รอง ผบช.น. เผยตำรวจปรับแผนรับมือม็อบแยกดินแดง ระดมกำลังท้องที่รักษาความสงบดูแลประชาชน จับผู้ก่อเหตุหลังเคอร์ฟิว สั่งให้ ผกก.อยู่ใน สน. 24 ชั่วโมงเพื่อควบคุมสั่งการจนกว่าจะสงบ หากบกพร่องมีย้าย

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 24 ก.ย.64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกลุ่มหลักทำการนัดหมายรวมตัวกันในห้วง 24-26 ก.ย.64 ดังนี้ ในวันที่ 24-26 ก.ย.กลุ่มทะลุแก๊ซ ที่สามเหลี่ยมดินแดง ส่วนวันที่ 25 ก.ย.กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดหมายรวมตัวโดยยังไม่มีการระบุเวลาและสถานที่ ส่วนวันที่ 26 ก.ย. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายเวลา 16.00-19.00 น. ที่ลานหน้าหอศิลป์ แยกปทุมวัน

ทั้งนี้ บช.น. ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้ว

...

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า จากการชุมนุมในวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ของกลุ่มทะลุแก๊ซ ที่แยกดินแดง เวลา 19.35-21.00 น. กลุ่มดังกล่าวมารวมตัวกันบริเวณฝั่งถนนมิตรไมตรี มีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว พลุไฟ ระเบิดต่างๆ อาทิ ระเบิดแสวงเครื่องเป็นระยะๆ เวลา 21.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศ แจ้งเตือนให้ยุติการกระทำและให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเป็นเวลาเคอร์ฟิวแล้ว แต่กลุ่มดังกล่าวไม่ยอมเชื่อฟังและยังคงก่อความวุ่นวายต่อ กระทั่ง เวลา 21.40-22.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าบังคับใช้กฎหมาย และผลักดันให้กลุ่มออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และได้จับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าวจำนวน 16 คน ข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกแล้วไม่เลิกฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ออกนอกเคหสถานใน เวลาห้ามตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีที่มีการทุบกระจกป้อมจราจรแยกมเหสักข์ ในท้องที่ สน.บางรัก เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวผู้กระทำผิด 1 คน เป้นเยาวชนชายอายุ 17 ปี เป็นสมาชิกอาชีวะฟันเฟือง สมุทรปราการ จึงขอให้ศาลแขวงพระนครใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว และได้อนุมัติตามหมายจับที่ 257/2564 ลง 22 ก.ย.2564 ในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ก.ย.เวลาประมาณ 13.30 น. ได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดรายนี้ได้ภายในซอยประชาอุทิศ 44 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดยรับว่าเป็นบุคคลตาม หมายจับดังกล่าวจริง จึงนำตัวพร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือน ก.ค.2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 223 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 825 คน ขณะนี้ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 580 คน

ส่วนแนวทางการป้องกันแผนในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้เพิ่มความเข้มการรักษาความสงบเรียบร้อย จับกุมการกระทำผิดที่ละเมิดกฎหมายก่อความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน โดยปรับแผนระดมกำลังตำรวจทุกคนมาใช้รักษาความสงบเรียบร้อย โดยผู้กำกับการต้องอยู่โรงพักตลอด 24 ชั่วโมง รับผิดชอบควบคุมการปฏิบัติ ส่วนมีความผิดบกพร่องต้องถูกย้ายหรือไม่ ต้องดูตามการปฏิบัติว่ามีความบกพร่องอย่างไรหรือไม่ จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับการปรับแผนนั้น จะต้องมีการปรับแผนดำเนินการจับกุมช่วงหลังเคอร์ฟิว และมีการปรับแผนไปตามสถานการณ์ ส่วนกรณีผู้กำกับการทุกสถานีจะต้องมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดป้องกันการทุบทำร้ายกล้องซีซีทีวี อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ทั้งประชาชนและสื่อมวลชน แต่ต้องดำเนินรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น.