รองต๊ะ บช.น.แถลงภาพรวมม็อบ 15 สิงหา เผยควบคุมสถานการณ์ที่แยกดินแดงได้แล้ว ส่วนกรณี "ไฮโซลูกนัท" ยังไม่พบว่า ตาบอด ตามที่ปรากฏในโซเชียล อยู่ระหว่างคุยแพทย์

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.ร่วมแถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองในวันที่ 15 ส.ค. 64 ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ระบุว่า วันนี้ได้มีการนัดชุมนุมของกลุ่มมวลชนต่างๆ จำนวน 6 กลุ่มหลัก โดยตั้งแต่ 13.00 น. ได้มีการนัดชุมนุมในสถานที่ต่างๆ ทั้งรูปแบบคาร์ม็อบ และคาร์ปาร์ก และประกาศยุติในเวลา 18.00 น.

จากนั้นเวลา 18.05 น. กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เคลื่อนตัวมายังแยกดินแดง และพยายามรื้อแนวกั้น จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ลูกแก้ว จุดพลุเพลิง พลุไฟ มีการปาระเบิดที่ผลิตเอง และพยายามฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ ขณะนี้สามารถรักษาพื้นที่ได้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย

นอกจากนี้เวลาประมาณ 14.00 น. ที่แยกสามย่าน เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจ ได้พบชายต้องสงสัย 3 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ จึงขอตรวจสอบตรวจค้น พบปืนและอาวุธมีด จึงได้ควบคุมไปดำเนินคดี

ส่วนภาพรวม จัดการชุมนุมคาร์ปาร์กที่มีการจัดคู่ขนานกัน ประมาณ 30 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ถือว่ามีความผิดโดยเฉพาะกลุ่มที่ก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งการดำเนินคดีจึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายในการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ในส่วนของการชุมนุมมีความวุ่นวายและมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง ในส่วนนี้  พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้กำหนดแนวทางในการป้องกันเหตุร้าย ป้องกันทรัพย์สินที่เป็นสาธารณประโยชน์ โดยให้ตำรวจมีอุปกรณ์ในการป้องกันตัวเอง โล่ ชุดเคลื่อนที่เร็ว และเข้มงวดในจุดตรวจโควิด-19

...

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ระบุถึง เฟกนิวส์ที่มีการเผยแพร่ ปรากฏภาพผู้หญิง ยืนชี้หน้าด่าตำรวจควบคุมฝูงชน (อคฟ.) พร้อมระบุข้อความว่า เป็นลูกสาวของ ผบ.ตร. ยืนยันว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเฟกนิวส์ไม่ใช่ลูกสาวของ ผบ.ตร.

ขณะเดียวกัน ยังยืนยันว่า ไฮโซลูกนัท จากข้อมูลล่ายังไม่พบว่า ตาบอด ตามที่ปรากฏในโซเชียล ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรักษาจากแพทย์ ซึ่งแพทย์ยังไม่ได้ระบุความเห็นใดๆ ซึ่งยังคงต้องรอเวลาให้แพทย์ได้มีการตรวจรักษา และมีการแถลงการณ์ที่ชัดเจนต่อไป