องไปแจ้งตำรวจ
นางเอ เล่าว่า ตนแยกทางกับสามีมา 5 ปี ต้องเลี้ยงลูก 2 คน เมื่อเดือนกันยายน 2564 ตนได้รู้จักกับนายวินัย หรือเฮียวินัย เพราะมีคนติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาในโรงพยาบาล ต่อมาเสียชีวิต จึงได้โทรศัพท์แจ้งญาติ ซึ่งนายวินัยเป็นคนรับสาย แสดงตัวเป็นพ่อผู้ตาย หลังจากเสร็จงานศพ นายวินัยยังได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าเศร้าใจยังทำใจไม่ได้ ตนจึงได้พูดปลอบใจเรื่อยมา จนสนิทสนมกัน ซึ่งนายวินัยเล่าว่า เป็นพ่อม่าย พ่อแม่ตายหมดแล้ว มีสวนยางอยู่ที่จ.นครพนม และเป็นยี่ปั๊วมีโควตาลอตเตอรี่ โดยได้โควตาจากเจ๊จำเนียร 35 กล่อง กล่องละ 37,500 บาท นำไปขายต่อ 40,000 บาท ได้กำไรกล่องละ 2,500 บาท พร้อมกับชักชวนตนลงทุนด้วยจนหลงเชื่อ
จากนั้นได้นำรถยนต์ไปรีไฟแนนซ์ ได้เงิน 6 แสนบาท วันที่ 1 ตุลาคม ตนโอนเงินลงทุนให้นายวินัย 350,000 บาท โดยนายวินัยสัญญาว่าจะจ่ายค่างวดรถให้เดือนละ 16,000 บาท และแบ่งกำไรจากการขายลอตเตอรี่ให้เดือนละ 20,000 บาท ซึ่งตนเป็นหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงพ่อแม่ และลูก 2 คน คิดว่าเงินจำนวนนี้จะทำให้ครอบครัวดีขึ้น นอกจากนี้ยังชักชวนแม่ของเพื่อนมาซื้อลอตเตอรี่กับนายวินัย 1 กล่อง 4 หมื่นบาท โดยไปทำสัญญาซื้อขายจ่ายเงินมัดจำ ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองอุดรธานี ยิ่งทำให้น่าเชื่อถือ กระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม นายวินัยเดินทางไปซื้อลอตเตอรี่ที่กรุงเทพฯ วันที่ 4 ตุลาคม ตนโทร.หานายวินัยบอกว่ากำลังขับรถกลับ จ.สกลนคร หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย คิดว่าโดนหลอกแน่นอน จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสกลนคร
...
"เท่าที่รู้มีคนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อใน จ.สกลนคร อุดรธานี และบึงกาฬ 6 ราย รวมทั้งตัวเราเอง รวมค่าเสียหายกว่า 1 ล้านบาท สาเหตุที่หลงเชื่อเพราะพูดจาน่าเชื่อถือ อีกทั้งเห็นว่ามาทำสัญญาซื้อขายที่โรงพัก มีการลงบันทึกประจำวันด้วย นอกจากจะโอนเงินลงทุนซื้อลอตเตอรี่แล้ว ยังยืมเงินไปหลายครั้งรวมเป็นเงิน 230,000 บาท สรุปว่าคนเดียวสูญเงิน 5.8 แสนบาท ฝากถึงนายวินัยว่า ไม่หวังว่าจะได้เงินคืน แต่อยากให้นายวินัยมามอบตัว และเคลียร์กับลูกค้า และอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก”
ส่วน น.ส.บี ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่าขายลอตเตอรี่ทางออนไลน์ ให้ลูกค้าจองก่อน และจ่ายมัดจำมาครึ่งราคา ต่อมาแม่ค้าลอตเตอรี่ออนไลน์ใน จ.บึงกาฬ แนะนำให้รู้จักนายวินัย จึงติดต่อซื้อลอตเตอรี่จากนายวินัย 5 กล่อง ราคา 205,000 บาท นายวินัยนัดมาทำสัญญาซื้อขายจ่ายเงินมัดจำ ในวันที่ 2 ตุลาคม ที่โรงพักเมืองอุดรธานี โดยได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าได้จ่ายมัดจำไปแล้ว 102,500 บาท และจะจ่ายเงินที่เหลือ ในวันที่ 4 ตุลาคม หลังจากได้รับลอตเตอรี่ ต่อมาวันที่ 3 ตุลาคม นายวินัยโทร.ติดต่อมาบอกว่ามีลอตเตอรี่ในโควตาเหลืออีก 5 กล่อง จะลดให้พิเศษให้กล่องละ 37,500 บาท จึงตกลงซื้อและโอนเงินมัดจำไปให้อีก 80,000 บาท รวมเป็นเงิน 182,500 บาท พอถึงวันที่ 4 ตุลาคม นายวินัยไม่นำลอตเตอรี่มาส่ง และยังปิดมือถือหนีติดต่อไม่ได้ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายวินัย ที่โรงพักเมืองอุดรธานี
"ที่น่าเชื่อถือ เพราะมีการทำสัญญาที่สภ.เมืองอุดรธานี มีการเขียนสัญญา มีคนค้ำ มีพยาน มีการลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ ก็เลยเชื่อใจว่าจะไม่โกง เพราะมีสัญญาอยู่แล้ว จึงเลือกลงทุนด้วย ไม่คิดว่าจะโกง ซึ่งได้เปิดจองลอตเตอรี่ทางออนไลน์ไปแล้ว จึงเดือดร้อนเพราะเอาเงินลูกค้ามาสั่งจองก่อน หวังว่าจะได้เงินคืน และฝากถึงเฮียวินัยว่าอยากให้ติดต่อกลับมา มาเคลียร์กัน ไม่ใช่ขาดการติดต่อแบบนี้"
นางดี อายุ 64 ปี ชาวอุดรธานี เล่าปนสะอื้นว่า ก่อนหน้านี้ตนและสามีซึ่งเป็นคนพิการ ไปขายผลไม้ที่หน้าโรงพยาบาลอุดรธานี และได้พบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลใจดีให้ยืมเงินมาลงทุน 2 หมื่นบาท บอกว่าให้เลิกขายผลไม้ ให้นำเงินไปซื้อลอตเตอรี่มาขาย จึงไปขอแบ่งลอตเตอรี่จากคนอื่นมาขายงวดละ 200 ใบ ขายมาได้ 3 งวด พอดีลูกสาวเป็นเพื่อนกับนางเอ ชวนให้มาซื้อลอตเตอรี่กับนายวินัย ตนตกลงซื้อ 1 กล่อง 5 เล่ม 500 ใบ ราคา 40,000 บาท แต่ต้องจ่ายมัดจำ 20,000 บาท และทำสัญญาที่โรงพักเมืองอุดรธานี เสียใจมากที่มาพบเจอคนแบบนี้ เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต อยากฝากถึงนายวินัย ว่าทุกคนเดือดร้อน เพราะกู้เงินมา ให้นำเงินมาคืน อย่าทำแบบนี้ มันบาป